ม้าแข่ง 42 ตัว ตายเฉียบพลันไม่ทราบสาเหตุ ปศุสัตว์คาดป่วยโรคที่ไม่เคยเกิดในไทย

ม้าแข่ง 42 ตัว ตายเฉียบพลันไม่ทราบสาเหตุ ปศุสัตว์คาดป่วยโรคที่ไม่เคยเกิดในไทย

ม้าแข่ง 42 ตัว ตายเฉียบพลันไม่ทราบสาเหตุ ปศุสัตว์คาดป่วยโรคที่ไม่เคยเกิดในไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(27 มี.ค.63) ตามที่สมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย ได้มีหนังสือขอความร่วมมือไปยังประธานชมรม/ สโมสร และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้หลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายม้าเข้าออกพื้นที่เสี่ยงเป็นการชั่วคราว สืบเนื่องจากทางสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย ได้รับแจ้งจากสมาชิกเรื่องการเสียชีวิตของม้าหลายตัวอย่างเฉียบพลันในเขตพื้นที่บางส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทางสมาคมฯ มีความตระหนักและห่วงใยต่อทุกคนที่มีความเสี่ยงและอาจจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงขอความร่วมมือสมาชิกและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง หลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายม้าเข้าออกพื้นที่เสี่ยงเป็นการชั่วคราวอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อโรค และขอให้ติดตามประกาศจากกรมปศุสัตว์หรือหน่วยงานราชการที่เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับมาตรการและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องต่อไป

วันนี้ (27 มีนาคม 2563) นายสัตวแพทย์ พศวีร์ สมใจ ปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา ได้ออกมาเปิดเผยถึงที่มาของหนังสือด่วนจากสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย และกรณีที่มีม้าหลายตัวล้มตายโดยไม่ทราบสาเหตุในพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ว่า ตนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุในพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เบื้องต้นพบมีม้าแข่งล้มตายอย่างน้อย 42 ตัว ซึ่งสันนิษฐานว่า ม้าแข่งที่ตายน่าจะป่วยเป็นโรคแอฟริกันฮอสซิกเนส (African Horse Sickness) ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อร้ายแรงที่เกิดจากไวรัสม้าอาฟริกา ที่จะมีผลต่อม้าและลาเท่านั้น โดยมีแมลงเป็นพาหะนำเชื้อ และโรคนี้ถือเป็นโรคใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย

โดยขณะนี้ได้ส่งตัวอย่างม้าที่ตายไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดที่สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลอีกประมาณ 1 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามโรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อแต่อย่างใด แต่มีแมลงจำพวกริ้นเป็นพาหะนำโรค ทำให้ม้าที่ป่วยจะมีลักษณะการตายโดยเฉียบพลันภายใน 2-3 ชั่วโมง เนื่องจากเชื้อโรคนี้จะเข้าไปทำลายระบบหายใจของม้า ซึ่งม้าที่ตายขณะนี้ได้ทำการฝังกลบทั้งหมดทุกตัวแล้ว เพื่อไม่ให้แมลงที่เป็นพาหะนำโรคไปแพร่สู่ม้าตัวอื่นอีก ทั้งนี้ได้ประชาสัมพันธ์ไปยังเกษตรกรในพื้นที่ ให้ดำเนินการสร้างมุ้งล้อมรอบคอกสัตว์เพื่อป้องกันแล้ว

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook