หนุ่มขับกระบะลากศพ 49 กม. เข้ามอบตัว ยันไม่รู้ว่าชนศพ คิดว่าเป็นเนื้อหมู

ความคืบหน้า กรณีรถกระบะ ลากศพออกไปไกล 49 กิโลเมตร ทิ้งร่างไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในหลายๆ จุด ตามถนนมิตรภาพ ซึ่งได้พบรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีดำ ขับมาจาก ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แล้วมาสิ้นสุดที่ปั๊มน้ำมันในเขต ต.ลาดบัวขาว ก่อนที่จะขับออกไปและทิ้งศพกองไว้ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

>> คืบเหตุสยองกระบะลากร่างศพ 49 กม. ผลชันสูตรชี้เป็นหญิง แต่ยังไม่รู้เป็นใคร
>> กระบะขับทับร่างนิรนาม ลากติดใต้ท้องรถไปไกลกว่า 49 กม. จอดแวะปั๊มศพไม่มีหัวหล่น

ล่าสุด วันนี้ (24 มีนาคม 2563) พ.ต.ท.กิตติพจน์ ชำนาญเท พนักงานสอบสวน สภ.สีคิ้ว เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดและทราบเลขทะเบียนรถแล้ว ก็ได้ติดต่อไปยังเจ้าของรถกระบะคันดังกล่าว เพื่อให้มามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ซึ่งเมื่อวานนี้ (23 มี.ค.) นายสิทธิศักดิ์ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นชาว อ.บรบือ จ.มหาสารคาม เดินทางมามอบตัวกับพนักงานสอบสวน แต่ยังให้การปฏิเสธในข้อหาขับรถชนคนเสียชีวิต

โดยเจ้าตัวให้การว่า ได้ขับรถมาตามถนนมิตรภาพช่วงออกจากตลาดกลางดง ซึ่งถนนค่อนข้างมืด ตนเองมองเหมือนมีก้อนเนื้อหมูอยู่กลางถนน จึงขับรถคร่อมไป คิดว่าเป็นเนื้อหมูที่ตกหล่นอยู่กลางถนน โดยไม่ได้คิดว่าจะเป็นศพคน จนกระทั่งขับมาระยะหนึ่ง ก็มีคนบีบแตรบอกอะไรบางอย่าง ซึ่งตนเองคิดว่าจะเป็นการบีบแตรเพราะไปขวางทาง

ต่อมาตนได้จอดรถที่ปั๊มน้ำมันแห่งนึ่ง ในพื้นที่ ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว เพื่อเข้าห้องน้ำ หลังจากนั้นก็ได้ขับรถออกไปจากปั๊ม โดยรู้สึกว่าเหมือนจะถอยรถเหยียบอะไรบางอย่าง แต่ไม่ทันได้สังเกต จนกระทั่งทราบข่าวในสื่อต่างๆ ว่ารถของตนลากศพมาทิ้งไว้บริเวณปั๊มน้ำมันดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สีคิ้วจึงได้โทรศัพท์มาให้ตนเข้าไปมอบตัว

ทั้งนี้ พ.ต.ท.กิตติพจน์ เปิดเผยอีกว่า เบื้องต้นได้พาตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดเกิดเหตุ ทั้งที่ ต.กลางดง อ.ปากช่อง และ ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว และยังไม่ได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหารายนี้ โดยยังอยู่ในช่วงของการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทาง สภ.สีคิ้ว ได้ร่วมกับ สภ.กลางดง อ.ปากช่อง ทำงานร่วมกันอยู่ เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่ที่ปากช่อง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างค้นหาว่ามีผู้สูญหายในพื้นที่หรือไม่ ส่วนที่ อ.สีคิ้ว เป็นจุดพบศพเท่านั้น ส่วนจะชนหรือไม่นั้นยังไม่ทราบ แต่ดูจากสภาพของรถไม่มีสภาพความเสียหายแต่อย่างใด มีเพียงรอยเลือดของผู้ตายติดอยู่บริเวณเพลาล้อหน้า และกันชนหน้าเท่านั้น จึงต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน 3 มาตรวจสอบอีกครั้ง ขณะเดียวกันศพผู้เสียชีวิต ก็ได้ส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป