Sanook คลุกข่าวเช้า 13 มี.ค. 63 หุ้นร่วงหนัก! กังวลโควิด-19 ระบาดรุนแรง

Sanook คลุกข่าวเช้า 13 มี.ค. 63 หุ้นร่วงหนัก! กังวลโควิด-19 ระบาดรุนแรง

Sanook คลุกข่าวเช้า 13 มี.ค. 63 หุ้นร่วงหนัก! กังวลโควิด-19 ระบาดรุนแรง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สวัสดีครับ พบกับการอัปเดตข่าวสารร้อนๆ พร้อมกับสถานการณ์ที่น่าติดตาม ประจำวันศุกร์ที่ 13 มีนาคม 2563

ดูเหมือนว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (COVID-19) จะขยายวงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าสถานการณ์ในประเทศจีนจะคลี่คลายลงแล้วก็ตาม แต่ปรากฏว่าในหลายๆ ประเทศกลับต้องเผชิญกับภาวะวิกฤติจากโควิด-19 โดยเฉพาะประเทศในฝั่งยุโรป อาทิ อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส เยอรมนี รวมไปถึงสหรัฐอเมริกาที่ต้องบอกว่ากำลังรับมือกับ COVID-19 อย่างเต็มกำลัง เพราะเมื่อได้รับการยืนยันว่ามีนักบาสเกตบอลคนหนึ่งในทีมยูทาห์ แจ๊ซ ป่วยโรคโควิด-19 ผู้บริหารของ NBA ก็ตัดสินใจประกาศยุติการแข่งขันในฤดูกาลนี้ แบบไร้กำหนด

ขณะที่หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศมาตรการระงับการเดินทางจากประเทศในยุโรปทั้งหมด ยกเว้นสหราชอาณาจักร ในช่วง 30 วันข้างหน้า โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้ ส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นไปอย่างตื่นตระหนก จนตลาดหุ้นนิวยอร์กต้องใช้ระบบ Circuit Breaker เพื่อพักการซื้อขายเป็นเวลา 15 นาที หลังตลาดทรุดหนัก ก่อนที่ดัชนีดาวโจนส์จะปิดตัวลดลง 2,352.60 จุด ทำสถิติตกต่ำสุดในรอบ 33 ปี นับตั้งแต่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเผชิญวิกฤต "แบล็คมันเดย์" เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2530

ข้ามมาที่บ้านเรากันบ้าง ภาวะการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็เจอกับภาวะตื่นตระหนกเช่นกัน จนต้องมีการหยุดการซื้อขายหุ้นชั่วคราวเป็นเวลา 30 นาที ตั้งแต่เวลา 14:38 ถึง 15:08 น. ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี 4 เดือน นับจากวันที่ 27 ตุลาคม 2551 และนับเป็นการใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ หรือพักการซื้อขายหุ้นชั่วคราว เป็นครั้งที่ 4 ของบ้านเรา

ก่อนที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะปิดที่ระดับ 1,114.91 จุด ลดลง 134.98 จุด (-10.80%) มูลค่าการซื้อขาย 101,652.04 ล้านบาท ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี นับจากจุดต่ำสุดเดิมที่ 1,099 จุด เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2555

ซึ่งคาดว่าปัจจัยสำคัญมาจากผลในเชิงจิตวิทยาที่นักลงทุนกังวลกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (COVID-19) ในประเทศไทยของเรา

เพราะเมื่อช่วงสายๆ ของเมื่อวาน กระทรวงสาธารณสุขแถลงว่าพบผู้ป่วยรวดเดียว 11 คน เป็นกลุ่มเดียวกัน โดยเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย แล้วไปเที่ยวสังสรรค์แฮงค์เอาท์กันเป็นกลุ่มทั้งกับเพื่อนคนไทยและชาวฮ่องกงรวม 15 คน

กระทั่งวันที่ 25 ก.พ. หนึ่งในกลุ่มนี้ซึ่งเป็นชาวฮ่องกง มีอาการป่วยเป็นไข้ แต่ก็ยังมีการไปเที่ยวสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน จนมาวันที่ 4 มี.ค. หลายคนในกลุ่มมีอาการป่วยตามกันไป รวม 11 คน ซึ่งจากการสอบประวัติพบว่ามีพฤติกรรมดื่มเหล้าจากแก้วเดียวกัน สูบบุหรี่มวนเดียวกัน ส่วนคนที่เหลือในกลุ่มที่ไม่ติดเชื้อนั้น เป็นคนที่ไม่ได้ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ร่วมกับคนที่ติดเชื้อนั่นเอง

ส่งผลให้ ณ ขณะนี้ ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 สะสมในประเทศไทยมีทั้งสิ้น 70 ราย รักษาหายแล้ว 35 ราย ยังรักษาอาการอยู่ 34 ราย เสียชีวิต 1 ราย 

อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่า แม้จะพบผู้ป่วยเพิ่มเป็นกลุ่มก้อน แต่ก็ยังถือว่าสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในไทย ยังอยู่ในระยะ 2 และไม่ได้เป็น Super Spreader เพราะยังเป็นการติดเชื้อในกลุ่มก้อนเดียวกัน เป็นการติดในวงจำกัด ที่ใช้ชีวิตคลุกคลีใกล้ชิดกัน ไม่ได้แพร่ไปสู่ผู้อื่น

นอกจากนี้ เริ่มมีการรายงานว่าคนดังในแวดวงต่างๆ พบการป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา ล่าสุด จัสจิน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ต้องกักตัวเองอยู่ในบ้านพัก หลังจากนางโซฟี เกรชัวร์ ทรูโด ภริยาที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากสหราชอาณาจักร มีผลตรวจว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา หลังจากมีอาการคล้ายกับโรคหวัด และมีไข้ต่ำ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (11 มี.ค.)

ขณะที่ ทอม แฮงค์ นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง และริต้า วิลสัน ภรรยา ซึ่งตรวจพบว่าป่วยโควิด-19 ระหว่างที่ทั้งคู่อยู่ในออสเตรเลีย เพราะดาราหนุ่มกำลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องหนึ่งอยู่ โดยเจ้าตัวอยู่ระหว่างกักตัว เฝ้าสังเกต ติดตามอาการ และแยกตัวออกจากผู้คน แต่ก็ไม่ลืมทิ้งท้ายว่าจะมาอัปเดตอาการของตัวเองและภรรยาให้แฟนๆ ได้รับทราบผ่านทางโลกออนไลน์เป็นระยะ พร้อมกับบอกให้ทุกคนรักษาตัวให้ดี

ในวงการกีฬา นอกจากนักบาสเกตบอลเอ็นบีเอ นักฟุตบอลในศึกกัลโช เซเรีย อา แห่งอิตาลีแล้ว เพิ่งมีรายงานข่าวเข้ามาเมื่อเช้าว่า มิเกล อาร์เตตา ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล ก็ป่วยจากโควิด-19 เช่นกัน รวมทั้งสโมสรเชลซีก็แถลงว่า คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย มีผลตรวจว่าป่วยโควิด-19 เช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook