ลุ้น สุริยคราส เกิดพายุสุริยะบนโลก สมเด็จพระเทพฯทอดพระเนตร เมืองจินชาน พร้อมนักดาราศาสตร์

ลุ้น สุริยคราส เกิดพายุสุริยะบนโลก สมเด็จพระเทพฯทอดพระเนตร เมืองจินชาน พร้อมนักดาราศาสตร์

ลุ้น สุริยคราส เกิดพายุสุริยะบนโลก สมเด็จพระเทพฯทอดพระเนตร เมืองจินชาน พร้อมนักดาราศาสตร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สมเด็จพระเทพฯ เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรสุริยุปราคา เมืองจินชานพร้อมนักดาราศาสตร์ทั่วโลก ศึกษาข้อมูลชั้นบรรยากาศบนดวงอาทิตย์ ค้นหาการเกิดคลื่นแม่เหล็กรุนแรงจนกลายเป็นพายุสุริยะบนโลกจริงหรือไม่ สดร. ชี้ไทยโอกาสเห็น 50% เชียงรายนานสุด ผอ.ศูนย์ฯภัยพิบัติยันไม่เกี่ยวทำแผ่นดินไหว วัดไตรมิตรฯนิมนต์พระเกจิสะเดาะเคราะห์

นายบุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ถึงการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาบางส่วนในประเทศไทยว่า ถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ เพราะเกิดขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 22 กรกฎาคม ทำให้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดยแต่ละพื้นที่เวลาแตกต่างกัน อย่างกรุงเทพมหานครจะเริ่มเห็นเวลา 07.06-09.08 น. ส่วนจังหวัดเชียงรายจะเห็นยาวนานที่สุดประมาณ 2 ชั่วโมง 12 นาที โดยดวงอาทิตย์จะถูกดวงจันทร์บดบังมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 69 ของพื้นที่ดวงอาทิตย์ ขณะที่พื้นที่อื่นๆ อาทิ เชียงใหม่จะเริ่มตั้งแต่ 07.02-09.11 น. นครสวรรค์ 07.04-09.10 น. สุราษฎร์ธานี 07.11-08.59 น. และนราธิวาสตั้งแต่เวลา 07.20-08.57 น. ทั้งนี้ ไม่ควรชมด้วยตาเปล่า เพราะจะทำให้ตาบอดได้ แต่ควรมีแผ่นกรองแสง หรือแผ่นซีดี หรืออาจจะใช้แว่นที่ช่างเชื่อมใช้ในการเชื่อมโลหะ ก็อาจใช้ดูได้

นายบุญรักษา กล่าวว่า สดร.จัดกิจกรรมขึ้น 2 แห่งในพื้นที่กรุงเทพฯ คือ ที่บริเวณวงเวียน 22 กรกฎา ถนนเยาวราช เนื่องจากเกิดตรงวันที่ 22 กรกฎาคม ชื่อตรงกัน โดยตั้งกล้อง 2 ตัว พร้อมมีนิทรรศการให้ความรู้ อีกแห่งที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ บริเวณสนามฟุตบอลด้านตะวันออก เนื่องจากมีพื้นที่กว้าง จะไปตั้งกล้อง 10 ตัว พร้อมทั้งจัดนิทรรศการให้ความรู้ครบวงจร และยังแจกแว่นกรองแสงสำหรับดูดวงอาทิตย์ โดยจะมีพิธีตั้งแต่เวลา 06.30 น. นอกจากนี้ ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะเครือข่ายของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ยังจัดกิจกรรมชมสุริยุปราคา ที่บริเวณอนุสาวรีย์ 2 รัชกาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

"เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน และ 2-3 วันที่ผ่านมาทั่วประเทศไทยฝนตกอย่างต่อเนื่อง โอกาสที่จะมองเห็นน่าจะอยู่ประมาณร้อยละ 50 แต่หากใครพลาด สามารถชมย้อนหลังผ่านทางเว็บไซต์ของ สดร. คือ http://www.narit.or.th/ และยังมีโอกาสชมได้อีกครั้งในช่วงฤดูหนาว ในวันที่ 15 มกราคม 2553Ž" ผู้อำนวยการ สดร.กล่าว

นายบุญรักษา กล่าวอีกว่า การเกิดสุริยุปราคาในครั้งนี้ ประเทศที่สามารถมองเต็มดวง เริ่มจากอินเดีย ตามด้วยจีน และญี่ปุ่น ตามลำดับ ที่จีนจะเห็นนาน ที่สุดประมาณ 6 นาที เป็นสุริยุปราคาเต็มดวงที่นานมาก ทำให้บรรดานักดาราศาสตร์ ทั่วโลกต่างเดินทางไปชม โดยตนและทีมนักดาราศาสตร์ของ สดร. ไปด้วย ที่เมืองจินชาน ในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 08.23 น.-09.42 น. ตามเวลาท้องถิ่นของจีน

"การเดินทางครั้งนี้ยังได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรสุริยุปราคาที่เมืองจินชาน เนื่องจากทรงสนพระทัยเรื่องดาราศาสตร์เป็นอย่างมาก ทั้งพระองค์จะร่วมศึกษาข้อมูลชั้นบรรยากาศบนดวงอาทิตย์ เพื่อศึกษาสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เพราะจะมีผลต่อการเกิดพลังงานแสงที่เรียกว่า ลมสุริยะ เพื่อหาข้อเท็จจริงว่า ในปี 2555 จะเกิดคลื่นแม่เหล็กที่รุนแรงมาก จนกลายเป็นพายุสุริยะ และส่งผลกระทบต่อคลื่นความถี่ต่างๆ รวมทั้งขั้วแม่เหล็กบนโลกจริงหรือไม่" นายบุญรักษากล่าว

นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวถึงความกังวลกรณีที่เกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาจะทำให้เกิดคลื่นยักษ์และแผ่นดินไหว ว่า ความกลัว และความกังวลดังกล่าวเคยเกิดมาแล้วเมื่อปี 2543 อธิบายได้ว่าวัตถุต่างๆ ที่อยู่นอกโลกมักจะมีแรงดึงดูดเสมอ การเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคา คือ การที่โลก ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์มาเรียงอยู่ในระนาบเดียวกัน เกิดเงาของดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์ สิ่งที่อยู่ในโลก ที่จะได้รับอิทธิพลจากแรงดึงดูดดังกล่าวมากที่สุดคือน้ำ เป็นเหตุแห่งความกลัวและกังวลว่าจะเกิดคลื่นยักษ์และแผ่นดินไหวขึ้น

"คำนวณตามหลักการวิทยาศาสตร์ดูแล้ว จากข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่พบว่าในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ น้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่คือ ทะเล มหาสมุทร จะเพิ่มสูงขึ้นจริงเฉลี่ยแล้วประมาณ 10 เซนติเมตรเท่านั้น และขึ้นอยู่กับความลาดชันของแต่ละพื้นที่ด้วย ถือเป็นการเพิ่มขึ้นตามปกติเมื่อมีแรงดึงดูดจากนอกโลกเช่นนี้ ซึ่งการที่ดาวเคราะห์โคจรมาเรียงตัวในระนาบเดียวกันก็เกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว" นายอานนท์กล่าว และว่า ที่กลัวจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ มั่นใจได้เลยว่า ถ้าแผ่นดินจะไหวจริงๆ ไม่ใช่ไหวเพราะปรากฏการณ์สุริยุปราคาที่มาจากดาวเรียงตัวกันและเกิดแรงดึงดูดเช่นนี้แน่นอน

ด้านพระเทพภาวนาวิกรม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันที่ 22 กรกฎาคม จะเกิดสุริยคราส หรือทางโหราศาสตร์เรียกว่า ราหูอมพระอาทิตย์ ตามคติความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูมาแต่โบราณ และผูกโยงกับสังคมไทยที่มีความผูกพันกับพระพุทธศาสนา ตามตำราโหราศาสตร์เชื่อว่าจะส่งผลกระทบในแง่ลบต่อชีวิตของมวลมนุษย์ ดังนั้น วัดไตรมิตรวิทยารามจึงจัดพิธีสวดมนต์ครั้งใหญ่ โดยนิมนต์พระเกจิหลายร้อยรูปมาร่วมสวดมนต์สะเดาะเคราะห์ ณ พระอุโบสถวัดไตรมิตรฯ ตั้งเวลา 06.58 น. แบ่งเป็น 3 ช่วง เวลา 06.58-08.00 น. เวลา 08.00-09.00 น. และช่วงเวลา 09.00-11.00 น. เพื่อจะช่วยทำให้เรามีจิตใจที่สงบเป็นสมาธิ ก็จะเกิดความเบิกบาน ทำให้สบายใจ สิ่งดีๆ ก็จะเข้ามาในชีวิต ดังนั้น จึงขอเชิญชวนสาธุชนทั้งหลายร่วมพิธีสวดมนต์ในครั้งนี้

นายชาย พานิชพรพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า การเกิดสุริยคราสที่ผ่านมาชาวเพชรบุรีบางส่วนมักใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าจำนวนมาก อ้างว่าเป็นการยิ่งไล่เงามืดที่บดบังทั้งแสงจันทร์และแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นการอ้างเพื่อนำเอาอาวุธปืนออกมายิงอวดยิงโชว์ เป็นการกระทำที่ผิดและอาจทำให้เกิดอันตรายได้

"ล่าสุด ก็มีหัวกระสุนปืนที่มีผู้ยิงขึ้นฟ้าในงานบวชแห่งหนึ่งตกลงหลังคาจนทะลุใส่หัวเด็กจนเสียชีวิตมาแล้ว ขอให้ผู้ที่จะนำปืนออกมายิงไล่สุริยคราสให้นำเอาเกราะ หรือไม้ หรือปี๊บก็ได้มาตีตามความเชื่อจะดีกว่า เพราะเป็นการรักษาประเพณีเก่าที่ถูกต้องและไม่เกิดอันตรายแก่ผู้อื่น และถ้าหากตำรวจตรวจพบใช้ปืนให้ดำเนินคดีทันที" ผู้ว่าฯเพชรบุรีกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก รายงานว่า ในวันที่ 22 กรกฎาคม สภาพอากาศใน จ.สงขลา จะมีเมฆมากในช่วงเช้า ท้องฟ้าหลัว เกิดจากอุณหภูมิลดต่ำลงส่งผลให้มีความชื้นสูงมีเมฆหมอกปกคลุม และยังคงมีหมอกควันจากไฟป่าจากประเทศอินโดนีเซียพัดเข้ามาปกคลุมในพื้นที่อาจเป็นปัญหาในการดูสุริยุปราคา แต่หลายหน่วยงานจัดกิจกรรมให้ประชาชนได้ชมสุริยุปราคา เช่น คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา จัดตั้งแต่เวลา 07.00-09.30 น. ณ หาดสมิหลา อ.เมืองสงขลา

ที่ จ.เชียงราย คณะอาจารย์และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) เชียงราย นำกล้องโทรทรรศน์ขนาดต่างๆ ถึง 4 ตัว ออกมาติดตั้งไว้บริเวณหน้าหอดูดาวภายในมหาวิทยาลัย ให้นักเรียนนักศึกษาตลอดจนประชาชนทั่วไปเอาไว้ส่องดูสุริยุปราคา ซึ่งจะเห็นได้ยาวนานถึง 2 ชั่วโมง ถือว่ายาวนานที่สุดของประเทศไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook