นักโทษคุกบุรีรัมย์ ยังหลบหนีอีก 1 ราย เผยเรือนจำเสียหายเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์

นักโทษคุกบุรีรัมย์ ยังหลบหนีอีก 1 ราย เผยเรือนจำเสียหายเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์

นักโทษคุกบุรีรัมย์ ยังหลบหนีอีก 1 ราย เผยเรือนจำเสียหายเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการติดตามตัวผู้ต้องขังที่หลบหนีออกนอกเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ว่า ล่าสุดจากนักโทษ 2,106 คน ตรวจสอบพบว่า หนีออกจากเรือนจำ 11 ราย จับได้แล้ว 10 ยังคงสามารถหลบหนีไปได้จำนวน 1 คน คือนายธันยพงศ์ สินพูน อายุ 26 ปี ชาวบุรีรัมย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัว ส่วนผู้ต้องขังที่ไม่เกี่ยวข้องก็ได้กระจายออกไปสู่เรือนจำใกล้เคียง อาทิ เรือนจำอำเภอนางรอง เรือนจำชั่วคราวบ้านสง่างาม จังหวัดบุรีรัมย์ ทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก จังหวัดนครราชสีมา และเรือนจำกลางสุรินทร์ เป็นต้น

“ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์นี้รุนแรง และไม่เคยเกิดขึ้น ความเสียหายที่เรือนจำบุรีรัมย์แทบจะ 100 % เวลานี้กำลังเร่งให้ประเมินค่าความเสียหาย และผมก็ได้สั่งให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว ว่าใครเป็นคนปลุกปั่น และสาเหตุทั้งหมดอย่างละเอียดเป็นมาอย่างไร แต่ต้องใช้เวลาสอบสวน เพราะผู้ต้องขังเวลานี้กระจายไปกว่า 10 เรือนจำ”

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่หลายคนกังวล ตนขอยืนยันว่าทางเรือนจำมีมาตรการป้องกันอย่างดีมาตลอด โดยใช้วิธีคนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า มีการทำห้องกักโรคเพิ่มการคัดกรองผู้ต้องขังเข้มงวด ซึ่งจนถึงเวลานี้ เรือนจำทั่วประเทศ พบผู้ต้องขังติดเชื้อเพียง 1 ราย ซึ่งทำการรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว จนถึงตอนนี้ไม่มีผู้ต้องขังเชื้อติด โควิด-19 เพิ่ม

“ขอให้ทุกฝ่าย อย่าวิตกกังวล เพราะเหตุการณ์ที่เรือนจำบุรีรัมย์ เป็นเพียงการกล่าวอ้าง เพื่อปลุกปั่น ต้องการจะแหกคุก ซึ่งการจะยกเหตุผล ไม่ให้เยี่ยมญาติ ผมเห็นว่า คงไม่ใช่ประเด็น และขอย้ำว่า ทุกมาตรการที่กรมราชทัณฑ์ออกมา ไม่ได้เป็นการลิดรอนสิทธิของผู้ต้องขัง แต่เป็นการป้องกันไม่ให้ไวรัสโควิด-19 กระจายสู่ผู้ต้องขัง ซึ่งอยากให้ทุกคนทำความเข้าใจ”
สำหรับ นายธันยพงศ์ สินพูน เป็นผู้ต้องขังระหว่างสอบสวน (ฝากขังระหว่างสอบสวน) เข้ามาเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 63 กระทำผิดฐาน พรบ.ยาเสพติดประเภท 1 (ร่วมกันครอบครองเพื่อจำหน่ายและเสพ) มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และต่อสู้ขัดขืนเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษรัาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook