คุณแม่วัย 42 เปิดใจคบเพื่อนลูกชาย อายุห่าง 22 ปี วอนสังคมหยุดตราหน้า ลั่นแค่ 2 คนรักกัน
เว็บไซต์ข่าวออนไลน์จากอังกฤษ เมโทร ยูเค เปิดเผยเรื่องราวของคุณแม่คนหนึ่งอายุ 42 ปี ชื่อนางดอว์น นอร์เธย์ ที่ต้องเผชิญกับสายตาของผู้คนในสังคม เมื่อเธอเปิดตัวคบหากับนายทาคารี อัลดริจด์ เพื่อนของลูกชาย ที่อายุน้อยกว่าเธอถึง 22 ปี
นางนอร์เธย์ เผยว่าแฟนหนุ่มของเธอ รู้จักกับลูกชายของเธอก่อนผ่านการเล่นเกมออนไลน์ เมื่อปี 2557 และรู้สึกเล่นเกมเข้าขากันมาก จนกระทั่งนายอัลดริดจ์ ชวนลูกชายของตนไปที่บ้านอีกเมืองหนึ่ง ที่ห่างออกไปเกือบ 500 กิโลเมตร ตนจึงอาสาขับรถไปเป็นเพื่อนลูกชายของตน
"ตอนแรกที่เจอเขา แทบไม่เชื่อตัวเองเลยว่าหลงรักหนุ่มอายุ 18 (อายุในขณะนั้น)" นางนอร์เธย์ กล่าว
หลังจากลูกชายของตนค้างที่บ้านเพื่อนคนนี้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ตนก็ขับรถไปรับ และตนบอกเพื่อนของลูกชายคนนี้ว่าจะไปค้างที่บ้านของตนเมื่อใดก็ได้ เพราะยินดีต้อนรับเสมอ นายอัลดริดจ์จึงให้เบอร์โทรศัพท์ไว้
ข่มความรู้สึก
ทั้งคู่พยายามทำเป็นไม่รู้สึกอะไรต่อกัน เพราะเกรงว่าจะดูไม่เหมาะสม จนเวลาผ่านไป 7 เดือน เรื่องราวก็เปลี่ยนไป เมื่อนางนอร์เธย์ ขับรถไปส่งนายอัลดริดจ์ที่บ้าน ก็ได้จูบกันและคบหากันมาตั้งแต่นั้น
"ทุกวันฉันบอกตัวเองว่าฉันแก่เกินไปสำหรับเขา แล้วก็ต้องหยุดคิดถึงเขาได้แล้ว แต่พอได้คุยกัน ฉันว่าความคิดเขาเป็นผู้ใหญ่มาก"
"ขอบคุณที่เขาก็รู้สึกแบบเดียวกันกับฉัน เราก็เลยตัดสินใจคบกันค่ะ"
นางนอร์เธย์เผยว่า ตอนแรกจะเก็บความสัมพันธ์นี้เป็นความลับ แต่หลังจากนั้น 6 วัน แม่ของนายอัลดริดจ์ก็พบข้อความที่ทั้งคู่ส่งให้กันและไล่นายอัลดริดจ์ออกจากบ้าน ตนจึงเสนอให้นายอัลดริดจ์มาพักที่บ้านก่อน และตอนนั้นเองเป็นวันที่ตนตัดสินใจเปิดเผยเรื่องนี้ให้ลูกชายของตนทราบ ว่ากำลังคบกับเพื่อนของเขาอยู่
"ฉันทำใจบอกลูกชายฉันค่ะ เพราะถ้าเขาไม่เห็นด้วย ฉันก็จะยอมเลิกคบ เพราะไม่อยากให้ความสัมพันธ์แม่ลูกของเราพังลงไปเหมือนกัน" นายนอร์เธย์ กล่าว
"ลูกชายมาตบไหล่ฉันเบาๆ แล้วบอกว่าเขาโอเค ฉันไม่เคยโล่งใจกับอะไรเท่านี้มาก่อน"
ไม่แคร์สายตาคนอื่น
แม้ลูกชายของเธอจะรับได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนภายนอกจะรู้สึกเช่นนั้น ซึ่งนางนอร์เธย์เล่าว่า ถ้าตนจับมือกับนายอัลดริดจ์ คนอื่นก็จะมองด้วยความแปลกใจ
ไม่ใช่แค่นั้นคนในครอบครัวของเธอบางคนยังขู่ว่าจะแจ้งตำรวจ ว่าเธอพรากผู้เยาว์ แต่เธอยืนยันว่าตอนที่คบหากับนายอัลดริดจ์ เขาก็อายุถึงเกณฑ์และเป็นผู้ใหญ่แล้ว
นางนอร์เธย์ บอกอีกว่า ถึงตอนนี้แม่ของนายอัลดริดจ์จะยังไม่เห็นดีเห็นงาม แต่ตนก็หวังว่าเธอจะเปิดใจในสักวันหนึ่ง
"ฉันมองไม่เห็นเหตุผลเลยว่าทำไมคนอื่นถึงคอยตัดสินความสัมพันธ์ของเรา ในเมื่อเราก็มีความสุขและรักกันดี" นางนอร์เธย์ กล่าว