พ่อเฒ่าปืนดุบุกสังหารหนุ่มเพื่อนบ้าน 7 นัด ตายต่อหน้าแม่ ดวลเดือดยิงสู้ตำรวจ
(1 เม.ย.63) เมื่อเวลา 10.00 น. ร.ต.อ.ไพบูลย์ ไชยสิทธิ์สกุล รอง สว.สอบสวน สภ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี รับแจ้งจาก นายหาญ โคตรมณี กำนัน ต.หนองหว้า อ.กุมภาปี ว่ามีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 7 ม.7 พร้อมประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.กุมภวาปี และอาสากู้ภัยมูลนิธิประชาธรรม ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายของชำ ตั้งอยู่ริมถนนกลางหมู่บ้านหนองหว้า พบชาวบ้านที่ทราบข่าวมายืนมุงอยู่ที่หน้าบ้านจำนวนมาก ตำรวจได้ใช้แถบกั้นที่เกิดเหตุ ห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามา ตรวจสอบในบ้านพบศพ นายประสิทธิ์ อายุ 44 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ที่ประตูหลังบ้าน บนพื้นบ้านพบเลือดหยดเป็นทางบนพื้นบ้าน และพบปลอกกระสุนขนาด 11 มม. ตกอยู่ทั่วพื้นบ้านจำนวน 8 ปลอก และหัวกระสุนขนาด 11 มม. 1 หัว แพทย์เวรชันสูตรร่างกายผู้เสียชีวิต พบรูกระสุนบริเวณหน้าอก 2 นัด ชายโครงซ้าย 2 นัด ขาซ้าย 1 นัดและขาขวา 2 นัด รวม 7 นัด เป็นการยิงในระยะประชิด และกระสุนพลาดเป้า 1 นัด
สอบสวนญาติผู้เสียหาย ทราบว่า คนที่ก่อเหตุไม่ใช่คนอื่นคนไกล เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน คือ นายสำราญ อายุ 76 ปี หลังก่อเหตุได้เดินถือปืนออกมาจากซอยข้างบ้านผู้ตาย หลบหนีไปทางบ้านของตัวเอง ซึ่งอยู่ห่างกันกับบ้านผู้ตายราว 200 เมตร โดยคนร้ายทำรองเท้าแตะสีดำ 1 ข้าง ตกอยู่หน้าบ้านที่เกิดเหตุ และรถ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีแดง ของคนร้ายที่ขี่มาก่อเหตุ จอดทิ้งไว้หน้าบ้านผู้ตาย
สอบสวน นางพรพรรณ อายุ 56 ปี และ นางสมบูรณ์ อายุ 65 ปี พี่สาวของผู้ตาย ที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้การว่า ขณะที่พวกตนนั่งอยู่หน้าบ้าน เห็นนายสำราญ คนร้ายขี่รถ จยย.สีแดง มาจอดที่หน้าบ้าน พร้อมกับถามหาน้องชายว่ามันอยู่ไหน เพราะน้องชายได้ไปขู่อาฆาตคนร้ายว่า จะใช้มีดปาดคอ และกล่าวหาว่าคนร้ายขโมยปลาในตาข่ายที่น้องชายพวกตนดักจับปลาในลำห้วยนาขี ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านราว 1.5 กม. ทำให้พวกตนตกใจ จึงถามคนร้ายว่าได้ยินกับหูหรือไม่ คนร้ายบอกว่ามีคนเล่าให้ฟัง และอยากมาถามว่าน้องชายพวกตนได้พูดอาฆาตเอาชีวิตของคนร้ายหรือไม่ หากน้องชายพูดจริงและมีพยานยืนยัน พวกตนก็พร้อมจะเสียค่าปรับที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน
ขณะที่กำลังพูดคุยตกลงเรื่องราวกัน นายประสิทธิ์ผู้ตายได้เดินลงมาจากบนบ้านชั้น 2 มายืนอยู่หน้าบันได พร้อมกับร้องบอกคนร้ายว่า ไม่ได้พูดให้ร้ายแต่อย่างใด และไม่ได้ออกชื่อคนที่มาขโมยปลาในตาข่ายจับปลาแม้แต่คำเดียว แต่เมื่อคนร้ายเห็นน้องชาย ได้ล้วงปืนพกออกมาจากเอว พร้อมกับพูดว่า “มึงใช่ไหมที่หาว่ากูไปขโมยปลา และจะปาดคอกู” ผู้ตายจึงวิ่งเข้าไปหลบหลังตู้ขายของ แต่คนร้ายได้วิ่งเข้าไปใช้ปืนกราดยิงน้องชายไปชุดแรก 4 นัด จนน้องชายล้มฟุบลง ขณะวิ่งหนีออกไปทางประตูหลังบ้าน ก่อนที่คนร้ายจะเดินไปยิงซ้ำอย่างใจเย็นอีก 2 นัด ก่อนที่คนร้ายจะวิ่งหนีกลับไปทางบ้านพักของตัวเอง แต่ทิ้งรถ จยย.ไว้ พี่สาวของผู้ตาย กล่าว
ส่วน นางเสน อายุ 86 ปี แม่ของผู้ตายนำรูปลูกชายสมัยบวชเป็นพระมาดู แล้วเล่าว่า ตนมีลูก 10 คน ผู้ตายเป็นลูกชายคนเล็ก เป็นคนขยันทำมาหากิน ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร และมีครอบครัวอยู่ที่ จ.นครพนม มีลูกชายหญิง 2 คน โดยตนได้แบ่งที่ให้กับลูกชายปลูกยางพารา 15 ไร่ โดยลูกจะเทียวไปมาจากบ้านภรรยาที่ จ.นครพนม ขณะเกิดเหตุตนนั่งอยู่ในบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย จึงออกมาดู เห็นคนร้ายไล่ยิงลูกชายตนต่อหน้าต่อตา ตนทำอะไรไม่ถูกได้แต่ร้องขอชีวิตลูกชาย และขอให้พูดจากันดีๆ แต่สายไป คนร้ายก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม และไม่ยอมฟังเหตุผล แต่ก็พร้อมที่จะให้อภัยหากคนร้ายยอมมอบตัว และมาขอขมาศพลูกชาย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้าน นายสำราญ คนร้าย พบนางแดง อายุ 49 ปี หลานสาวคนร้ายที่มีบ้านอยู่ติดกัน เล่าว่า คนร้ายมีศักดิ์เป็นลุง มีนิสัยโมโหร้ายและใจดำ แม้กระทั่งญาติๆ เคยถูกลุงเอาปืนออกมายิงขู่หน้าบ้าน หลังมีเรื่องแนวเขตโฉนดที่ดินที่อยู่ติดกันรอบบริเวณบ้านของลุง รวมทั้งชาวบ้าน หากใครมีเรื่องกับลุง ก็จะถูกข่มขู่ด้วยปืน ส่วนสาเหตุในเรื่องยิงคนตาย ตนไม่รู้เรื่องว่ามาจากสาเหตุอะไร เพราะเพิ่งทราบเรื่องราวเมื่อช่วงสายของวันนี้ และหากลุงได้ดูข่าว ขอให้ลุงมอบตัวกับตำรวจ เพราะโทษหนักจะได้เบาลง เพราะลุงอายุก็มากแล้ว
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า เมื่อเวลา 16.30 น. วันเดียวกัน ตำรวจสืบสวน สภ.กุมภวาปี และตำรวจสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี ได้ออกสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย จนพบเห็นคนร้ายขณะเดินเท้าเข้าไปในเขต อ.หนองแสง จ.อุดรธานี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังติดตามคนร้าย พบนายสำราญฯ เดินเท้าบนถนนทางขึ้นบ่อก๊าซภูฮ่อม บ่อที่ 5 ต.แสงสว่าง อ.หนองแสง
โดยตำรวจบอกให้คนร้ายมอบตัว แต่คนร้ายได้ยิงต่อสู้ตำรวจ 2 นัด จึงถูกตำรวจยิงสวนกลับไป 1 นัด กระสุนถูกบริเวณช่องท้องของคนร้าย ล้มฟุบลงพื้นถนน จึงเข้าจับกุมตัวส่งโรงพยาบาลหนองแสง ก่อนจะถูกนำตัวส่งต่อที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส ในเบื้องต้นพบว่าอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนมีทะเบียนถูกต้อง แต่ขอตรวจสอบว่า คนร้ายได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ และในเบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ”ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา, พยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร” และจะอายัดตัวดำเนินคดี หลังคนร้ายมีอาการดีขึ้น