รวบแล้ว โจรอ้างตัวเป็นหมอตรวจโควิด-19 ตระเวนขโมยเงินผู้สูงอายุในกาฬสินธุ์
ผู้สื่อข่าว จ.กาฬสินธุ์ รายง่าว่า เกิดเหตุคนร้ายอ้างตัวเป็นหมอและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ใช้อุบายหลอกเหยื่อที่เป็นผู้สูงอายุใน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ มาตรวจและฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ฟรีถึงบ้าน ก่อนอาศัยจังหวะเผลอขโมยทรัพย์สินไป กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สืบจนทราบตัวผู้ก่อเหตุ และสามารถจับกุม นายวันละชน สิงทอง อายุ 49 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด ได้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (9 เมษายน) พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ และทรัพย์สินที่ขโมยมา โดยเบื้องต้นผู้ต้องหา ซึ่งมีอาชีพเป็นนายหน้าหาซื้อไม้บ้านเก่า รับสารภาพอ้างว่าช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หาซื้อไม้ไม่ได้และไม่มีเงินจึงก่อเหตุ
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 เมษายน 2563 พ.ต.อ.ภูมี อีคะละ ผกก.สภ.กมลาไสย พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ เกกาคำ รองผกก.(สืบสวน) สภ.กมลไสย พ.ต.ต.วีระชาติ คำเพราะ สว.สส.สภ.กมลไสย พ.ต.ท.มณี สารขันธ์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.กมลาไสย คุมตัวนายวันละชน สิงทอง อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุหลอกผู้สูงอายุ อ้างเป็นหมอและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาตรวจโควิด-19 ฟรีถึงบ้าน ก่อนขโมยทรัพย์สินไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านของนางสุนทร อายุ 75 ปี ผู้เสียหาย
โดยเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 7 เมษายน ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาจอดหน้าบ้าน ก่อนที่จะเข้าไปชวนนางสุนทร ซึ่งอยู่บ้านคนเดียวพูดคุยและทักท้วงว่าทำไม่ไม่ใส่หน้ากากอนามัย แล้วหลอกให้นางสุนทร เข้าไปในบ้านเอาหน้ากากมาใส่ เพราะจะมีเจ้าหน้าที่มาฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโควิด -19 และอาศัยจังหวะหยิบเอาเงินสดจำนวน 800 บาท หลบหนีไป
จากนั้นวันเดียวกันผู้ต้องหาได้ขี่รถจักรยานยนต์ยังบ้านนางสมัย อายุ 77 ปี ชวนพูดคุยหลอกว่าเป็นหมอและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาตรวจและฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคโควิด-19 และออกอุบายให้สมัยไปอาบน้ำ แต่รายนี้คนร้ายไม่ได้ทรัพย์สิน
จากนั้นผู้ต้องหาได้เดินไปที่บ้านของนางทร อายุ 71 ปี โดยมีพฤติกรรมคล้ายกันเข้าไปชวนพูดคุยหลอกว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจและฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคโควิด-19 และออกอุบายให้นางทร ไปอาบน้ำก่อนตรวจ จากนั้นได้ตามผู้เสียหายเข้าไปในบ้านขโมยเอากระเป๋า ซึ่งข้างในมีเงินสด 20,000 บาท สร้อยคอทองคำ 1 บาท และโทรศัพท์มือถือหลบหนีไป
หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนลงพื้นที่แกะรอยเส้นทางต่างๆรวมทั้งสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ และพบว่ามีชาวบ้านสามารถถ่ายภาพคนร้ายได้ จึงสืบจนทราบว่าคนร้ายเป็นชาว จ.ร้อยเอ็ด และได้เข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว
ทั้งนี้หลังจากเจ้าหน้าที่คุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารเสร็จแล้วจะได้นำตัวไปส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยใช้ยานพาหนะหรือรับของโจร และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ฝากประชาสัมพันธ์ว่าหากประชาชนคนใดตกเป็นเหยื่อคนร้ายร้ายนี้ให้เข้าแจ้งความโรงพักในท้องที่ เพราะคาดว่าคนร้ายน่าจะเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และจ.ร้อยเอ็ดอีกหลายแห่ง