ยิงเสี่ยโรงน้ำแข็ง-ลูกน้องดับคารถ 2 ศพ
2 คนร้ายขี่จยย.ประกบยิงเสี่ยโรงน้ำแข็งดับคากระบะ ลูกน้องพยายามเปิดประตูรถหนีถูกกระหน่ำยิงดับข้างรถอีกคน ส่วนพี่ชายกระสุนเจาะแขนเจ็บสาหัส ตำรวจตั้ง 2 ปมสังหาร ยาเสพติด-ชู้สาว
เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ต.ท.เรวัตร จิตเอื้อ สารวัตรเวรสน.สน.บางยี่ขัน รับแจ้งมีเหตุยิงกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บภายในซอย อรุณอัมรินทร์ 53 แขวงบางยี่ขัน เขตบาลพลัด กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอต ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 (ผบก.น.7) พ.ต.อ.สุธี เนรกัณฐี รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 (รอง ผบก.น.7) พ.ต.อ.พูนประยูร อิศรศักดิ์ ณ อยุธยา ผกก.สน.บางยี่ขัน พ.ต.ต.สมพงษ์ รัตนแมนสรวง สว.สส.สน.บางยี่ขัน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์โรงพยาบาลศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเข้าไปภายซอยอรุณอัมรินทร์ 53 ประมาณ 50 เมตร ติดกับสถานที่ก่อสร้างอาคารลุมพินีเพลส พระราม 8 พบรถกระบะโตโยต้าไฮลักษ์ ไทเกอร์ แบบตอนครึ่งติดหลังคาแค่รี่บอย สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ปน 6904 กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบที่เบาะนั่งคนขับพบศพ นายสุรณรงค์ เลิศรัตนศาสตร์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 281 ม.11 แขวงและเขตตลิ่งชัน กทม. สภาพสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว สวมกางเกงยีนสีดำ ถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. เข้าที่สีข้างขวา 2 นัด
นอกจากนี้ข้างรถทางด้านซ้ายบนพื้นถนนพบผู้เสียชีวิตอีกรายทราบเพียงชื่อ ปิง เนื่องจากไม่พบหลักฐานว่าเป็นผู้ใด นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต สวมเสื้อยืดสีเขียว กางเกงลายพรางทหาร ถูกยิงด้วย อาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าที่ลำคอ 1 นัด และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน พลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลธนบุรี 1 ทราบชื่อคือ นายจักรพงษ์ เลิศรัตนศาสตร์ อายุ 34 ปี พี่ชายผู้ตาย ถูกยิงเข้าที่แขนทั้ง 2 ข้างและถูกฟันเข้าที่กลางหลังเป็นแผลเหวอะ
ทั้งนี้ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบหัวกระสุนติดอยู่ที่กำแพงจำนวน 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และจากการค้นในตัวผู้ตายพบเงินสดกว่า 8 พันบาท สร้อยคอทองคำน้ำหนักประมาณ 1 บาท พร้อมพระเลี้ยมทอง และโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง
จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอาคารลุมพินีเพลส พระราม 8 ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นรถกระบะคันดังกล่าวขับมายังจุดเกิดเหตุ จังหวะนั้นมีรถจักรยานยนต์ไม่ทราบรุ่น สี และยี่ห้อ ขับขี่มาปาดดักหน้ารถกระบะ ของผู้ตาย จากนั้นคนซ้อนท้ายได้ลงมาจากรถชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงคนขับจนเสียชีวิต และยิงชายอีกคนที่นั่งมากับท้ายกระบะ ที่พยายามจะเปิดฝาท้ายวิ่งหลบหนี จนเสียชีวิตอยู่ข้างรถ และยิงใส่อีกคนได้รับบาดเจ็บอีก จากนั้นคนร้ายได้ขับขี่รถ จยย.หลบหนีเข้าไปภายในซอยอรุณอัมรินทร์ 53 ซึ่งสามารถทะลุออกได้หลายเส้นทาง
พ.ต.อ.สุธี กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายเป็นเจ้าของโรงน้ำแข็ง ภายในซอยสวนผัก 12 ย่านตลิ่งชัน โดยก่อนเกิดเหตุ ผู้ตาย และพี่ชาย คือนายจักรพงษ์ และคนงานโรงน้ำแข็งนั่งที่กระบะท้าย ขับรถมาจากวัดดาวดึงส์ เพื่อจะมาหาเพื่อนในซอยอรุณอัมรินทร์ 53 จังหวะนั้นได้มีคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ ตามมาแล้วใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. กระหน่ำยิงเข้าไปในรถจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว
พ.ต.อ.สุธี กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติของนายสุรณรงค์ ทราบว่า เคยมีคดีใช้อาวุธมีดแทงคนเสียชีวิตในพื้นที่ สน.ตลิ่งชัน เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างประกันตัวมาสู้คดี แต่คาดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งประเด็นไว้ 2 ประเด็นคือเรื่องยาเสพติด หรือ ชู้สาว ซึ่งจะได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามตัวคนร้ายดำเนินคดีต่อไป