รวบคาด่านเคอร์ฟิว ลับลอบขนเจลล้างมือเกือบหมื่นขวด มูลค่ากว่า 8 แสนบาท

เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 7 เม.ย. 63 ที่บริเวณหน้าห้างพลัสมอลล์ หมู่ 5 ถนนกาญจนาภิเษก ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พ.ต.ต.เฉลิมพล ซื่อสัตย์ สว.ป.สภ.ปลายบาง นายณัฐพงศ์ จันทร์เกตุ ปลัดอำเภอบางกรวยฝ่ายความมั่นคง นายสุเทพ ต่ายจันทร์ กำนันตำบลบางกรวบ นายสมนึก สุขสำราญ กำนันตำบลปลายบาง เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ทหาร พ.สห.11 ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปลายยาง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.บางกรวย และ อส. รวมกว่า 30 นาย ร่วมกันตั้งจุดตรวจด่าน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้ามออกนอกเคหะสถาน ตั้งแต่เวลา 22.00 - 04.00 น.     

จากการตั้งจุดตรวจพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออิซูซุ ดีแม็กซ์ สีขาว ทะเบียน ผข 7024 นครปฐม ทราบชื่อผู้ขับขี่คือ นายพิษณุ อายุ 39 ปี ภูมิลำเนาเป็นคนจังหวัดกำแพงเพชร ขับกระบะคันดังกล่าวบรรทุกสิ่งของสูงเกินกว่าคอกกั้น เจ้าหน้าที่จึงเรียกขอตรวจเอกสาร ไม่พบใบอนุญาตให้ออกนอกเคหะสถาน เมื่อเจ้าหน้าที่ได้สอบถามว่าในลังกล่องกระดาษที่บรรทุกมาคือสินค้าอะไร นายพิษณุ กลับตอบไม่ได้ว่าเป็นสินค้าอะไร ทางกำนันและเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจจึงขอตรวจค้นสิ่งของที่บรรทุกใส่ลังกระดาษท้ายรถ เมื่อแกะลังกระดาษที่ซีลปิดกาวอย่างดี ก็พบว่าเป็นเจลล้างมือที่บรรจุอยู่ในขวดพลาสติกแบบหัวปั้ม ขนาด 450 ml. จำนวน 7,236 ขวด และชนิดแบบหลอดพกพาบรรจุขนาด 50 ml. จำนวน 2,000 หลอด โดยไม่มีสลากสินค้าใดๆ ปรากฏ มูลค่ากว่า 8 แสนบาท

เจ้าหน้าที่สอบปากคำ นายพิษณุ ให้การว่า ตนได้รับว่าจ้างมาจากหัวหน้าคิวรถขนของอีกทอดหนึ่ง ให้บรรทุกสินค้าโดยไม่ทราบว่าข้างในเป็นอะไร ให้นำสินค้าไปส่งที่จังหวัดในภาคอีสาน 3 แห่งคือ จ.นครราชสีมา จ.ขอนแก่น และ จ.สกลนคร โดยตนเองได้รับค่าจ้างเพียง 5,000 บาท ในการส่งสินค้าครั้งนี้ โดยที่ตนไม่รู้มาก่อนว่าจะเป็นเจลแอลกอฮอล์ล้างมือซึ่งเป็นสินค้าควบคุม ซึ่งตนเองคิดว่าเป็นแค่ผลิตภัณท์เสริมความงามทั่วไป เพราะเมื่อนำรถเข้าไปขนสินค้า ก็มีคนงานช่วยกันลำเลียงพัสดุซึ่งบรรจุอยู่ในลังกระดาษมาขนขึ้นจนเต็มท้ายรถ ก่อนที่ตนจะขับรถออกไปส่งของที่ต่างจังหวัด ก็มาเจอจุดตรวจดังกล่าวเรียกตรวจ    

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายพิษณุ ซึ่งเป็นรถขับรถกระบะส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปลายบาง พร้อมกับตั้งข้อกล่าวหาว่าฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกนอกเคหะสถานโดยไม่มีเหตุอันควร ส่วนของกลางแอลกอฮอล์ล้างมือที่พบจำนวนมากได้ทำการอายัดไว้ตรวจสอบ โดยในวันนี้ (8 เม.ย.) จะทำการประสานทางสาธารณสุขจังหวัดและพาณิชย์จังหวัด สรรพสามิตจังหวัด เข้าร่วมตรวจสอบเพื่อชี้ความผิดอีกครั้ง และจะทำการสืบสวนขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป