จับได้อีก 3 ราย มือเผาป่าต้นเหตุ #ไฟป่าเชียงใหม่ เข้าไปล่าสัตว์-แผ้วทางเพาะปลูก

จับได้อีก 3 ราย มือเผาป่าต้นเหตุ #ไฟป่าเชียงใหม่ เข้าไปล่าสัตว์-แผ้วทางเพาะปลูก

จับได้อีก 3 ราย มือเผาป่าต้นเหตุ #ไฟป่าเชียงใหม่ เข้าไปล่าสัตว์-แผ้วทางเพาะปลูก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(14 เม.ย.63) ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอแม่แตง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ,ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุลักลอบเผาป่า จำนวน 3 คน ประกอบด้วย

นายประดิษฐ์ อายุ 60 ปี ชาวอำเภอแม่ริม ถูกเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการลาดตระเวนจับกุมได้บริเวณป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลาแม่แสะ อำเภอแม่แตง เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พร้อมอาวุธปืนยาว เครื่องกระสุน และไฟแช็ค 1 อัน ทั้งนี้ ผู้ต้องหาเคยถูกเจ้าหน้าที่ตักเตือนไม่ให้เข้าป่าแต่ยังเพิกเฉยฝ่าฝืนเคอร์ฟิวลักลอบเข้าพื้นที่ป่าเพื่อล่าสัตว์ นายประดิษฐ์ ให้การว่า แค่เข้าไปเที่ยวในป่า ส่วนไฟแช็คก็มีไว้เพื่อสูบบุหรี่เท่านั้น ขณะเข้าไปในป่าและกำลังสูบบุหรี่ก็เห็นไฟลุกไหม้ป่าแล้ว

รายที่สอง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนา พร้อมด้วยชุดลาดตระเวนหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่  4 จับกุม นายเปา อายุ 53 ปี ชาวอำเภอเชียงดาว ขณะแผ้วถางพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติบ้านห้วยลึก อำเภอเชียงดาว พร้อมมีดและไฟแช็ค  เจ้าตัวรับสารภาพแผ้วถางเพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก

ส่วนรายที่ 3 เจ้าหน้าที่จับกุมตัว นายเรวัต อายุ 42 ปี ลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อำเภอเชียงดาว

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้  เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดรวม 38 คดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำสำนวนเพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่ลักลอบเผาป่าทุกราย โดยจะมีการขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหารายอื่นๆ เพิ่มเติม

สำหรับคดีที่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ตำรวจกำลังเร่งรวบรวบพยานหลักฐาน โดยเฉพาะการนำพื้นที่การทำประโยชน์ของประชาชนในเขตป่าสงวนที่ทับซ้อนกับเหตุเพลิงไหม้มาตรวจสอบ ยืนยันว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำงานกันอย่างหนัก เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเผาป่า และควบคุมไม่ให้เกิดจุดความร้อนที่มาจากการเผา ซึ่งมีผลให้ค่ามลพิษทางอากาศของจังหวัดเชียงใหม่เกินมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง พร้อมเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเพื่อพิสูจน์ทราบ และ ให้เร่งรัดกระบวนการให้สามารถส่งฟ้องดำเนินคดีภายในเวลา 3 วัน

 

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook