พฤติกรรมป่วนช่วงวิกฤต “COVID-19” ล้อเล่นขำๆ แต่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา

พฤติกรรมป่วนช่วงวิกฤต “COVID-19” ล้อเล่นขำๆ แต่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา

พฤติกรรมป่วนช่วงวิกฤต “COVID-19” ล้อเล่นขำๆ แต่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ก่อนที่องค์การอนามัยโลกประกาศการระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนา นายโคดี ลี ฟิสเตอร์ วัย 26 ปี ก็เดินเข้าไปในร้านวอลมาร์ทในมิสซูรี และตะโกนถามผู้คนในร้านว่า “ใครกลัวไวรัสโคโรนาบ้าง” จากนั้นก็ตอบคำถามของตัวเองด้วยการเลียแถวน้ำยาดับกลิ่นกายที่อยู่บนชั้นทั้งหมด ไม่เพียงเท่านั้น ฟิสเตอร์ยังโพสต์คลิปวีดิโอในโลกออนไลน์ด้วย โดยปฏิบัติการน่าขยะแขยงนี้จบลงที่เขาถูกตั้งข้อหากระทำการคุกคามก่อการร้าย

จากการเลียสิ่งของในร้านขายของสู่การจามใส่ผู้อื่น และการจงใจฝ่าฝืนข้อปฏิบัติเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม เหล่าคนที่แสดงพฤติกรรมพิเรนทร์ในสถานการณ์ไวรัสโคโรนาออกอาละวาดในวงกว้าง บางคนแค่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่บางคนกลับทำสิ่งที่เป็นอันตรายยิ่งกว่า

หญิงคนหนึ่งถูกกล่าวหาว่าจงใจจามใส่ผู้อื่นและถ่มน้ำลายในร้านขายของชำในเพนซิลเวเนีย และถูกจับกุมในข้อหาทางอาญาร้ายแรง

การกระทำ “ขำๆ” ของนายฟิสเตอร์บานปลายสู่การสืบสวนอย่างจริงจังของตำรวจ และเขาถูกตั้งข้อหากระทำการก่อการร้ายระดับที่สอง ซึ่งเป็นความผิดทางอาญาร้ายแรง โดยทนายของเขาระบุว่า วันที่เขาก่อเหตุนั้นสร้างความแตกต่างอย่างมาก เนื่องจากตำรวจระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 11 มีนาคม แต่ที่จริงแล้ว ฟิสเตอร์ก่อเหตุในวันที่ 10 มีนาคม

“การกระทำในวันที่ 10 มีนาคมนั้นมีความแตกต่างอย่างมาก เมื่อเทียบกับวันนี้ เมื่อวันที่ 10 ที่มีการถ่ายวีดิโอ COVID-19 ยังไม่ถูกประกาศโดยองค์การอนามัยโลกว่าเป็นโรคระบาดใหญ่ และเมื่อมีการประกาศแล้ว ทุกสิ่งก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จากเรื่องเล่นพิเรนทร์กลายเป็นภัยคุกคามและก่อการร้ายทันที” ทนายของฟิสเตอร์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ฟิสเตอร์ไม่ใช่คนเดียวที่ถูกตั้งข้อหาจากทางการ ผู้ที่จงใจแพร่เชื้อไวรัสก็ถูกตั้งข้อหาด้วยเช่นกัน

จอร์จ ฟอลโคน วัย 50 ปี จามใส่พนักงานร้านขายอาหาร และบอกเธอว่าเขาติดเชื้อไวรัสโคโรนา จากนั้น เขาถูกตั้งข้อหาหลายกระทง รวมถึงข้อหาก่อการร้าย หรือกรณีของมาร์กาเร็ต เซอร์โก วัย 35 ปี ที่เดินเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตในฮันโนเวอร์ และไอใส่ตู้อาหารสด สินค้าอบ และเนื้อสัตว์ พร้อมประกาศว่า “ฉันติดเชื้อไวรัสโคโรนา และพวกคุณจะป่วยกันหมด” ก่อนที่จะพยายามขโมยเบียร์ 12 แพ็ค

การกระทำของเซอร์โก ทำให้ทางร้านต้องทิ้งอาหารทั้งหมด สูญเงินไปเป็นมูลค่า 35,000 เหรียญสหรัฐ ตำรวจตั้งข้อหาเธอเกี่ยวกับการก่อการร้าย และการคุกคามโดยใช้ “สารชีวภาพ”

โจ ฟาซูลา วัย 44 ปี ผู้ร่วมก่อตั้งร้านอาหารซึ่งเซอร์โกได้เข้าไปก่อเหตุ ระบุว่า “มันเป็นเรื่องน่าหดหู่ เมื่อมีคนคิดจะสร้างความหายนะหรือเล่นพิเรนทร์ในช่วงเวลาที่อาหารเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้คน”

ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ COVID-19 ได้ที่นี่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook