หนุ่มฝ่าเคอร์ฟิวตอนแรกทำขึงขัง สุดท้ายถึงขั้นกราบ-ร้องไห้โฮก็ไม่รอด
หนุ่มฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิวขับรถจักรยานยนต์จาก อ.รัตภูมิ ไปยัง อ.หาดใหญ่ ถูกเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครองและตำรวจจับกุม ทำทีไม่พอใจ สุดท้ายถึงกับร้องไห้โฮและทรุดตัวก้มลงกราบอ้อนวอนไม่ให้จับกุม
(8 เม.ย.) ที่ จ.สงขลา ทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจได้คุมเข้มพื้นที่ในช่วงเวลาเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 4 ทุ่มจนถึงตี 4 โดยไม่ละเว้นทุกกรณี และทางผู้ว่าราชการ จ.สงขลา ได้มีคำสั่งให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดทุกกรณี
โดยมีตัวอย่างของชายคนหนึ่งอายุ 35 ปี ซึ่งขับรถจักรยานยนต์ออกมาในช่วงเวลาเคอร์ฟิว ประมาณ 5 ทุ่มครึ่งจาก อ.รัตภูมิ ไปยัง อ.หาดใหญ่ และถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอหาดใหญ่ ตำรวจ สภ.ทุ่งตำเสา พร้อมกำลัง อส. ชุดปฏิบัติการขุนพิทักษ์ตำบลฉลุง และทสปช. ซึ่งตั้งจุดตรวจอยู่บนถนนเพชรเกษมหาดใหญ่-รัตภูมิสายเก่า บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านฉลุง เรียกตรวจค้นเพราะฝ่าฝืนเคอร์ฟิว
โดยชายคนนี้มีท่าทีขึงขังเหมือนกับไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ และเมื่อสอบถามก็ไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่ถึงขั้นจะต้องเดินทาง แต่สุดท้ายก็ถึงกับร้องไห้โฮและทรุดตัวก้มลงกราบอ้อนวอนเจ้าหน้าที่ขอให้ปล่อยตัวเพราะไม่อยากถูกจับ
แต่แม้ว่าจะกราบขอโทษแต่เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องควบคุมตัวส่ง สภ.ทุ่งตำเสา ดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่ละเว้นเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับคนอื่นและไม่ส่งผลต่อการควบคุมโรคโควิด-19 ที่กำลังระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ และถูกแจ้งข้อหากระทำผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ห้ามออกนอกเคหสถานโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ