ผู้เชี่ยวชาญไอซ์แลนด์ชี้ 50% ของผู้ติดเชื้อ “ไวรัสโคโรนา” จะไม่แสดงอาการ
ประเทศไอซ์แลนด์ถือเป็นประเทศที่น่าอิจฉาประเทศหนึ่งของโลก จากธรรมชาติที่แสนงดงาม และเป็นหนึ่งในประเทศที่คนมีความสุขมากที่สุดในโลก และล่าสุด ประเทศที่น่าอิจฉานี้ก็ได้ทำการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโคโรนาในวงกว้าง ซึ่งอาจจะช่วยให้โลกได้เข้าใจการระบาดในครั้งนี้ได้มากขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การตรวจหาโรคอย่างเป็นวงกว้างคือกุญแจสำคัญในการควบคุมไวรัสโคโรนา ทั้งยังช่วยให้เห็นภาพการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ได้อย่างชัดเจน และนั่นคือสิ่งที่ประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งมีประชากรกว่า 360,000 คนกำลังทำอยู่ในขณะนี้
ประเทศไอซ์แลนด์ได้ทำการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสในประชาชนไปแล้วกว่า 17,900 คน ซึ่งถือเป็น 5 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งประเทศ โดยโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยกลางได้ทำการตรวจหาเชื้อในกลุ่มประชากรที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะติดโรคหรือแสดงอาการของโรค และเกือบครึ่งหนึ่งของการตรวจหาเชื้อไวรัสเป็นความรับผิดชอบของบริษัท deCODE Genetics ซึ่งมีเป้าหมายเป็นประชากรในระดับที่ใหญ่ขึ้น โดยคณะกรรมการสุขภาพของไอซ์แลนด์ระบุว่า โครงการตรวจคัดกรองของ deCODE เปิดรับทุกคนที่ไม่แสดงอาการของโรคและไม่ได้อยู่ในขั้นตอนของการกักตัว
ผลการตรวจหาเชื้อที่พบ
“ผลการตรวจหาเชื้อที่ deCODE รับผิดชอบได้ชี้ว่าความพยายามในการจำกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสยังคงใช้ได้ผล การตรวจหาเชื้อในประชากรทั่วไปจะช่วยเปิดเผยภาพของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในไอซ์แลนด์ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น” รัฐบาลไอซ์แลนด์ออกประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จนถึงตอนนี้ deCODE ได้ทำการตรวจหาเชื้อไปแล้วกว่า 9,000 ราย
แม้จะมีเพียง 1% ของผู้เข้ารับการตรวจหาเชื้อที่มีผลเป็นบวกหรือติดเชื้อ นายแพทย์คาริ สเตฟานส์สัน ผู้ก่อตั้งบริษัทก็ได้ระบุว่า 50% ของคนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาไม่แสดงอาการของโรคเลย ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยหลาย ๆ ชิ้นที่ชี้ว่าคนที่ไม่แสดงอาการหรือแสดงอาการเพียงเล็กน้อย มีบทบาทสำคัญในการแพร่กระจายเชื้อไวรัส
“สำหรับผมแล้ว มันเป็นเพราะเราตรวจคัดกรองประชาชนทั่วไป ซึ่งทำให้เราพบผู้ติดเชื้อได้เร็วก่อนที่พวกเขาจะเริ่มแสดงอาการป่วยใด ๆ” นายแพทย์สเตฟานส์สัน กล่าว
การตรวจหาเชื้อในลักษณะนี้ยังช่วยให้นักวิจัยสามารถมองเห็นภาพการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้ โดยนักวิจัยสามารถระบุต้นกำเนิดของเชื้อไวรัสในทุก ๆ เคสที่ติดเชื้อในไอซ์แลนด์ ซึ่งเชื้อไวรัสที่มาจากอิตาลี ออสเตรีย และสหราชอาณาจักรมีการกลายพันธุ์เล็กน้อย ขณะที่มีเชื้อไวรัสบางตัวที่มาจากฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ นายแพทย์สเตฟานส์สันตั้งข้อสงสัยว่าการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสอาจมาจากการตอบสนองที่แตกต่างกันของคน บางคนอาจมีอาการหวัดเพียงเล็กน้อย ขณะที่อีกคนถึงกับต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือไม่ก็อาจเป็นกรรมพันธุ์ของแต่ละคนที่เป็นตัวกำหนดอาการของโรค หรือบางทีอาจจะเป็นทั้งสองอย่าง
ไอซ์แลนด์ไม่ปิดประเทศ
ประเทศไอซ์แลนด์ยังไม่ได้ใช้มาตรการปิดเมืองเหมือนหลาย ๆ ประเทศในยุโรปและเอเชีย แต่รัฐบาลไอซ์แลนด์ก็สั่งห้ามการรวมตัวกันมากกว่า 100 คน พร้อมทั้งสั่งปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัย เจ้าหน้าที่หลายคนชี้ว่ามาตรการการปิดเมืองยังไม่จำเป็นสำหรับประเทศไอซ์แลนด์ เพราะพวกเขาเตรียมตัวรับมือกับเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นอย่างดีและมีข้อมูลที่เอาไว้ตรวจสอบเชื้อ
“ยังมีอีกหนึ่งเหตุผล นั่นคือเราได้ใช้นโยบายให้คนที่มีความเสี่ยงว่าจะติดเชื้อไวรัสโคโรนาต้องทำการกักตัวเอง โดยให้กักตัวนานกว่าเดิม และในระดับที่รุนแรงมากกว่าในหลาย ๆ ประเทศ”
ประเทศไอซ์แลนด์เริ่มตรวจหาเชื้อไวรัสให้กับประชาชนของตัวเองในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ หลายสัปดาห์ก่อนมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัส ซึ่งทำให้หน่วยงานสาธารณสุขของประเทศสามารถตรวจสอบที่มาที่ไปของโรคและสั่งกักตัวผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อ โดยรัฐบาลได้แสดงข้อมูลว่าประเทศไอซ์แลนด์มีผู้ติดเชื้อแล้ว 1,089 ราย และ 927 รายต้องแยกตัวจากสังคม ขณะที่มีผู้ทำการกักตัวเองกว่า 5,000 ราย
“เหตุผลเดียวที่เราทำได้ดีกว่าก็คือเราตื่นตัวมากกว่า เราให้ความสำคัญกับข่าวการระบาดที่เกิดขึ้นในประเทศจีน และเราไม่ได้คิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องธรรมดาเท่านั้น” นายแพทย์สเตฟานส์สัน ชี้
แผนการส่งต่อกลยุทธ์
นายแพทย์สเตฟานส์สันกล่าวว่าไอซ์แลนด์สามารถช่วยเหลือประเทศอื่น ๆ ในการพัฒนาตัวแบบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส หรือช่วยนักวิจัยให้เข้าใจการแพร่ระบาดในกลุ่มชุมชน
อย่างไรก็ตาม ก็มีหลายความคิดเห็นที่ชี้ว่าเพราะประเทศไอซ์แลนด์มีจำนวนประชากรไม่มาก จึงช่วยให้การตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสในประชากรขนาดใหญ่ทำได้อย่างง่ายดาย แต่นายแพทย์สเตฟานส์สันก็แย้งว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับจำนวนประชากร แต่เป็นเรื่องของการเตรียมพร้อมสำหรับการระบาดใหญ่ พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศมีคนที่มีความสามารถมากมายที่สามารถพัฒนาการตรวจสอบเชื้อได้ตั้งนานแล้ว แต่กลับทำเป็นทองไม่รู้ร้อนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น