ผู้ใหญ่บ้านโหด คว้าลูกซองยิงพระ-ลูกบ้านดับ เหตุฝ่าฝืนเคอร์ฟิว อ้างผู้ตายชักมีด-ปืนสู้
เมื่อเวลา 01.20 น.วันที่ 7 เม.ย.นายวิสูตร อินทรกำเนิด นายอำเภอท่าชนะ ได้รับแจ้งจาก นายทัศน์พล ทิพย์ศักดิ์ กำนันตำบลสมอทอง ว่ามีเหตุยิงกันตายบริเวณถนนสายเลียบเขาเพ-ลา ทางเข้าสำนักสงฆ์เขาเพ-ลา หมู่ที่ 9 ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี รีบตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.ฐิติวัชร์ สุฐิติวนิช ผกก.สภ.ท่าชนะ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง
ที่เกิดเหตุพบศพ พระชลธาร ถาวโร หัวหน้าสำนักสงฆ์เขาเพ-ลา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่ลำตัว นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณสวนยางพาราข้างทางสภาพนอนคว่ำหน้า และยังมีผู้เสียชีวิตอีกหนึ่งรายทราบชื่อ นายชูรัตน์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านใน ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกัน สภาพนอนหงายอยู่บนท้ายรถกระบะมีมีดตกอยู่ข้างตัว 1 เล่ม และยังพบอาวุธปืนสั้นตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 กระบอกเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้ก่อเหตุยืนรอมอบตัวอยู่ในที่เกิดเหตุคือ นายมานพ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9 ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมอาวุธปืนลูกซองที่ใช้ก่อเหตุ
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายมานพ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9 ตำบลสมอทอง รับแจ้งว่ามีผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่2) ออกนอกเคหะสถาน ระหว่างเวลา 22.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่เหตุอันจำเป็น และไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ในพื้นที่ หมู่ที่ 9 ตำบลสมอทอง
จึงรีบตรวจสอบพร้อม นายปัญญาภรณ์ วัฒนปราโมทย์ ปลัดอำเภอ พร้อมด้วยชุดเคลื่อนที่เร็ว อำเภอท่าชนะจำนวน 14 นาย และได้ควบคุมตัว นายชัยสิทธิ์ อินทสุต และพระชลธาร ถาวโร หัวหน้าสำนักสงฆ์เขาเพ-ลา พร้อมรถยนต์กระบะ 3 คัน และอุปกรณ์จับผึ้งอีกจำนวนหนึ่ง
โดยนายมานพ ผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้ควบคุมตัวทั้งคู่ไว้และขณะที่นายปัญญาภรณ์ วัฒนปราโมทย์ รายงานทางโทรศัพท์ให้นายวิสูตร อินทรกำเนิด นายอำเภอท่าชนะ ทราบได้มีเสียงปืนดังขึ้น
บริเวณที่ นายมานพ ควบคุมผู้กระทำความผิด จึงรีบวิ่งไปดูพบว่า นายชัยสิทธิ์ และพระชลธาร ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิต โดยนายมานพเป็นผู้ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงผู้ตายทั้งคู่
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายมานพ ให้การในที่เกิดเหตุว่า ในระหว่างควบคุมตัวนั้นพระชลธาร ได้ชักปืนพกออกมาจากตัวและนายชูรัตน์ คว้ามีดออกมาเพื่อจะทำร้ายตนเอง จึงได้ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่ทั้งคู่จนเสียชีวิตดังกล่าว
จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าชนะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป