ยุทโธปกรณ์ เครื่องมือป้องกันประเทศ ที่พาอินโดนีเซียปวดหัวเกมสมดุลอำนาจรัสเซีย-สหรัฐ

ประเทศรัสเซียและสาธารณรัฐประชาชนจีนพยายามเปิดตลาดค้าอาวุธกับบรรดากลุ่มประเทศของประชาคมอาเซียนที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มานานนับสิบปีแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัสเซียได้เปิดการติดต่อขายอาวุธแบบบาร์เตอร์ คือ ซื้อเครื่องบินแลกกับยางพาราและน้ำมันปาล์มตลอดจนผลิตผลทางการเกษตรกับประเทศต่างๆ ในกลุ่มประชาคมอาเซียนซึ่งไม่มีเงินงบประมาณซื้ออาวุธเหมือนกลุ่มประเทศโอเปคในภูมิภาคตะวันออกกลาง ภายหลังถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากสหรัฐอเมริกาและประเทศตะวันตกหลายประเทศ อันเนื่องมาจากกรณีที่รัสเซียผนวกดินแดนไครเมียไปจากประเทศยูเครนเมื่อปี พ.ศ. 2557

รัสเซียได้กลายเป็นประเทศชั้นนำที่ขายอาวุธให้แก่ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยขายอาวุธเฉพาะในภูมิภาคนี้ได้เป็นเงินถึง 6,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงปี พ.ศ. 2553 – 2560 นับเป็น 12% ของการขายอาวุธทั้งหมดของประเทศรัสเซียเลยทีเดียว (อ้างอิงจากสถาบันวิจัยสต็อกโฮล์มเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ)

สำหรับประเทศอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในประชาคมอาเซียนและยังเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วยนั้น เป็นลูกค้าซื้ออาวุธจากรัสเซียรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยซื้ออาวุธจากรัสเซียถึง 10% ของมูลค่าทั้งหมดของการขายอาวุธของรัสเซียในบรรดาประเทศในแถบนี้นับตั้งแต่ พ.ศ. 2553 เป็นต้นมา

ทั้งนี้ อินโดนีเซียได้ตกลงที่จะซื้อเครื่องบินขับไล่เจ็ตซุคฮอน ซู-35 (Sukhoi Su-35) ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ที่ใช้อยู่ในกองทัพอากาศรัสเซียและจีน จำนวน 11 ลำ เป็นเงิน 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และตกลงจะซื้อเรือลาดตระเวนจากสาธารณรัฐประชาชนจีนอีก 3 ลำ เป็นเงิน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย

แต่ปรากฏว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกา ได้เจรจาบีบให้อินโดนีเซียยกเลิกทั้งการซื้อเครื่องบินเจ็ตขับไล่จากรัสเซียและเรือลาดตระเวนจากจีน โดยยกเอาเรื่องที่อินโดนีเซียได้ดุลการค้ากับสหรัฐอเมริกาถึง 10,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปีที่แล้ว หากอินโดนีเซียยังยืนยันที่จะซื้อเครื่องบินขับไล่จากรัสเซียหรือซื้อเรือลาดตระเวนจากจีนอยู่ สหรัฐอเมริกาจะลงโทษทางการค้ากับอินโดนีเซียประกอบกับทางสหรัฐอเมริกาได้เสนอขายเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 (F-16) แต่ทางอินโดนีเซียต้องการเครื่องบินขับไล่เอฟ-35 (F-35) ซึ่งมีสมรรถนะสูงกว่าเครื่องบินเอฟ-16 มาก โดยกองทัพอากาศสิงคโปร์ได้ปลดประจำการเครื่องบิน เอฟ–16 และแทนที่ด้วยเครื่องบินเอฟ-35 เรียบร้อยแล้ว และทางสหรัฐอเมริกาดูจะยินยอม

ครับ! คำขู่ของสหรัฐอเมริกาได้ผล ทางการอินโดนีเซียได้ตกลงยกเลิกการซื้อทั้งเครื่องบินจากรัสเซียและเรือลาดตระเวนจากจีนแล้วครับ