"กรมการค้าภายใน" จ่อแจ้งความ "โฆษกศุลกากร" ปูดข่าวเท็จ ส่งออกแมสก์ 330 ตัน

"กรมการค้าภายใน" จ่อแจ้งความ "โฆษกศุลกากร" ปูดข่าวเท็จ ส่งออกแมสก์ 330 ตัน

"กรมการค้าภายใน" จ่อแจ้งความ "โฆษกศุลกากร" ปูดข่าวเท็จ ส่งออกแมสก์ 330 ตัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้ (12 มี.ค.) มีการรายงานข่าวจากสื่อหลายสำนักว่า นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ให้ข่าวผิดพลาด ทั้งความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และหมิ่นประมาท หลังจากที่โฆษกกรมศุลกากร ให้ข่าวว่า กรมการค้าภายในอนุญาตส่งออกหน้ากากอนามัย ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. 63 มากถึง 330 ตัน โดยนายวิชัยระบุว่า การให้ข้อมูลดังกล่าวของ โฆษกกรมศุลกากร เป็นการให้ข่าวที่ไร้ความรับผิดชอบ ทำให้กรมการค้าภายในเสียหาย เป็นการกระทำที่ไม่สามารถให้อภัยได้ โดยตนเตรียมจะแจ้งความเอาผิดกับผู้ให้ข่าวเท็จดังกล่าว พร้อมทั้งเตรียมแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดด้วย

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ นายชัยยุทธ คำคุณ โฆษกกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ได้ออกมาเปิดเผยว่า ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. ที่ผ่านมา มีการส่งออกหน้ากากอนามัยมูลค่าทั้งสิ้น 160 ล้านบาท หรือ คิดเป็นปริมาณ 330 ตัน แบ่งเป็นเดือน ม.ค. จำนวน 150 ตัน เดือน ก.พ. จำนวน 180 ตัน และยืนยันว่ากรมศุลกากรเก็บข้อมูลเอกสารส่งออกหน้ากากอนามัยตามใบอนุญาตของกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งการส่งออกดังกล่าวเป็นการดำเนินการของผู้ประกอบการไม่กี่ราย ไปในหลายประเทศทั้ง จีน ฮ่องกง สหรัฐฯ

ขณะที่การนำเข้าหน้ากากอนามัยในเดือน ม.ค. อยู่ที่ 145 ตัน มูลค่า 55 ล้านบาท และเดือน ก.พ. อยู่ที่ 71 ตัน มูลค่า 45 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่นำเข้าจากจีน ในส่วนนี้จะต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราร้อยละ 5 ของมูลค่าที่สำแดง โดยการนำเข้ามาเพื่อใช้ในประเทศ หรือเป็นการนำเข้ามาเพื่อส่งออกต่อนั้น กรมศุลกากรไม่มีข้อมูลในส่วนนี้ และประเมินได้ยากว่าจำนวนหน้ากากอนามัยที่นำเข้ามาคิดเป็นจำนวนกี่ชิ้น เพราะการสำแดงสินค้าให้ทำตามน้ำหนัก

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา กรมศุลกากรต้องออกเอกสารชี้แจงถึงข่าวดังกล่าว ระบุว่าตัวเลข 330 ตัน ที่แถลงไปก่อนหน้านี้ เป็นตัวเลขจากพิกัดศุลกากร ซึ่งรวมสินค้าชนิดอื่นนอกจากหน้ากากอนามัยอีกหลายชนิด เช่น ชุดผ้าหุ้มเบาะ เชือกผูกรองเท้า ผ้ากันเปื้อน ผ้าคลุม สายคล้องคอทำด้วยผ้าทอ เป็นต้น โดยที่ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลข ในช่วงเดือน ม.ค. ถึงวันที่ 4 ก.พ. 2563 ก่อนที่จะมีประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 เรื่อง การควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งหน้ากากอนามัย ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. 2563 เพื่อควบคุมการส่งออกหน้ากากอนามัย เพื่อลดการขาดแคลนหน้ากากอนามัยในประเทศ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook