"ทนายดัง" ปะทะ "สนธิญา" ถามเดือด รับงานใครมาปิดปาก "แหม่มโพธิ์ดำ" หรือเปล่า
"ทนายดัง" ปะทะ "สนธิญา" ซัดเดือดร้อนอะไร รับงานใครหรือเปล่ามาปิดปาก "แหม่มโพธิ์ดำ" อีกฝ่ายลั่นไม่เห็นต้องกลัว พร้อมตายไปด้วยกัน
รายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.55 - 14.50 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (12 มี.ค.) "ดร. เสรี วงษ์มณฑา" ได้เปิดใจสัมภาษณ์ "สนธิญา สวัสดี" อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กรณีแหม่มโพธิ์ดำออกมาแฉว่ามีการกักตุนหน้ากากอนามัยจำนวน 200 ล้านชิ้น ก่อนที่ต่อมาสนธิญาจะออกมาแจ้งความเอาผิดเพื่อให้ตรวจสอบเพจทันที รวมทั้ง "ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร" ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม
ในสายตาทนาย เพจแหม่มโพธิ์ดำเป็นเพจน้ำดีหรือไม่ดี?
ทนาย : "เป็นเพจน้ำดี เขาก็ช่วยสังคมมาโดยตลอด ไม่ได้อิงการเมืองและเปิดเผยข้อมูล ข้อมูลตัวนี้ถามว่าเขาเอามาให้อ.เสรี อาจารย์กล้าเปิดมั้ย ฉะนั้นเขาเอามาเปิดให้เขาก็มีความเสี่ยงที่จะถูกข่มขู่หรือทำร้ายร่างกายได้"
เมื่อรู้ว่าเพจนี้คุณสนธิญาไปฟ้อง รู้สึกยังไง?
ทนาย : "ต้องมองมุมหนึ่ง ถ้าเกิดวันหนึ่งมีคนมาพูดและบอกข้าราชการว่ามีการอมหน้ากากอนามัย ทำให้หน้ากากในประเทศขาดแคลน มีการเอาหน้ากากไปกักตุนไว้ เก็งกำไรราคาสินค้า และคนๆ นั้นอาจรู้จักหรือใกล้ชิดคนในรัฐบาล เราจะฟังมั้ยว่าเขาพูดจริงหรือไม่จริง เราอยากตรวจสอบมั้ย ผมก็อยากให้ตรวจสอบ เพราะผมเดือดร้อน ผมหาซื้อหน้ากากไม่ได้ แล้วหมอก็เดือดร้อน ไอ้โม่งที่เอาหน้ากากไปขายต่างประเทศแล้วทำประเทศชาติเดือดร้อน ต้องถูกตรวจสอบและต้องมีความชัดเจน ต้องหาให้เจอว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงยังไง แต่อย่างน้อยหลักฐานที่อยู่เบื้องหลังกองบะเริ่มเทิ่ม เอามาแจกรพ.ได้ไม่รู้กี่เดือน มันเกิดอะไรขึ้นในการทำงาน และส่งออกไปได้ยังไงยังไม่ได้คำตอบเลยนะ"
แหม่มกำลังถูกรังแก?
ทนาย : "แหม่มถูกรังแกหรือไม่ไม่ทราบ แต่โดยทั่วไป ถ้ามีคนมาเปิดประเด็นแล้วคนเปิดประเด็นต้องโดนตรวจสอบ อย่าลืมนะว่าในระบบข้าราชการ สมมติ ปปช. หรือการตรวจสอบการทุจริตในภาครัฐเป็นเรื่องเสี่ยง ถ้าคนเปิดประเด็นต้องเปิดเผยตัวเองทุกครั้งไป ใครมันจะมาเปิดเผยให้รู้ว่ามีการทุจริตคอรัปชั่น นี่คือการคุ้มครองตามกฎหมายเลยนะ เปิดมาแล้วคุณมีหน้าที่ตรวจสอบ คุณก็ตรวจสอบไปว่าจริงหรือไม่จริง"
คุณสนธิญา คุณมองว่าเพจแหม่มโพธิ์ดำเป็นเพจน้ำดีหรือไม่ดี?
สนธิญา : "มองว่าเป็นเพจน้ำดี ประเด็นที่สองคือขออนุญาตกราบเรียนที่ผมไปเมื่อวาน คือให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงคือเพจแหม่มโพธิ์ดำไม่มีตัวตน ไม่มีชื่อ ไม่มีสถานที่ ผมติดตามมาตลอด สองการนำข้อมูลที่คุณบอยบอกว่ามีอยู่ 200 ล้านชิ้น ตัวนั้นแล้วแหม่มโพธิ์ดำเอามาลงอีกทีนึง ผมเข้าใจว่าเป็นการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์"
ตกลงเป็นนายบอย หรือแหม่มโพธิ์ดำ ที่เอาข้อมูลอันเป็นเท็จมาลง?
สนธิญา : "เท่าที่ผมทราบ ขณะนี้นายบอยถูกแจ้งความว่าเอาข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ขณะเดียวกันแหม่มโพธิ์ดำก็เอาข้อความนายบอยมาอยู่ในเพจเขาอีกทีนึง"
แล้วแรงจูงใจที่ไปฟ้องแหม่มโพธิ์ดำคืออะไร?
สนธิญา : "ในส่วนของผม คือถ้าเมื่อไหร่ก็ตามบุคคลที่จะทำเพื่อประโยชน์ของสาธารณะ ต้องเอาข้อมูลที่เป็นจริงหรือต้องกล้าที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาว่าเป็นใครอยู่ที่ไหนอย่างไร ถ้าตรวจสอบคนอื่นได้ คนอื่นก็ต้องตรวจสอบตัวเขาได้ด้วยเช่นเดียวกัน"
ทนายรู้สึกยังไง ที่สนธิญามาฟ้องเรื่องนี้?
ทนาย : "จริงๆ น่าจะไปดำเนินคดีกับนายบอยนะ ไม่น่ามาดำเนินคดีแหม่ม เพราะนายบอยเป็นคนนำเข้าข้อมูลคนแรก และเขาก็โพสต์ ไลฟ์สดมา คนไทยทั้งประเทศไม่เคยมีใครรู้มาก่อนว่านายบอยเป็นคนขายหน้ากากอนามัย จนกระทั่งแหม่มโพธิ์ดำออกมาเปิดโปง แฉให้เห็นว่าสต็อกสินค้ามีขนาดไหน เพราะฉะนั้นนี่เป็นประโยชน์หรือเป็นโทษต่อสังคม สังคมตื่นตะหนกมั้ยที่แหม่มโพธิ์ดำออกมาโพสต์ หรือสังคมตื่นตระหนกที่นายบอยไลฟ์สดขายของ ต้องแยกกันนะ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 อนุ 1 การนำเข้าข้อมูลเท็จ ปอท. ไม่ได้ดำเนินคดีเป็นหลักนะครับ คนเข้าใจว่าทุกอันที่นำเข้าข้อมูลเท็จต้องถูกดำเนินคดี ไม่ใช่นะครับ ตามกฎหมายแล้วปอท. ไม่ดำเนินคดีนะครับ มีความเห็นทางนิติกรเยอะแยะไปหมดเลย ที่เขาดำเนินคดีกรณีโควิด-19 มันเป็นมาตรา 14 อนุ 2 กรณีเอาข่าวมาปล่อยเป็นโรคระบาด ภัยธรรมชาติหรืออุทักภัยแล้วเป็นข่าวปลอม ก็ถูกดำเนินคดีได้ ไม่ใช่การนำเข้าข้อมูลเท็จ คนละส่วนเลย"
ทำไมคุณสนธิญาไม่ฟ้องนายบอย?
สนธิญา : "ผมไปเมื่อวานเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าหนึ่งหน้าเพจของแหม่มโพธิ์ดำอยู่ที่ไหน เป็นใคร สองคือผมร้องโดยชัดเจนว่าให้ปอท.ตรวจสอบว่า 200 ล้านชิ้นมีจริงหรือเปล่า ข้อมูลตรงนี้นายบอยโดนดำเนินคดีไปแล้ว ถ้าเมื่อไหร่ได้บทสรุปที่ชัดเจนจากปอท. ผมดำเนินการทุกคน ผมกราบเรียนไปที่แหม่มโพธิ์ดำด้วยว่า ที่เขาบอกว่ามีนักการเมืองร่วมกระบวนการในการกักตุน ส่งเอกสารมาให้ผมเลย ผมเอาชีวิตเป็นเดิมพันทุกพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับหน้ากาก ผมจะเดินเปิดหน้าให้เลย"
อยากให้แหม่มเปิดเผยตัวตนว่าเป็นใครอยู่ที่ไหนอย่างไร ทำไมไม่ไปล่าหน้ากาก แต่ไปล่าตัวแหม่มโพธิ์ดำ ทำไมอยากให้เขาเปิดตัวตน?
สนธิญา : "กรณีของแหม่มโพธิ์ดำ ผมกราบเรียกร้องเลยนะครับ ว่าถ้าท่านมั่นใจว่าท่านทำในสิ่งทีถูกต้องแล้วท่านอยู่ต่างประเทศด้วย ท่านเปิดได้เลย"
ถ้าเปิดขึ้นมาเขาจะอันตรายเพราะไม่มีใครคุ้มครอง ทนายเห็นด้วยกับคุณสนธิญามั้ย?
ทนาย : "ถ้าเขาออกมาร้องเรียนเรื่องส่วนตัว ผมเห็นด้วยว่าควรต้องเปิด แต่นี่เป็นประโยชน์สาธารณะ เป็นเรื่องที่คนไม่กล้าพูดกัน สำนักข่าวไม่กล้าเล่น แหม่มโพธิ์ดำเป็นเพจสายดาร์ก ไม่มีตัวตน เป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่มาแทนประชาชนที่ไม่กล้าพูดความจริง พอเปิดออกมาแล้วทำให้กระทบทุกหน่วยงานหมด ถ้าหน่วยงานไม่ทุจริต ไม่มีการอมหน้ากากอนามัย ไม่เห็นต้องเดือดร้อนเลยนี่ ไม่เห็นต้องมาดำเนินคดีกับแหม่มโพธิ์ดำเลย คุณก็อธิบายสังคมมาสิ เอาหน้ากากอนามัยมาจากไหน มีจริงมั้ย 200 ล้านชิ้น ทุกวันนี้ยังไม่เจอคำตอบเลยนะ นอกจากดำเนินคดีกับบอยไป ไม่เจอเลยนะเขาเอามาจากไหน เอามาไลฟ์สด ส่งออกที่ไหน ยังไม่ออกมาแถลงเลยนะครับ สังคมติดใจเรื่องนี้อยู่นะครับ"
คุณสนธิญาอยากให้เปิด คิดว่าเขามีเบื้องหลังเหรอ?
สนธิญา : "ผมชื่นชมการทำงานของเพจแหม่มโพธิ์ดำและหลายๆ เพจซึ่งไม่ได้เปิดเผยตัวจริง แต่ในวันนี้เราต้องการความโปร่งใสทุกระดับ ฉะนั้นการที่คุณจะเปิดจะเป็นเรื่องคุณประโยชน์ของสังคมมากกว่า ถ้าเราคิดจะทำงานเพื่อสังคมและส่วนรวมอย่างจริงจัง เราสามารถมีสิ่งทดแทนหรือตั้งใจจริง ก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไร"
แต่แหม่มเขาพูดว่าเพื่อเปิดโปงเรื่องอย่างนี้ เขาพร้อมยอมตาย ไม่เห็นใจเขาเหรอ?
สนธิญา : "ผมก็พร้อมจะยอมตายกับคุณแหม่มโพธิ์ดำครับ สิ่งไหนที่คุณแหม่มบอกว่าพรรคการเมืองมีการทุจริต มีการกักตุน คุณแหม่มเอามาให้ผมเลย ตรงไหนที่ไม่กล้าเปิดเผย เอามาให้ผมครับ ผมจะเปิดเผยและดำเนินการเลย"
ทนายมองยังไง?
ทนาย : "วิธีการทำงานของนักเคลื่อนไหวมีความหลากหลาย แหม่มโพธิ์ดำเป็นนักเคลื่อนไหวยุคใหม่ ที่ใช้สื่อโซเชียลในการต่อต้าน เรียกร้อง ตรวจสอบคนทุจริต คนที่ถูกรังแก เขาไม่เปิดเผยอยู่แล้ว ถ้าไปดูต่างประเทศ ต่างประเทศก็มีนะครับเพจสายดาร์ก เพราะในประเทศที่ไม่เจริญ ไม่พัฒนา เพจสายดาร์กจะเป็นกระบอกเสียงให้คนกล้าพูดความจริงออกมาและหน่วยงานก็ตรวจสอบความจริงสิ ถ้าคุณจะตรวจหาต้นตอ เขาไม่มีนโยบายเปิดต้นตออยู่แล้ว สิ่งที่คุณทำมันจริงหรือไม่จริงค่ะ ประเด็นมีแค่นี้เอง เอาง่ายๆ ถ้าจะตรวจสอบเรื่องนี้จริง ทำไมคุณสนธิญาไม่ไปกรมการค้าภายในล่ะ ว่าหน้ากากมีจริงมั้ย ไม่ไปร้องกองปราบให้ไปตรวจสอบยึดบัญชี ไปร้องปปง.สิว่ามีการโอน มีการขายมาแล้วกี่ร้อยล้าน"
ตามหาหน้ากากดีกว่าตามหาแหม่ม?
ทนาย : "เจอแหม่มแล้วยังไง เจอหน้ากากคนไทยเฮนะครับ แล้วคนไทยจะชื่นชมคุณสนธิญาด้วยว่าทำเพื่อประเทศชาติ ทำเพื่อคนไทย ทำเพื่อหมอ"
ระหว่างไปตามหาหน้ากากกับการตามหาตัวแหม่มให้เปิดเผย อะไรสำคัญกว่ากัน?
สนธิญา : "หลังจากนี้ผมก็จะไปตามเหมือนที่ทนายรณณรงค์ว่า ก็คือไม่ว่ากรมการค้าภายใน ในเรื่องการกักตุน เรื่องตร.ดำเนินการ เรื่องสอบสวนสืบสวน 200 ล้านชิ้น มีจริงหรือเปล่า ผมก็จะตาม"
แล้วทำไมไปตามหาแหม่ม?
สนธิญา : "เพราะจุดเริ่มต้นมันมาจากบอยและแหม่มครับ"
การที่คุณสนธิญาทำแบบนี้ คุณคิดว่าแหม่มเขามีเบื้องหลังอะไรหรือเปล่าถึงได้ทำแบบนี้ หรือไม่ชอบเป็นการส่วนตัว?
สนธิญา : "ผมกราบเรียนด้วยความสุจริตใจ ผมไม่เคยรู้จักคุณแหม่มเป็นการส่วนตัว ผมนิยมและชื่นชอบคนที่ออกมาเปิดเผยหรือต่อสู้ เรียกร้องความเป็นธรรม แต่ที่ผมติดใจคือผมอยากให้เปิดเผยชื่อจริง ตัวจริง เสียงจริงออกมาเพื่อประชาชนจะได้รับทราบ"
คุณสนธิญาบอกตัวตนตัวเองว่าเป็นสมาชิกพลังประชารัฐ ขณะเดียวกันก็มีคนออกมาบอกว่าคุณออกไปแล้ว ความจริงคือยังไง?
สนธิญา : "การเช็กว่าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ส่วนที่หนึ่งเช็กกับกต.ครับ ส่วนที่สองเช็กกับพรรคการเมือง ผมทราบข่าวว่าเขาบอกว่าชื่อผมไม่อยู่ในรายชื่อสมาชิกพรรค แต่การประชุมพรรคครั้งสุดท้ายที่โรงแรมมิราเคิล ประชุมใหญ่นะ ผมไปประชุม มีหมายเลขสมาชิก"
จริงๆ ยังเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ?
สนธิญา : "ผมสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ส่วนการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ อยู่ที่พรรคการเมืองว่าได้ส่งชื่อไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือยัง"
คุณสนธิญาถูกกล่าวหาว่าการอ้างเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ อาจรับงานใครมา เพื่อทำลายรัฐบาลหรือเปล่า?
สนธิญา : "จุดประสงค์หลักผมต้องการช่วยรัฐบาล กรณีที่คุณบอกว่ากักตุน 200 ล้านชิ้น มันมีจริงหรือเปล่า"
ทนาย : "ลูกเพจแหม่มเขาฝากถามว่าคุณสนธิญาเกี่ยวข้องอะไร และเดือดร้อนอะไร ทำไมถึงไปแจ้ง เวลาเขาเปิดเผยเรื่องทุจริตคอรัปชั่น เดือดร้อนอะไรด้วย"
สนธิญา : "เป็นคนทำงานเกี่ยวกับเอ็นจีโอมาพอสมควร ถ้าดูในกูเกิลของผมจะเห็น ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะสังคมการเมือง ฉะนั้นเรื่องบางเรื่องที่้ต้องการความกระจ่าง ผมต้องการความกระจ่างของแหม่มโพธิ์ดำเท่านั้นเอง ว่าคุณคือใครอย่างไร โปรไฟล์ของคุณเปิดแบบของผมมั้ยครับ ไปดูของผม ผมเปิดหมด"
นายบอย ณ เวลานี้มีการฟ้องแล้ว หลายคนบอกว่าอ่อนมาก ฟ้องแค่พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์อย่างเดียว?
ทนาย : "ตอนแรกก็คิดว่าของกลางก็อยู่ข้างหลัง ทำไมไม่ตั้งข้อหาตามพ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้า ปรากฎว่าหลังจากนั้น 1 วัน กรมการค้าภายในก็เริ่มดำเนินคดี แสดงว่ามีข้อมูลแล้วแต่ยังไม่ได้แถลง ประเด็นของเรื่องนี้ หน้ากากที่อยู่เบื้องหลัง คุณขายต่อเขาราคาเท่าไหร่ ถ้าขายเกิน 2.50 บาท คุณโดนดำเนินคดีนะครับ คนเอาของมาขาย เอามาจากไหน"
เขาบอกสั่งจากเวียดนาม?
ทนาย : "เอาหลักฐานมา ตั้ง 3 วันแล้วทำไมไม่เอาหลักฐานมา ผมว่าไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้าบอยบอกว่าไม่รู้ไม่เห็น เอาใบแสดงสินค้านำเข้ามาเลยว่าคุณเอามาจากไหน อย่ามาพูดลอยๆ แบบนี้"
ตัวละครชื่อพันธ์ยศ มองยังไง?
ทนาย : "เขาบอกเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย เขาเป็นนายหน้า แต่พอเราถามว่าวงจรปิดในบ้านอยู่ไหน มันเสีย ถ้าวงจรปิดมันอยู่ จะได้เห็นว่ามีรถเข้าออก ยกสินค้ายังไงมั้ย แต่มันเสียครับ"
พิตตินันท์ เขาบอกว่าที่ไปคุยจะซื้อของเพื่อเอาไปแจกชาวบ้าน?
ทนาย : "มุมนึงก็ดีใจมากที่เห็นแก่ชาวบ้านจะเอาไปแจก แต่ในมุมนึงต้องยอมรับว่าการที่เราเป็นคณะทำงานของรัฐมนตรีช่วย เราไปปรากฎภาพกับใครก็ตาม มันมีคนบางประเภทเอาไปอ้างและมีชาวบ้านหลงเชื่อ ถามว่าเขาดำเนินคดีจริงจังยังไงบ้างหรือแค่ไปลงบันทึกประจำวัน ซึ่งถ้าแค่นั้นมันทำอะไรไม่ได้หรอก"
ถ้าพันธ์ยศบอกว่าไม่ได้กักตุน เขาทำก่อนมีประกาศ จะรอดมั้ย?
ทนาย : "นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดของประเทศไทย เรามีการประกาศหลังเราส่งออกไปหมดแล้วครับ แล้วแก้ไขได้มั้ย"
เรื่องจะจบได้มั้ย?
ทนาย : "ต้องรอกระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบภายในเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะประชาชนไม่รู้หรอกว่าการทำงานเป็นยังไง แต่รู้แค่ว่าหมอไม่มีหน้ากากใช้ ส่งไปขายทำไม ส่งไปได้ยังไง"
ในสายตาทนาย คิดว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลังวาระซ่อนเร้นอะไรมั้ย?
ทนาย : "เบื้องหลังคือประชาชนไม่มีหน้ากากใช้ อย่าไปคิดอะไรเยอะ เบื้องหน้าคือใครดูแลกระทรวงไหนรับผิดชอบเอาเอง จริงๆ มันควรเป็นกระทรวงพาณิชย์ มันไปเกี่ยวกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ยังไง"
บางคนบอกไม่ได้หายไปไหน?
ทนาย : "เฮ้ย ต้องมีศักยภาพในการตามหาสิ เอามา แล้วแจกจ่าย เอามาขายราคาถูกก็ยังดี จะให้ผมซื้อชิ้นละ 20 บาททุกวันก็ไม่ไหวนะ"
การที่แหม่มโพธิ์ดำออกมาแบบนี้ คิดว่ามีเบื้องหลังหรือเปล่า?
สนธิญา : "ไม่มีเบื้องหลัง แต่สิ่งหนึ่งคือทำให้สังคมเกิดความตื่นตระหนก สถานการณ์เกิดขึ้้นในปัจจุบัน ทั้งหน้ากากและเจลล้างมือ มาจากข้อมูลที่ไม่ชัดเจนของแต่ละคน"
ภาพคุณสนธิญา เป็นภาพคนจ้องฟ้องแหม่มโพธิ์ดำ แต่การตามหาหน้ากากจะแสดงบทบาทยังไงให้มันเท่าๆ กัน?
สนธิญา : "ไปดูในเฟซบุ๊กผมครับ ผมเขียนถึงผู้ที่รับผิดชอบหน้ากากอนามัยอยู่สองส่วน ส่วนหนึ่งคือกระทรวงพาณิชย์ อีกส่วนคือกระทรวงสาธารณสุข ผมทำหนังสือจะไปยื่นหนังสือที่กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงสาธารณสุขแล้ว แต่สถานะของผมตอนนั้นคือสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ถ้าผมไปยื่นก็เท่ากับว่าทำให้พรรครัฐบาลแตก เท่ากับมีคนส่งซิกส์ให้ผมไปโจมตีพรรคที่ดูแลรับผิดชอบ แต่ไปดูในเฟซบุ๊ก ผมเขียนตลอด แล้วผมก็อาสาด้วยตัวเองด้วยว่าให้ผมไปนั่งสิ แล้วผมจะไปตามให้ดู จะแจกให้ดู แล้วผมจะนั่งแถลงข่าวทุกวัน ว่าวันนี้ให้ใครเท่าไหร่"
ทนายมีอะไรอยากถามคุณสนธิญา?
ทนาย : "ก็เดือดร้อนเรื่องอะไรถึงออกมาทำแบบนี้ ทำไมไม่ไปที่กระทรวงพาณิชย์ก่อน ทำไมต้องมาจับแหม่มก่อน แน่นอนมีคนฝากถามมาเหมือนกันว่ารับงานใครมาหรือเปล่าจะมาปิดปากแหม่มให้แหม่มปิดเพจ ตอนนี้แหม่มกลัวมากต้องปิดเพจหนี ทางนี้ไปข่มขู่เขาหรือเปล่า ไปคุกคามเขาหรือเปล่า ทำให้เขาไม่กล้าลงข้อมูลลึกกว่านี้"