เจ้าของร้านเวดดิ้งผูกคอตาย หนีหนี้สิน 50 ล้าน ผงะศพห้อยอืดบนโครงป้ายหน้าตึก
พิษเศรษฐกิจ เจ้าของร้านเวดดิ้งชื่อดังย่านศรีนครินทร์ ผูกคอตายหนีหนี้กว่า 50 ล้าน
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 20 มีนาคม 2563 พ.ต.ต.จิรวัฒน์ อ่องสา สารวัตรเวร สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งพบศพชายผูกคอเสียชีวิตอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านชั้น 2 ของร้านสตูดิโอพรีเวดดิ้ง ซึ่งเป็นให้เช่าชุดแต่งงาน และจัดงานแต่งครบวงจร บนถนนศรีนครินทร์ ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิป่อเต๊กตึ้งเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นครึ่ง 2 คูหาซึ่งเปิดเป็นสตูดิโอ สำหรับถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง ที่บริเวณกระจกหน้าร้านได้มีกระดาษเขียนข้อมาความเป็นหนี้จ่ายด้วย และคำด่าที่หยาบคายติดอยู่จำนวน 4 แผ่น และที่ระเบียงด้านหน้าชั้น 2 ได้พบร่างของ นายสมเกียรติ อายุ 40 ปี เจ้าของสตูดิโอดังกล่าว ใช้เชือกในล่อนขนาดใหญ่สีขาวผูกคอตนเองกับโครงเหล็กป้ายหน้าร้านในสภาพขึ้นอึดคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน จึงให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปลดร่างลงมาตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด และตรวจสอบภายในห้องพบกระดาษที่คาดว่าผู้ตายน่าจะเขียนข้อความสั่งเสียเอาไว้ว่า ขอโทษน้าและนันทาด้วยนะ ฝากแม่และฝนด้วยนะ เจอะกันชาติอื่นๆ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนมอบศพให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช
จากการสอบถาม นายณรงค์ศักดิ์ อายุ 60 ปี เจ้าของอาคารที่เกิดเหตุ ได้เล่าว่า ผู้ตายเพิ่งมาเช่าอาคารแห่งนี้เพื่อเปิดเป็นสตูดิโอ ให้เช่าชุดแต่งงาน และจัดงานแต่งแบบครบวงจรได้ประมาณ 3 เดือนแต่ระหว่างนั้นไม่เคยชำระค่าน้ำและค่าไฟและค่าเช่าอาคารเลย และไฟฟ้าถูกเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาตัด วันนี้จึงไปจ่ายค่าไฟฟ้า เนื่องจากประตูเหล็กม้วนด้านหน้าใช้ระบบไฟฟ้า และตั้งใจที่จะมาทวงถาม พบว่าประตูเหล็กม้วนด้านหน้าปิดอยู่ จึงคิดว่าผู้เช่าน่าจะขนข้าวของหนีไปแล้ว เพราะไม่เคยมาจ่ายค่าเช่าเลย จึงประตูเข้าไปตรวจสอบ ได้พบว่าประตูห้องที่ชั้น 2 ด้านหน้าถูกล็อกจากด้านใน จึงได้ให้ช่างปีนลงมาจากระเบียงชั้น 3 ลงมาเพื่อปีนเข้าทางหน้าต่างในห้องชั้นสองเพื่อไปปลดล็อก จึงได้เห็นผู้ตายผูกคอตัวเองกับโครงเหล็กป้ายหน้าร้านเสียชีวิตในสภาพขึ้นอืด ช่างไปรีบเข้าไปเปิดประตูและวิ่งลงมาตามให้ตนขึ้นไปดู และก่อนหน้านี้ทราบว่าผู้ตายมีหนี้สินอยู่หลายสิบล้าน และมีหมายศาลมาติดไว้ที่ร้านเก่าที่เปิดอยู่ในย่านถนนปู่เจ้าสมิงพรายเป็นจำนวนเงินสูงถึง 50 กว่าล้านบาท
ระหว่างที่เจ้าหน้าอยู่ระหว่างตรวจสอบในที่เกิดเหตุ นางจงกลนี อายุ 66 ปี แม่ของผู้ตายได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ พอทราบว่าลูกชายผูกคอตายถึงกับเข่าอ่อน พร้อมทั้งเล่าว่า ตนเองติดต่อลูกชายไม่ได้มากว่า 1 สัปดาห์แล้ว และได้ตระเวนตามหาตามสถานที่ต่างๆ แต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งหมดหวังต้องหันไปพึ่งร่างทรงให้ดูว่าลูกชายตนอยู่ที่ไหน และร่างทรงได้บอกว่าลูกชายตนน่าจะกลับมาอยู่ที่ร้านในย่านถนนศรีนครินทร์ ตนจึงได้เดินทางมาดู จึงทราบเรื่องว่าลูกชายผูกคอตัวเองตายกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าผู้ตายน่าจะเครียดเรื่องหนี้สินที่ถูกฟ้องร้องอยู่ในขณะนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ตายน่าจะมีปัญหาเรื่องหนี้สินกว่า 50 ล้านบาทที่ถูกฟ้องอยู่ในขณะนี้และถูกเจ้าหนี้มาตามทวงและเขียนขอความใส่กระดาษมาปิดไว้ที่กระจกหน้าร้าน ทำให้ผู้ตายเกิดอาการเครียดหาทางออกไม่ได้จึงตัดสินใจเขียนจดหมายสั่งเสียก่อนที่จะผูกคอตัวเองตายดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป