แข่งกับความตาย! พี่น้องปีนรั้วพังประตูบ้านไฟไหม้ ช่วยชีวิตป้าป่วยติดเตียง

(16 มี.ค.63) เมื่อเวลา 12.00 น. ร.ต.ท หญิง หัทยา แก้วชูศรี รอง.สว.(สอบสวน) สภ.บ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 49 หมู่ 4 ตำบลเจ็ดริ้ว อำเภอบ้านแพ้ว จึงรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลเกษตรพัฒนาและตำบลบ้านแพ้วจำนวน 2 คันเพื่อเข้าควบคุมเพลิง

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้นมีรั้วปิดล้อมบ้านในเนื้อที่จำนวน 1 ไร่ ต้นเพลิงคือสายไฟฟ้าเครื่องสูบน้ำที่อยู่บริเวณใต้บันไดบ้าน ซึ่งบริเวณนั้นมีโต๊ะไม้และถุงพลาสติกที่เป็นเชื้อไฟอย่างดี ไฟได้ลุกลามขึ้นไปติดกับตัวบันไดบ้านไหม้ผ้าม่านหน้าต่างบนชั้นสอง พัดลมเพดาน หลายตัวส่วนที่เป็นพลาสติกละลายไหลย้อยลงมา แต่ยังโชคดีที่ญาติอยู่บ้านติดกันได้กลิ่นไหม้และเห็นควันไฟจึงรีบเข้ามาช่วยควบคุมเพลิงไว้ได้ 

จากการสอบถาม นางสาวสโรชา อายุ 27 ปี เป็นญาติบ้านอยู่ติดกันและเป็นคนเข้าไปช่วยเล่าว่า ตนได้กลิ่นไหม้จึงเดินหาแต่ก็ไม่เจอจนมองมาเห็นกลุ่มควันที่บ้านที่เกิดเหตุจึงปีนรั้วเข้ามา พร้อมกับพี่ชายของตนแล้วช่วยกันพังประตูบ้านนำ คุณป้าที่ป่วยติดเตียงออกจากบ้านที่เกิดเหตุ ส่วนด้านพี่ชายเล่าให้ฟังว่า ได้ยินเสียงหมาร้องและเสียงกระแทกดังนานจนผิดสังเกต จึงรีบวิ่งมาดู เห็นรั้วล็อกจึงตัดสินใจปีนเข้ามา พบไฟกำลังลุกไหม้จึงตัดสินใจพังประตูเข้าไป เพราะทราบว่าบ้านหลังนี้จะมีคนป่วยติดเตียง 1 คน คือ นางอุดมศิลป์ อายุ 54 ปี เป็นคนพิการนอนอยู่ภายในบ้านใกล้กับจุดที่ไฟไหม้ท่ามกลางกลุ่มควันจำนวนมากตนจึงอุ้มตัวออกมาได้ทัน

จากนั้นได้ใช้สายยางฉีดน้ำพร้อมกับชาวบ้านช่วยกันตักน้ำในตุ่ม มาดับไฟไม่ให้ลุกลามจนรถดับเพลิง มาถึงและได้ฉีดน้ำสกัดไฟไว้ได้ทันเหตุการณ์ก่อนเพลิงจะลุกลามทั้งหลัง 

ด้านนางศิริพร อายุ 49 ปี เจ้าของบ้าน เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนออกไปซื้อของที่ร้านค้าหน้าวัดเจ็ดริ้ว โดยทิ้งพี่สาวที่ป่วยติดเตียงไว้ในบ้านเพราะไปแค่แป๊บเดียว ก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง จะล็อกประตูบ้านและประตูรั้วไว้ตลอดไม่คิดว่าวันนี้จะเกิดเหตุเพลิงไหม้ ตนรู้สึกตกใจและเป็นห่วงพี่สาวที่ป่วยมาก เมื่อมีคนโทรไปบอกตนรีบกลับมา โชคดีมีคนช่วยพี่สาวไว้ได้ทัน

ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจรจากชั้นล่างตรงสายไฟเครื่องปั๊มน้ำ และลุกลามขึ้นชั้นบนอย่างรวดเร็วเพราะเป็นบ้านไม้ ความเสียหายเบื้องต้นประมาณแสนกว่าบาท