สุดสลด ไฟไหม้กุฏิไม้สักวัดดังวอด 20 หลัง เพลิงคลอกพระมรณภาพ 2 รูป

เพลิงพิโรธไหม้กุฏิไม้สักวัดดังเมืองอ่างทอง วอด 20 หลัง สุดสลด ไฟคลอกพระมรณภาพ 2 รูป คาดอากาศร้อนทำไฟฟ้าลัดวงจร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (24 มี.ค.) เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แสวงหา จ.อ่างทองได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้กุฏิ ภายในวัดแสวงหา ต.แสวงหา อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้หมู่กุฏิพระสองชั้นด้านหลังศาลาการเปรียญอย่างรุนแรง

ทางเจ้าหน้าที่จึงประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลแสวงหา และใกล้เคียงกว่า 30 คัน เร่งระดมฉีดน้ำดับเพลิง แต่การดับเพลิงเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากกระแสลมที่รุนแรงประกอบกับกุฏิเป็นไม้ติดกันกว่า 20 หลัง ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเร่งเข้ามาช่วยเหลือย้ายสิ่งของที่อยู่ในกุฏิกลางซึ่งเป็นกุฏิของเจ้าอาวาส โดยเวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้น กุฏิพระที่เป็นกุฏิไม้สักเก่าถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด 20 หลัง ขณะเกิดเหตุมีพระที่สำลักควันทางเจ้าหน้าที่ต้องเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล 2 รูป และเร่งตรวจสอบพระทั้งหมดภายในวัด

เบื้องต้น มีพระสองรูปหายไป ทางเจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังเข้าตรวจสอบ พบร่างของ พระต้อย หรือ พระภัชชา อายุ 35 ปี และ พระสำฤทธิ์ อายุ 79 ปี ถูกไฟคลอกมรณภาพอยู่ภายในกุฏิด้านหลัง

จากการสอบถาม พระยุงยุทธ อายุ 56 ปี ซึ่งอยู่บนกุฏิขณะเกิดเพลิงไหม้ เปิดเผยว่า ขณะที่ตนเองกำลังนอนดูข่าวอยู่ภายในกุฏิ ได้ยินเสียงร้องเอะอะโวยวายจึงออกมาดู และพบว่าไฟกำลังลุกไหม้กุฏิด้านหลัง จึงรีบวิ่งหลบหนีลงมาด้านล่าง ซึ่งไฟลุกลามอย่างรวดเร็วจนกระทั่งไหม้รุนแรง ตนเองป่วยอยู่จึงต้องหนีเอาตัวรอด

ขณะที่ พระหวล อายุ 76 ปี พระลูกวัด เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนพร้อมเจ้าอาวาสและพระกำลังไปทำวัตรเย็นที่โบสถ์ ก่อนที่จะมีคนมาเรียกว่าไฟไหม้จึงรีบวิ่งกลับมาดู และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือ ส่วนพระต้อยกับพระแว่นมีอาการป่วยจึงไม่ได้ลงมาทำวัตรด้วย 

ด้าน พ่อของพระต้อย ซึ่งเดินทางมาที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ชาวบ้านเห็นว่าพระต้อยวิ่งเอาเครื่องดับเพลิงมาช่วยดับเพลิงอยู่บริเวณกุฏิด้านหลัง ก่อนที่เพลิงจะลุกไหม้รุนแรงและไม่มีใครเห็นอีกเลยจนกระทั่งควบคุมเพลิงไว้ได้ ก็พบร่างของพระต้อยถูกไฟคลอกเสียชีวิตอยู่ข้างพระพุทธรูปภายในห้อง คาดว่าน่าจะเข้ามาดับไฟแล้วเกิดสำลักควันจนไม่สามารถออกมาได้

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากช่วง 1-2 วันนี้อากาศร้อนจัด จนทำให้เกิดไฟลุกไหม้ และลุกลามอย่างรวดเร็วเนื่องจากเป็นกุฏิไม้สัก เบื้องต้น เตรียมประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้ต่อไป