ไวรัสโคโรนา: "ทรัมป์" จ่อแจกหัวละ 32,500 บาท หากสภาไฟเขียวแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรับมือโควิด-19

ไวรัสโคโรนา: "ทรัมป์" จ่อแจกหัวละ 32,500 บาท หากสภาไฟเขียวแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรับมือโควิด-19

ไวรัสโคโรนา: "ทรัมป์" จ่อแจกหัวละ 32,500 บาท หากสภาไฟเขียวแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรับมือโควิด-19
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วอชิงตัน, 19 มี.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันพฤหัสบดี (19 มี.ค.) สตีเวน มนูชิน (Steven Mnuchin) รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ระบุถึงแผนจะแจกเงินบรรเทาช่วยเหลือชาวสหรัฐฯ ของฝ่ายบริหารซึ่งนำโดยประธานาธิดีโดนัลด์ ทรัมป์ อันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ เพื่อรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดยอาจแจกเป็นเงินคนละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 32,500 บาท) สำหรับประชาชนทั่วไป และคนละ 500 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16,000 บาท) สำหรับเด็ก

ในการสัมภาษณ์ของโทรทัศน์ช่องฟอกซ์ บิสเนส เน็ตเวิร์ก (Fox Business Network) มนูชินเปิดเผยว่าฝ่ายบริหารจะเบิกเงินก้อนแรกออกมาภายใน 3 สัปดาห์ หากได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส พร้อมเสริมว่าจะมีการจ่ายเงินเพิ่มอีก หากสถานการณ์ฉุกเฉินของโรคโควิด-19 ในระดับชาติยังยืดเยื้อ

รัฐมนตรีกระทรวงฯ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการหารือกับฝ่ายนิติบัญญัติเรื่องรายละเอียดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระบุว่าแผนดังกล่าวจะกระจายเงินรวม 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16.28 ล้านล้านบาท) สู่คนทำงานชาวสหรัฐฯ โดยตรง

ก่อนหน้านี้ระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวในวันอังคาร (17 มี.ค.) มนูชินกล่าวว่าเขากำลังทำงานร่วมกับสภานิติบัญญัติเพื่อออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ “อันสำคัญยิ่ง” ซึ่งรวมไปถึงมาตรการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก สายการบิน และโรงแรม ตลอดจนรวมถึงการกระจายเงินสดแก่คนทำงานชาวสหรัฐฯ

ด้าน ชัค ชูเมอร์ (Chuck Schumer) ผู้นำเสียงข้างนอกในวุฒิสภา สังกัดพรรคเดโมแครตจากนิวยอร์ก ทวีตข้อความเมื่อวันพฤหัสบดี (18 มี.ค.) ว่าหากจะออกแผนกระตุ้นใดๆ จะต้องเป็นไปเพื่อเหล่าคนทำงานเป็นอันดับแรก

“เราไม่อยากให้เกิดการช่วยเหลือทางการเงิน เว้นเสียแต่ว่าเงินก้อนนั้นๆ จะใช้เพื่อช่วยเหลือคนทำงาน หรือเว้นแต่ว่าบรรดาอุตสาหกรรมจะยังจ้างพนักงานทุกคนอยู่เหมือนเดิม หรือหากบริษัทไม่ปรับลดเงินเดือนของพนักงาน และจนกว่าพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้อหุ้นของตัวเองคืนหรือขึ้นเงินเดือนองค์กร” ชูเมอร์กล่าว

ด้วยสัดส่วนวุฒิสมาชิกที่มาจากพรรครีพับลิกันถึง 53 ที่นั่ง จาก 100 ที่นั่ง ชุดมาตรการดังกล่าวต้องการเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตอย่างน้อย 7 เสียง ในกรณีที่วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกันทั้งหมดออกเสียงสนับสนุน

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (19 มี.ค.) บลูมเบิร์ก (Bloomberg) สื่อสหรัฐฯ รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวผู้ใกล้ชิด ว่าคณะที่ปรึกษาของทรัมป์กำลังพิจารณาออกพันธบัตรอายุ 50 ปี และ 25 ปี เนื่องจากขณะนี้พวกเขากำลังมองหาแหล่งเงินทุนสำหรับชุดมาตรการกระตุ้นการคลังมูลค่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 42.34 ล้านล้านบาท) ตามที่ได้เสนอไว้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook