ล้วงหัวใจ "น้ำฝน-อาร์ม" ประกาศรักแท้วันวิวาห์ สวย หล่อ น่ารัก สมกันดั่งกิ่งทองใบหยก

20 มี.ค. 63 (17:09 น.) พิมพ์

แชร์เรื่องนี้

แชร์เรื่องนี้Line Twitter Facebook

ถือเป็นอีกหนึ่งวันมงคลที่คนบันเทิงได้มีโอกาสได้มอบคำอวยพรและร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว อาร์ม-พิพัฒน์ วิทยาปัญญานนท์ และ น้ำฝน-พัชรินทร์ ศรีวสุภิรมย์ ที่ได้ถือฤกษ์ดีจัดงานมงคลสมรส ณ ศาลาริมน้ำ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล หลังจากที่ใช้เวลาคบหาดูในกันมานานกว่า 4 ปี

ซึ่งหลังเสร็จสิ้นพิธีแห่ขันหมากและพิธีแต่งงานตามประเพณีแล้ว น้ำฝน - อาร์ม ก็ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงช่วงเวลาสำคัญในชีวิต พร้อมทั้งมอบคำมั่นสัญญาให้แก่กันว่า จะขอรักและเป็นเหมือนเดิมแบบนี้ตลอดไป

"น้ำฝน-อาร์ม" ควงคู่เข้าพิธีสมรส อบอุ่น งามวิจิตร สมการรอคอย

บรรยากาศงานช่วงเช้าเป็นยังไงบ้าง?
น้ำฝน - "อบอุ่นมากๆ ค่ะ เป็นงานเล็กๆ ง่ายๆ มีภายในครอบครัว แล้วก็ผู้ใหญ่ที่เคารพและพี่ๆ น้องๆ ที่สนิทค่ะ"

อาร์ม - "ตัวงานก็อาจจะรวดเร็วสักหน่อย มีรวบรัดบ้างในบางขั้นตอน รวมถึงมีการรักษาความสะอาดตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัยของทุกคน"

น้ำฝน - "ในส่วนของพิธีไทยจริงๆ ฝนกับพี่อาร์มทำบุญกันไปตั้งแต่เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว คือวันที่ 20 ธันวาคม 2562 ดังนั้นพิธีเมื่อช่วงเช้าวันนี้ก็เลยเป็นพิธีแห่ขันมากกันก่อน จากนั้นก็ขึ้นมารับตัวฝนและลงไปทำพิธีสู่ขอ ตามด้วยการสวมแหวนค่ะ"

อาร์ม - "นอกจากนั้นเราก็มีพิธียกน้ำชาแบบจีน ซึ่งมีการป้องกันในเรื่องของไวรัส อย่างตัวยกน้ำชาจะมีการยกแล้วก็จัดเก็บแก้วออกไปเลย ไม่มีการใช้ซ้ำและเป็นถ้วยใหม่ทุกใบครับ"

ทราบว่ามีมาตรการในการคัดกรองแขกก่อนเข้างานด้วย ?
น้ำฝน - ใช่ค่ะ อันนี้ต้องขอบคุณทางโรงแรมด้วย เนื่องจากมีมาตรการที่ดีมากๆ ก่อนที่แขกจะเข้างานก็จะมีการวัดอุณหภูมิให้ รวมถึงมีเจลแอลกอฮอล์วางไว้อยู่รอบบริเวณงาน นอกจากนี้ยังมีการสอบถามประวัติ ถ้าสมมติว่าแขกท่านใดที่อาจจะเพิ่งไปในประเทศที่สุ่มเสียงก็ต้องขอความกรุณาไม่ได้เข้าร่วมงาน"

พอต้องมาเจอสถานการณ์ โควิด-19 ทำให้พิธีที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ต้องมีการปรับเปลี่ยนบ้างไหม ?
อาร์ม - "จริงๆ ไม่ต่างครับ เพียงแต่ว่ามันพิเศษตรงที่สถานการณ์แบบนี้มันกลายเป็นว่าผมกับฝนต้องโทรศัพท์ไปหาคนที่เราแจกการ์ดไปแล้ว อย่างเช่น ญาติๆ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ เราก็ต้องถามเขาว่าสะดวกไหม เนื่องจากผู้ใหญ่ก็มีโอกาสเสี่ยงสูง รวมถึงมีการสอบถามว่าก่อนหน้านี้เขาได้ไปไหนมาด้วยหรือเปล่า เพราะส่วนหนึ่งเราก็เป็นห่วงแขกท่านอื่นด้วย คือต้องมีการถามตรงๆ เลย ว่าถ้าหากสุขภาพไม่แข็งแรงหรือว่าช่วงนี้ไปไหนมาก็ไม่เป็นไรนะครับ คือด้วยใจ บางคนแค่ยกหูมาหาเราก็ดีใจแล้ว งานก็เลยดีขนาดย่อมลงมาอีก จากเดิมที่ตั้งใจว่าจะเป็นย่อมๆ อยู่แล้ว"

บ่าวสาวเครียดไหมเกิดสถานการณ์แบบนี้ ?
อาร์ม - “ก็มีเครียดครับ แต่จะเป็นเรื่องสถานการณ์นี่แหละ และก็เป็นกังวลแทนพี่ๆ รวมถึงครอบครัวด้วย เพราะแน่นอนว่าอีกมุมหนึ่งของสังคมอาจจะมองว่า 'เราสุ่มเสี่ยงไหม จะมีอันตรายอะไรไหม' ซึ่งมันก็ทำให้เราต้องระมัดระวังมากขึ้น”

น้ำฝน - “ตอนแรกฝนก็ไม่เครียด จนวันนี้แต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ช่างแต่งหน้าบอกว่าฝนเมื่อก่อนไม่เคยมีสิว วันนี้แอบมีสิวขึ้นตรงคาง พี่เขาก็บอกว่าแอบเครียดใช่ไหม ก็คือเครียดนิดหนึ่ง พอมันใกล้วันปุ๊บ สถานการณ์มันก็ค่อนข้างจะเครียด เราก็พยายามจัดให้งานเราเล็กลงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ”

มีคุยกันไหมว่าอยากจะเลื่อนงานออกไปก่อน ?
อาร์ม - “เคยคุยเหมือนกัน ก็คุยกันว่ายังไงดี”

น้ำฝน - “ก็ปรึกษากัน เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญมากๆ แล้วพอเราคุยกันไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่าโอเค งานเรามันไม่ได้เชิญแขก 500-1000 คน ส่วนใหญ่ก็เป็นญาติๆ ทั้งนั้น อีกอย่างเรายังมีเรื่องมาตราการความปลอดภัยที่เราโทรถามทีละคนด้วย เราก็เลยโอเค ก็จัดงานเหมือนเดิม”

หลังจากนี้จะมีพิธีฉลองอีกไหม ?
น้ำฝน - "ฉลองเรียบร้อยแล้วค่ะ เมื่อตอนกลางวันก็คือทานข้าวกันเรียบร้อยแล้วเราเน้นเป็นงานที่เรียบง่าย”

โมเมนต์ในงานซาบซึ้งใจกันอย่างไรบ้าง มีน้ำตาไหลบ้างไหม ?
น้ำฝน - “กลัวหน้าไม่สวย (หัวเราะ) จริงๆ คือกลัว ตอนแรกก็คิดเหมือนกั ว่าถ้าร้องไห้ไป เดี๋ยวตาจะเลอะ ก็เลยพยายามตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วว่าอยากให้เป็นวันดีๆ ที่มีแต่รอยยิ้ม ถึงแม้ว่าสถานการณ์มันอาจจะเครียดกดดันยังไงก็แล้วแต่ เราก็ตั้งใจ ฝนก็บอกกับพี่อาร์มตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ว่างานจะเป็นตามที่เราคิดไหม คนมามากน้อยแค่ไหน ทุกอย่างก็ขอให้เราสองคนมีความสุข แล้วก็ยิ้มไว้อย่างเดียวเท่านั้นจบ”

อาร์ม - “แต่ผมร้องไห้นะ คือผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า...”

น้ำฝน - “ดีใจละสิ (หัวเราะ)”

อาร์ม - “คือผมเชื่อว่ายุคนี้ บางทีเราอาจจะตัดบางประเพณีออกไป ผมเองเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ก็มีประเพณียกน้ำชา มันก็ไม่ต่างกับการรดน้ำสังข์ ก็คือรับคำอวยพร ก็เลยกลายเป็นโมเมนต์ที่ว่าเรามีโอกาสได้เจอแขกที่เราเชิญมา แล้วเขาก็อวยพรกับเราแบบซึ่งๆ หน้า แต่ก็มีเว้นระยะห่างนะ (หัวเราะ) เขาก็อวยพรในตัวตนที่เราเป็น กับสิ่งที่เขาอยากให้เรามีกันและกันแบบนี้ คือผมเชื่อว่าบางงานอาจจะมีผู้ใหญ่ยศสูงๆ มาอวยพร แต่มันอาจจะแตกต่างจากที่คนใกล้ชิดเรามาอวยพร”

เห็นว่าเราทั้งคู่จดทะเบียนสมรสแล้วด้วย ?
อาร์ม - "เสร็จแล้วครับ เธอมัดมือชกเรียบร้อยแล้วครับ (ยิ้ม) ก็เรามั่นใจกับคนนี้แล้ว เราเลือกคนนี้แล้วก็จดที่คนนี้เลย"

มีคำมั่นสัญญามอบให้กันยังไงบ้าง ?
น้ำฝน - "ก็เหมือนกับที่ฝนบอกอาร์มไปทุกๆ ครั้งค่ะว่า ขอบคุณพี่อาร์มที่เป็นพี่อาร์มที่น่ารักแบบที่ทุกคนเห็นมาตลอด พี่อาร์มเป็นแบบนี้กับฝนมาตั้งแต่วันแรกที่เรารู้จัก จนถึงวันนี้พี่อาร์มก็ยังคงพูดเพราะกับฝนเสมอ ซึ่งฝนมองว่ามันเป็นสิ่งดีๆ ที่เรามีให้กัน ดังนั้นฝนจึงไม่ขออะไรพี่อาร์มมากนอกจากขอให้พี่อาร์มเหมือนเดิม เป็นพี่อาร์มแบบนี้ตลอดไป"

อาร์ม - "เหมือนกันครับ ขอให้ฝนเหมือนเดิมนะ ขอให้เหมือนเดิมก็ดีแล้วอย่าเปลี่ยนไป (ยิ้ม)"

สินสอดทองหมั้นของเราทั้งคู่เป็นยังไงบ้าง ?
อาร์ม - "สินสอดก็พอสมควรครับ ตัวแหวนก็ไม่ได้เยอะอะไรมาก พอดีว่าฝนเขานิ้วเล็กขนาดก็เลยพอสมควร พอได้"

เรือนหอตอนนี้เรียบร้อยแล้วหรือยัง ?
อาร์ม - "เรียบร้อยแล้วครับ เราจะย้ายไปอยู่บ้านอาร์มซึ่งเตรียมไว้แล้ว"

การเตรียมตัวเป็นสะใภ้ครอบครัวคนจีน ต้องมีความพิเศษไหม ?
น้ำฝน - "ใช่ค่ะเป็นสะใภ้คนจีน แต่ว่าเป็นคนจีนที่น่ารักมากๆ เลยนะคะ ครอบครัวพี่อาร์มน่ารักกับฝนมาตลอด แต่ยอมรับค่ะว่าตอนแรกฝนก็แอบกังวลเหมือนกันเรื่องการจัดงานเพราะคิดว่าทุกขั้นตอนมันต้องเป๊ะ แถมฝนไม่มีความรู้เรื่องพิธีจีนเลย แต่ปรากฎว่าพอถึงขั้นตอนนั้นจริงๆ ทางครอบครัวพี่อาร์มเขาน่ารักมาก คือเขาแล้วแต่สองคนทุกอย่าง จะจัดพิธีจีนตอนไหนก็ได้ ไทยตอนไหนก็ได้ เรียกได้ว่าไม่มีปัญหาเลยจริงๆ และอย่างเรื่องทำอาหาร เอ่อ...ตัวฝนเองทำอาหารไม่เป็น ทำเป็นแต่งานนอกบ้าน แต่ทางครอบครัวพี่อาร์มท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรให้ฝนกดดัน"

จดทะเบียนสมรสแล้วแบบนี้ นามสกุลต้องเปลี่ยนด้วยไหม ?
น้ำฝน - "เปลี่ยนค่ะ ตอนนี้ฝนใช้นามสกุลพี่อาร์ม ส่วนคำนำหน้าก็ยังคงใช้นางสาวเหมือนเดิม ในเมื่อเรามีสิทธิ์เลือก เราก็เลือกด้วยตัวเอง"

น้ำฝน พัชรินทร์ และ อาร์ม พิพัฒน์ น้ำฝน พัชรินทร์ และ อาร์ม พิพัฒน์

แพลนฮันนีมูนตอนนี้วางไว้อย่างไรบ้าง ?
น้ำฝน - "เลื่อนแน่นอนค่ะ เลื่อนยาวๆ ซึ่งตอนแรกเราแพลนไว้แล้วนะคะว่าจะไปช่วงสิ้นเดือนนี้ แต่ว่าไปไม่ได้แล้ว เพราะเราตั้งใจจะไปนิวซีแลนด์กับออสเตรเลีย แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ค่อยรอไปเที่ยวปีหน้าก็ได้"

อาร์ม - "ถามว่าเราอยากไปไหม อยากไปแน่นอนครับ แต่ถ้าตอนนี้เราไปต่างประเทศ มันจะไม่ใช่แค่การไปเที่ยวอย่างเดียวแล้ว สมมติเราตั้งใจจะไปเที่ยว 10 วัน แต่เราก็ต้องกลับมากักตัวที่บ้านต่ออีก 14 วัน ซึ่งมันจะต้องกระทบกับการทำงานแน่นอน ทั้งทีมละคร ทีมวิทยุ มันอาจจะเสียหายได้"

แพลนมีน้องล่ะ คิดๆ ไว้บ้างหรือยังว่าจะเริ่มเมื่อไหร่ ?
น้ำฝน - "ตอนนี้ต้องรอปิดละคร 2 เรื่องก่อนค่ะ ซึ่งเอาจริงๆ นะความตั้งใจแรกของฝนก็คือแต่งงานแล้วจะพยายามมีน้องเลย แต่ด้วยความที่ก่อนหน้านี้มันมีงานติดต่อเข้ามาและพอได้ขอคำปรึกษาจากพี่อาร์ม พี่อาร์มก็บอกว่าให้ทำงานไปก่อน ดังนั้นแพลนของฝนก็เลยเปลี่ยนว่าเป็นละคร 2 เรื่องจบเมื่อไหร่ก็จะพักและลองมีน้องทันที อาจจะเป็นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าก็ได้ รวมถึงดูสถานการณ์โควิดด้วยให้ทุกอย่างปลอดภัยที่สุดก่อน"

เราทั้งคู่ไปตรวจร่างกายมาแล้วใช่ไหม ?
น้ำฝน - "ไปตรวจร่างกายมาแล้ว แข็งแรงดีทั้งคู่ค่ะ"

ตั้งใจว่าอยากจะมีน้องสักกี่คน ?
อาร์ม - "เรื่องนี้ต้องถามฝนครับ เพราะตอนแรกเขาไม่อยากมีเลยสักคน แต่ตอนนี้เขายอมมีแล้วนะ (ยิ้ม)"

ทำไมอยู่ดีๆ ความคิดของเราถึงได้เปลี่ยน ?
น้ำฝน - "ความคิดแรกของฝนเลยก็คือ ถ้าเรามีพ่อที่ดีแบบนี้ ทำไมเราจะไม่มีลูก ถ้ามีพ่อที่ดีแล้ว และเขาเลี้ยงลูก ลูกของเราจะต้องมีความสุขแน่ๆ ต้องเป็นเด็กแฮปปี้ ฉลาด เวลาเราท้องเขาก็ช่วยดูแลเราได้ เราก็เลยรู้สึกไม่เหนื่อย อยากมีค่ะ"

สุดท้ายแล้วอยากจะขอบคุณกันและกันยังไงบ้าง ?
อาร์ม - "ขอบคุณที่ฝนเป็นแบบนี้มาตลอด เป็นมาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ผมอาจจะไม่เชื่อว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งเจอผมทุกวันยังต้องยกมือไหว้ 'พี่อาร์มสวัสดีค่ะ' ก็รอดูอยู่ว่าหลังจากวันนี้ไปจะเป็นยังไง"

น้ำฝน - "ขอบคุณพี่อาร์มค่ะ ที่น่ารักและก็เสมอต้นเสมอปลายกับฝนแบบนี้มาตลอด ขอบคุณที่ขอแต่งงานและเราก็ได้แต่งงานกันในวันนี้ ฝนจะเป็นภรรยาที่ดีค่ะ วันหนึ่งก็ตั้งใจจะเป็นของลูกที่ดีของพี่อาร์มเช่นกัน"