5 เทคนิค “Social Distancing” จากชายผู้เว้นระยะห่างทางสังคมนานเกือบ 50 ปี
ในขณะที่เรากำลังเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา แต่ “บิลลี บาร์” กลับเว้นระยะห่างทางสังคมแบบนี้มานานเกือบ 50 ปีแล้ว จากการที่เป็นประชากรเพียงคนเดียวในเมืองโกธิค รัฐโคโลราโด เขาอาศัยอยู่ในพื้นที่เหมืองเงินร้างที่ความสูงเกือบ 10,000 ฟุต ในเทือกเขาร็อกกี
บาร์กล่าวกับเว็บไซต์ NPR ว่า เมื่อเขามาถึงที่นี่เป็นครั้งแรก เขารู้สึกโล่งใจที่ได้อยู่คนเดียว เนื่องจากปกติเขาชอบอยู่คนเดียวอยู่แล้ว และวิธีการนี้อาจจะใช้ไม่ได้ผลกับคนอื่นก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม คนอื่นๆ เรียกเขาว่าฤาษี แต่เขาไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะเขาจะพูดคุยกับนักเล่นสกีที่เดินทางผ่านไปมา คุยกับน้องสาวทางโทรศัพท์ และทำงานให้กับห้องปฏิบัติการทางชีววิทยาร็อกกีเมาท์เทน ที่เต็มไปด้วยนักวิทยาศาสตร์ในช่วงฤดูร้อน
ฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่บาร์อยู่คนเดียวจริงๆ มานานหลายปี โดยที่ไม่พบใครเลย ดังนั้น สำหรับเขา สถานการณ์ COVID-19 จึงไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง และนี่คือ 5 เทคนิคเว้นระยะห่างทางสังคมของบิลลี บาร์ ที่เขาพิสูจน์ด้วยตัวเองมานานเกือบ 50 ปี
1. ติดตามความเคลื่อนไหวของบางสิ่งบางอย่าง
ในแต่ละวัน บาร์จะติดตามสภาพอากาศจากหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งศูนย์ข้อมูลหิมะถล่มโคโลราโด (Colorado Avalanche Information Center) และเริ่มวัดระดับหิมะตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970s ด้วยเหตุผลหลักคือแก้เบื่อ พร้อมทั้งจดบันทึก และเมื่อพบสัตว์ เขาก็จะจดบันทึกไว้เช่นกัน ในที่สุด การติดตามสถานการณ์ของเขากลายเป็นข้อมูลที่มีคุณค่ามากสำหรับการศึกษาวิจัยเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดังนั้น ในช่วง COVID-19 บาร์แนะนำว่าคุณควรมองหาประเด็นให้ติดตาม เช่น สิ่งของที่คุณสามารถหาได้หรือหาไม่ได้ในร้านขายของชำ หรือเข้าโครงการเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ที่ติดตามสถิติต่างๆ อย่างปริมาณฝน หรือเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายที่มีคนทำสิ่งเดียวกันกับคุณ หรือในเวลาเดียวกัน เป็นต้น
2. จัดตารางกิจวัตรประจำวัน
บาร์ตื่นนอนตั้งแต่ 3.30 น. หรือ 4.00 น. และนอนอยู่บนเตียงจนกระทั่ง 5.00 น. แต่เขาเล่าว่าเมื่อสัปดาห์ก่อน เขาฟังข่าวเกี่ยวกับ COVID-19 และการเมืองทุกวันจนเริ่มรู้สึกเครียดหรือหงุดหงิด จึงเปลี่ยนมาฟังรายการวิทยุแบบเก่าแทน จากนั้นก็เริ่มกวาดหิมะออกจากแผงโซลาร์เซลล์ และส่งเอกสารรายงานสภาพอากาศไปยังหน่วยงานต่างๆ หลังจากนั้นจึงเริ่มทำงานอื่นๆ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องให้รางวัลตัวเองเมื่อสิ้นสุดวัน โดยเขาจะอ่านหนังสือ ถักนิตติ้ง ดูภาพยนตร์ และดูการแข่งขันคริกเก็ต นอกจากนี้ บาร์ยังระบุว่า เขาเคยเขียนบันทึกประจำวันนานประมาณ 10 ปี แต่เมื่อกลับมาอ่านอีกรอบ เขากลับรู้สึกว่ามันน่าเบื่อ และเลิกเขียนไปในที่สุด
3. ฉลองให้กับสิ่งที่สำคัญ ไม่ใช่ฉลองสิ่งที่ต้องฉลอง
บาร์ไม่ค่อยฉลองวันหยุดหรือวันเกิด แต่ฉลองให้กับวันที่ 17 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรมากที่สุด เขาให้เหตุผลว่าวันนี้จะเป็นวันที่เขาตื่นแต่เช้าและเห็นแสงอาทิตย์เร็วขึ้น ซึ่งทำให้เขาใช้ชีวิตได้ง่ายกว่าเดิม นอกจากนี้ เขายังฉลองให้กับวันที่เขากลับจากการสกีเป็นระยะทาง 8 ไมล์ ไปซื้อของในเมืองเครสเตด บัตต์ บาร์กล่าวว่า การเข้าไปในเมืองทำให้เขาเครียด เพราะฉะนั้น เขาจึงเตรียมภาพยนตร์เรื่องโปรด อาหารโปรด และสิ่งที่ต้องทำ เพื่อให้เมื่อกลับมาถึงบ้าน เขาจะรู้สึกว่า “ปาร์ตี้เริ่มขึ้นแล้ว!”
4. ยอมรับความหงุดหงิด
บาร์กล่าวว่า บางครั้งก็เป็นเรื่องน่ายินดีที่เราหงุดหงิดกับบางสิ่ง เขาเล่าว่าเขาเบื่อหิมะ และก็ชอบที่จะหงุดหงิดเมื่อเห็นหิมะ และยอมรับว่า เมื่อเราแก่ตัวลง เราจะยินดีให้ตัวเองหงุดหงิด เมื่อรู้สึกว่าหงุดหงิด
5. ใช้ภาพยนตร์ในการปรับอารมณ์
บาร์กล่าวว่า หากเขารู้สึกเครียดจริงๆ เขาจะดูภาพยนตร์อนิเมชันที่มีภาพน่ารักๆ และมีเนื้อหาตลก เพื่อที่จะไม่ให้คิดถึงเรื่องเครียดๆ ภาพยนตร์เรื่องโปรดของเขาก็ได้แก่ The Princess Bride และภาพยนตร์ที่มีฮิวจ์ แกรนท์ แสดงนำ อย่าง Love Actually หรือ Notting Hill นอกจากนี้ เขายังแนะนำภาพยนตร์บอลลีวูดที่มีสีสันจัดจ้าน และเพลงประกอบดี แถมยังมีรายการภาพยนตร์เรื่องโปรดสำหรับดูในสถานการณ์ต่างๆ ถึง 357 เรื่องเลยทีเดียว โดยภายในกระท่อมของเขาจะมีห้องดูภาพยนตร์ ที่มีทั้งโปรเจ็คเตอร์ ผนังบุพรม และเก้าอี้ 3 ตัว สำหรับกรณีที่เชิญแขกมาดูภาพยนตร์ด้วยกัน
“แต่ผมไม่เคยเชิญใคร” บาร์กล่าว