ฮ่องกงหวนรับมือไวรัสโคโรนาระลอกใหม่ หลังลดระดับการป้องกัน

ฮ่องกงหวนรับมือไวรัสโคโรนาระลอกใหม่ หลังลดระดับการป้องกัน

ฮ่องกงหวนรับมือไวรัสโคโรนาระลอกใหม่ หลังลดระดับการป้องกัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อสัปดาห์ก่อน ฮ่องกงเปรียบเสมือนต้นแบบการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในโลก ด้วยตัวเลขผู้ติดเชื้อที่น้อยมากแม้จะถูกจัดเป็นหนึ่งในพื้นที่การแพร่ระบาดตั้งแต่แรกก็ตาม เหตุผลที่ฮ่องกงมีจำนวนผู้ติดเชื้อไม่มาก ในขณะที่ผู้ติดเชื้อในประเทศจีนขยายวงกว้างไปทั่วประเทศ คงเป็นเพราะมาตรการที่ถูกยกมาใช้ เช่น การตามรอยเชื้อไวรัส การรักษาระยะห่างทางสังคม การล้างมือ รวมทั้งการสวมหน้ากาก ซึ่งมาตรการเหล่านี้ก็ถูกนำไปใช้ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลกแล้วเช่นกัน

ฮ่องกงพิสูจน์ให้เห็นว่ามาตรการข้างต้นสามารถใช้ได้ผล เพราะด้วยจำนวนประชากร 7.5 ล้านคน แต่มีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวเพียง 150 รายเท่านั้นในช่วงต้นเดือนมีนาคม แม้ว่าตัวเลขของผู้ติดเชื้อจะพุ่งสูงขึ้นในประเทศใกล้เคียงอย่างเกาหลีใต้ หรือญี่ปุ่น ซ้ำยังแพร่ระบาดไปสู่ทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ และถ้าเปรียบเทียบฮ่องกงกับเมืองใหญ่ ๆ ทางฝั่งตะวันตกอย่างลอนดอนหรือนิวยอร์ก ประชาชนชาวฮ่องกงคงจะรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังใช้ชีวิตอยู่ในโลกอนาคต เพราะหลาย ๆ มาตรการที่ประกาศใช้ในเมืองใหญ่ ๆ ของเอเชียตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถูกนำไปบังคับใช้ในเมืองต่าง ๆ ของยุโรปและสหรัฐอเมริกาในตอนนี้

อย่างไรก็ตาม ฮ่องกงในตอนนี้ก็กำลังส่งต่อบทเรียนที่แตกต่างไปจากครั้งก่อน นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาเมื่อคิดว่าตัวเองสามารถรับมือกับเชื้อไวรัสโคโรนาได้แล้ว รายงานผู้ติดเชื้อไวรัสของฮ่องกงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพุ่งขึ้นเป็นสองเท่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ นั่นคือ กลุ่มพลเมืองฮ่องกงที่ไปเรียนหรือทำงานที่ต่างประเทศ หรือกลุ่มพลเมืองที่ออกจากฮ่องกงไปเมื่อครั้งที่การแพร่ระบาดกำลังเข้ามา ซึ่งคนกลุ่มนี้นี่เองที่นำพาเอาเชื้อไวรัสกลับเข้าสู่ฮ่องกงอีกครั้ง

นี่เป็นรูปแบบการแพร่ระบาดของเชื้อที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ทั่วเอเชีย ประเทศที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดในช่วงแรก ๆ ทั้งจีน สิงคโปร์ และไต้หวัน ต้องหยิบเอามาตรการใหม่มาใช้ป้องกันเมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อระลอกใหม่เริ่มเพิ่มสูงขึ้น บทเรียนในครั้งนี้อาจเป็นยาขมสำหรับฮ่องกง เพราะการกักตัวและการรักษาระยะห่างทางสังคมอาจจะต้องดำเนินต่อไปเพื่อป้องกันไม่ให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในฮ่องกง และนั่นก็หมายถึงการปิดเมืองที่อาจจะต้องยืดเวลาออกไปด้วยเช่นกัน

การติดเชื้อระลอกใหม่

ในวันที่ 2 มีนาคม หลังจากหลายสัปดาห์ที่คนฮ่องกงต้องทำงานจากที่บ้าน คนทำงานกว่า180,000 คนกลับเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศ บริษัทเอกชนทั้งหลายที่น้อมรับนโยบายของรัฐบาลและระบบรถไฟก็กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง

มาตรการที่ฮ่องกงใช้ดูมีเหตุมีผลในช่วงเวลานั้น เพราะถึงแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในอิตาลีและประเทศอื่น ๆ จะพุ่งสูงขึ้น แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในฮ่องกงก็มีเพียงแค่ 100 ราย และในจีนก็ไม่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่อีกแล้ว ดังนั้น นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนเริ่มผ่อนคลาย เพราะไม่เพียงแต่เริ่มกลับไปทำงานที่ออฟฟิศ ผู้คนยังออกมาสังสรรค์และทานอาหารร่วมกันอีกครั้ง ออกไปเดินเล่นที่สวน แม้แต่ไปร่วมงานแต่งงานหรืองานที่มีคนมารวมตัวกันมากมาย ขณะที่หน้ากากอนามัยยังถูกใช้อย่างแพร่หลาย แต่คนมากมายก็เริ่มหยุดใช้ โดยเฉพาะเมื่อต้องออกไปข้างนอกในระยะเวลาสั้น ๆ และนั่นคือสัญญาณที่บอกว่าทุกอย่างกำลังจะกลับคืนสู่ภาวะปกติ

นับตั้งแต่วันที่ผู้คนเริ่มกลับไปทำงาน ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้นเพียง 5 รายเท่านั้น ซึ่งแทบทั้งหมดเป็นคนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ จนกระทั่งวันที่ 16 มีนาคม มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และเริ่มชัดเจนว่าในขณะที่ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เดินทางมาจากต่างประเทศ มาตรการการกักตัวที่ใช้อยู่ยังไม่เพียงพอ และนั่นทำให้การแพร่ระบาดภายในพื้นที่เกิดขึ้น

ฮ่องกงเริ่มป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้ออีกครั้ง พร้อมใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อจำกัดการแพร่เชื้อ รวมไปถึงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อติดตามผู้เดินทางเข้าฮ่องกงทุกคนที่ต้องกักตัวอยู่ในบ้านเป็นเวลา 14 วัน และอาจได้รับโทษทางกฎหมายหากพวกเขาไม่ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจก็สามารถจับกุมผู้ฝ่าฝืนกฎดังกล่าวได้จำนวน 5 คน

ดังนั้น ในวันจันทร์ ที่ 23 มีนาคม คนทำงานจึงต้องกลับไปทำงานจากที่บ้านอีกครั้ง และบริษัทเอกชนก็ต้องปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าว ที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของรัฐบาลออกมาเตือนว่ารัฐอาจจะต้องสั่งการให้มีการปิดเมืองที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องให้ความช่วยเหลือทางการเงินกับคนที่ได้รับผลระทบจากมาตรการดังกล่าว

แคร์รี่ ลัม ผู้ว่าฮ่องกงได้ประกาศว่าชาวต่างชาติที่ไม่ได้พำนักอยู่ในฮ่องกงจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าฮ่องกงตั้งแต่วันพุธ ที่ 25 มีนาคม เป็นต้นไป ทั้งนี้ สนามบินนานาชาติฮ่องกงจะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง และใครก็ตามที่เดินทางเข้าประเทศจะต้องเข้าสู่มาตรการตรวจหาเชื้อ ขณะเดียวกัน ร้านอาหารและบาร์ในฮ่องกงจะถูกสั่งปิดด้วย

ไม่มีเวลาให้ผ่อนคลาย

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แคร์รี ลัมได้กล่าวว่าฮ่องกงได้ผ่านพ้นการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนามาสองระลอกแล้วอย่างมีประสิทธิภาพ โดยระลอกแรกคือการแพร่ระบาดที่มาจากประเทศจีน ซึ่งทำให้ฮ่องกงต้องใช้มาตรการป้องกันมากมาย ขณะที่ระลอกสอง คือการติดเชื้อภายในพื้นที่ และในช่วงเวลานี้ ฮ่องกงกำลังเผชิญหน้ากับการระบาดระลอกที่สาม

“เป็นเรื่องปกติเมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดน้อยลง คนก็เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับฮ่องกงในช่วงต้นเดือนมีนาคม แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงและการแพร่ระบาดระลอกใหม่ที่ยากเย็นแขะแสนท้าทายเกิดขึ้นจากสถานการณ์ของโลกที่เลวร้ายมากขึ้นและจำนวนผู้เดินทางกลับบ้านในฮ่องกงมากกว่าเดิม พวกเราก็ต้องปรับตัว” ลัมกล่าว

สุดท้าย ไม่ใช่แค่ฮ่องกงที่มีมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อระลอกใหม่นี้ สิงคโปร์ก็ออกมาตรการใหม่ในการระงับผู้เดินทางจากต่างประเทศที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น เพราะสิงคโปร์กำลังเผชิญหน้ากับจำนวนผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้ประเทศเข้าสู่ระลอกที่สองของการแพร่ระบาด ขณะที่ไต้หวันก็เริ่มใช้มาตรการใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงจำนวนผู้ติดเชื้อที่กลับมาจากต่างประเทศที่มีแนวโน้มจะพุ่งสูงขึ้น

หวังว่าหลาย ๆ ประเทศจะไม่เมินเฉยต่อบทเรียนของฮ่องกงบทนี้ แม้สถานการณ์ในประเทศจะดูรับมือไหวก็อย่าเพิ่งวางใจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook