ไวรัสโคโรนา: รพ.แจงดราม่า คลิปสาวใหญ่หัวร้อนโวยหมอไม่ตรวจหาโควิด-19

โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น แจงคลิปดราม่าสาวใหญ่มาขอตรวจหาไวรัสโควิด-19 แต่ไม่ได้รับการตรวจนั้น ล่าสุด แพทย์ชี้แจงว่า หลังจากสอบสวนโรคแล้วไม่เข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ จึงอธิบายให้คนไข้เข้าใจและภายหลังเหตุการณ์จบลงด้วยดี

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (17 มี.ค.) เฟซบุ๊กแฟนเพจ Red Skull Society มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่มีเสียงของหญิงอายุประมาณ 50 ปี ไปขอตรวจเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น โดยอ้างว่าตนเองสัมผัสกับกลุ่มคนจีนและอาจได้รับเชื้อโควิด จึงมาขอตรวจแต่เจ้าหน้าที่กลับไม่ตรวจเชื้อให้

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ เปิดเผยว่า คลิปดังกล่าวนั้นเป็นคลิปที่เกิดขึ้นภายในโรงพยาบาลศรีนครินทร์จริง ซึ่งเป็นคลิปที่เกิดขึ้น เนื่องจากว่าผู้ป่วยรายนั้นมีอาการซึ่งประเมินตนเองว่า ตัวเองอาจจะมีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด

แต่เมื่อมารับบริการตามขั้นตอนของโรงพยาบาลแล้ว ซึ่งเป็นระบบการสืบสวนโรค พบว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวแทบจะไม่มีความเสี่ยงซึ่งทางโรงพยาบาลก็ได้อธิบายให้ผู้ป่วยทราบ ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ตามที่ได้ยินในคลิป

รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์

รศ.นพ.สมศักดิ์ ยังเปิดเผยว่า ขั้นตอนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 มีหลักการทางการแพทย์ในการสืบสวนโรค ว่ามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนซึ่งถ้าหากมีความเสี่ยงน้อย ต้องมองในระยะยาวว่า หากความเสี่ยงน้อย อาจจะทำให้เกิดความสิ้นเปลืองอุปกรณ์ทางการแพทย์ ไม่ใช่แค่ว่ามีเงินแล้วอยากจะตรวจหาเชื้อได้ แต่ต้องมีความเสี่ยงสูงด้วย ซึ่งจะทำให้ทรัพยากรส่วนกลางของทางแพทย์ ทั้งชุด หน้ากาก ถุงมือต่างๆ ที่แพทย์และพยาบาลต้องใช้

ซึ่งปัจจุบันจำเป็นจะต้องสำรองไว้กรณีที่มีผู้ป่วยเกิดขึ้น  โดยปัจจุบันคนที่มาตรวจส่วนใหญ่ ยังให้เป็นผลลบ ซึ่งถ้ากากบุคคลทั่วไปที่ไม่มีความเสี่ยงแล้วมาตรวจจะทำให้ยิ่งเสียทรัพยากรทางการแพทย์ที่จะต้องเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็นยิ่งหายากมากยิ่งขึ้น

และอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ คือเวลาในการตรวจหาเชื้อแต่ละครั้ง แพทย์ต้องใช้เวลาในการตรวจคนละ 1 ชั่วโมง เท่ากับว่าต้องเสียเวลาของแพทย์ 1 คนที่จะไปรักษาคนไข้รายอื่น เพื่อมาตรวจคนที่ไม่มีความเสี่ยง ทำให้เสียทรัพยากรบุคคลและเสียโอกาสของคนอื่นๆ ที่จะได้รับการรักษาพยาบาล