คืบเหตุสยองกระบะลากร่างศพ 49 กม. ผลชันสูตรชี้เป็นหญิง แต่ยังไม่รู้เป็นใคร

คืบเหตุสยองกระบะลากร่างศพ 49 กม. ผลชันสูตรชี้เป็นหญิง แต่ยังไม่รู้เป็นใคร

คืบเหตุสยองกระบะลากร่างศพ 49 กม. ผลชันสูตรชี้เป็นหญิง แต่ยังไม่รู้เป็นใคร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คืบเหตุสยอง กระบะลากร่างคนติดใต้ท้องรถไกลกว่า 49 กม. ล่าสุด ผลชันสูตรเบื้องต้นระบุเป็นหญิง อายุราว 30-40 ปี แต่ยังไม่รู้เป็นใคร ตำรวจเร่งเรียกคนขับกระบะมาสอบปากคำ พร้อมตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติม

ความคืบหน้าเหตุสยองเมื่อเวลา 03.20 น. วันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา คลิปวงจรปิดร้านสะดวกซื้อจับภาพลูกค้ารายหนึ่ง ขับรถกระบะ 4 ประตู สีดำ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน ทะเบียน 6274 ไม่ทราบจังหวัด เข้ามาใช้บริการภายในสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงแห่งหนึ่ง ริมถนนมิตรภาพขาเข้าตัวเมืองนครราชสีมา ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

และเมื่อถอยรถออกจากที่จอดบริเวณลานจอดรถ ก็มีร่างผู้เสียชีวิตสภาพแหลกเหลวหล่นมาจากใต้ท้องรถ ซึ่งหลังจากถอยรถขับออกไปจากสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง คนขับกระบะดังกล่าวก็ไม่ได้ลงมาดูเหตุการณ์แต่อย่างใด ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (23 มี.ค.) พ.ต.ท.กิตติพศ ชำนาญเท สว. (สอบสวน) สภ.สีคิ้ว เปิดเผยว่า ได้ประสานความร่วมมือกับ สภ.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เจ้าของคดี ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบตามเส้นทางที่คาดว่าจะเป็นจุดเกิดเหตุ และตามเส้นทางที่ลากศพมาไกลกว่า 49 กิโลเมตร จนถึงสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่มาพบร่างผู้เสียชีวิต พร้อมกับได้เรียกผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อมาสอบปากคำแล้ว 3 ปาก

ส่วนผลการชันสูติเบื้องต้น ของ รพ.สีคิ้ว ระบุว่า ร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง อายุประมาณ 30-40 ปี ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร มีเสื้อยืดสีส้มติดมากับแขนของผู้เสียชีวิต และมีรอยสักที่บริเวณท้องแขนด้านขวา คล้ายยันต์ 5 แถว กับรอยสักสวยงามที่น่องขวาด้วย ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร

เจ้าหน้าที่ฯ ต้องส่งชิ้นส่วนร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจหาดีเอ็นเออย่างละเอียดที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา และจากการตรวจสอบข้อมูลของ สภ.สีคิ้ว ,สภ.กลางดง และ สภ.ปากช่อง ก็ยังไม่มีใครมาแจ้งความบุคคลสูญหาย  

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ได้เร่งติดตามเชิญตัวผู้ขับขี่กระบะคันดังกล่าวซึ่งเป็นคนนอกพื้นที่จังหวัดนครราชสีมามาให้ปากคำแล้ว ส่วนสาเหตุตอนนี้ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด  ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐาน และตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook