ไวรัสโคโรนา: ผู้ว่าฯ แปดริ้ว ฮึ่ม! ใครใกล้ชิด "นายกไก่" แล้วไม่ยอมแสดงตน มีความผิด

วันที่ 18 มี.ค.63 เวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ฉะเชิงเทรา ได้ออกประกาศมาตรการการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา หลังจากทางจังหวัดได้ตรวจสอบแล้วพบว่ายังมีผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา (ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิค 19) และยังไม่ได้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยง

จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 (7) และมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการในฐานะประธาน ได้ออกหนังสือสั่งการ ลงวันที่ 17 มี.ค.63 มาตรการการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ให้ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ระหว่างวันที่ 8-15 มี.ค. 63 ที่มีการพูดคุยกับผู้ป่วยหรือนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ในระยะ 1 เมตรนานกว่า 5 นาที หรืออยู่ในบริเวณที่ปิด เช่น รถยนต์ ที่ไม่มีอากาศถ่ายเทหรือร่วมโต๊ะอาหารเดียวกันในระยะ 2 เมตร ให้ปฏิบัติดังนี้

1.ให้ผู้สัมผัสใกล้กับผู้ป่วย กักตัวอยู่ที่บ้าน แยกนอน แยกเครื่องใช้ส่วนตัว เป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และปฏิบัติตนตามคำแนะนำของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หรือผู้ช่วยเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ

2.ให้ผู้สัมผัสใกล้กับผู้ป่วยที่ยังไม่ได้รายงานตัวกับเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ให้รายงานตัวโดยผ่านทางโทรศัพท์ สายด่วน 094- 7922525 โดยไม่ต้องมาพบเจ้าหน้าที่

หากผู้สัมผัสโรคไม่ดำเนินการตามข้อ 1 และ ข้อ 2 อาจมีความผิดตามมาตรา 55 ผู้ใดขัดขวางหรือไม่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตามมาตรา 45 วรรค 3 ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิค 19 ติดต่อสอบถามได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน จ.ฉะเชิงเทรา โควิด 19 สายด่วน 094-7922525 และ 038-511208-10 ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเดินทางของผู้คนในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ตามเส้นทางสายต่างๆ ซึ่งเป็นเส้นทางสายรองในชุมชนและตรมหมู่บ้าน มีผู้คนใช้ยานพาหนะในการเดินทางออกจากบ้านบางตา โดยร้านค้าส่วนใหญ่อยู่ในภาวะเงียบเหงา ขณะบนถนนสายหลักซึ่งเป็นทางผ่านข้ามจังหวัด ทั้ง 314 ฉะเชิงเทรา-บางปะกง (สิริโสธร) และ 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ยังคงมีรถเข้ามาใช้เส้นทางหนาแน่น

ส่วนที่วัดโสธรวราราม วรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ยังคงมีพุทธศนาสนิกชน เดินทางมาทำบุญไหว้พระ ขอพรหลวงพ่อโสธรในระดับปานกลาง และเบาบางลงในบางช่วงเวลา ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่มาทำบุญไหว้พระได้มีการป้องกันตนเองด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยมาด้วย โดยมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ไม่ได้มีการป้องกันด้วยหน้ากากอนามัย

โดยที่ทางวัดได้มีการจัดวางเจลล้างมือไว้ให้แก่ผู้ที่เดินทางมาทำบุญได้ทำความสะอาดมือขณะเดินทางเข้าออกผ่านประตูวิหาร พร้อมกับยังได้ขึ้นป้ายขนาดใหญ่ไว้หลายจุด เพื่อแจ้งถึงการงดจัดงานเทศกาลนมัสการทำบุญปิดทองหลวงพ่อโสธร หรืองานบุญกลางเดือนห้า ในระหว่าง 8-10 เม.ย.63 นี้