แฉพ่อค้ากำไรอื้อขายตู้น้ำยอดเหรียญ3แสนแพงเกินจริง
แฉพ่อค้าขายตู้ยอดเหรียญ 3 แสน ทั้งที่ราคาจริงแค่ 4.9 หมื่น โอดต้องตัดราคาสู้คู่แข่งหลายเจ้า พบพิรุธอีก แจกเครื่องทำลมเย็นไม่จริง บวกราคาไว้เรียบร้อยแล้ว ปชป.เอาคืน ซัดสมัย รบ.แม้ว ล็อคสเปคซื้อปุ๋ยชีวภาพ ฟันเงินกว่าพันล้าน ขู่ยื่นป.ป.ช.เอาผิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างต่อเนื่องว่าการจัดซื้อสินค้าต่างๆ ของชุมชนตามโครงการชุมชนพอเพียง ส่อเค้าไม่ชอบมาพากล นอกจากปัญหาสินค้าไม่ตรงตามความต้องการขัดต่อปรัญชาโครงการ ขั้นตอนการเสนอขายสินค้า และการจัดประชาคมแล้ว ยังพบปัญหาสำคัญสินค้ามีราคาสูงเกินจริงอีกด้วย ขณะที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ขู่รวบรวมข้อมูลส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาผิด สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีผู้ล็อคสเปคโครงการซื้อปุ๋ยชีวภาพ ได้เงินไปกว่า 1 พันล้านบาท
แหล่งข่าววงการจำหน่ายตู้น้ำหยอดเหรียญ เปิดเผยว่า หลังจากปรากฏข้อมูลว่าชุมชนต่างๆ ในเขต กทม. และต่างจังหวัด จัดซื้อตู้น้ำหยอดเหรียญพลังงานแสงอาทิตย์ ตามโครงการชุมชนพอเพียง ราคาสูงถึงตู้ละ 3 แสนบาท ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงการเป็นอย่างมากว่าตู้น้ำหยอดเหรียญดังกล่าว น่าจะมีราคาที่สูงเกินความเป็นจริง เพราะปัจจุบันตู้น้ำหยอดเหรียญของหลายบริษัทวางจำหน่ายอยู่ในขณะนี้ ราคารวมตั้งแต่ตัวเครื่องจนถึงการติดตั้ง พร้อมบริการซ่อมบำรุง รับประกันไม่เกิน 1 ปี จะอยู่ที่ตู้ละประมาณ 35,000-49,000 บาทเท่านั้น ขณะที่ราคาต้นทุนจริงเพียง 29,000-35,000 บาทเท่านั้น
"ปัจจุบันธุรกิจขายตู้น้ำยอดเหรียญมีการแข่งขันสูงมาก โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีปัญหา การขายสินค้าให้เต็มตามราคาที่ตั้งไว้เป็นเรื่องยากมาก ทุกบริษัทต้องปรับลดราคาจำหน่ายตู้ เพื่อตัดราคาคู่แข่งการที่มีบริษัทเอกชนบางกลุ่มสามารถเข้าไปเสนอราคาขายสินค้าให้กับชุมชุนในราคาสูงแบบนี้ได้ จึงถือเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างมาก"แหล่งข่าวกล่าว
พนักงานบริษัทขายตู้น้ำหยอดเหรียญรายหนึ่ง กล่าวยืนยันว่า ตู้น้ำหยอดเหรียญที่จำหน่ายให้กับผู้ที่สนใจขณะนี้ เป็นรุ่นเดียวกับตู้ที่บริษัทเอกชนบางกลุ่ม นำไปจำหน่ายให้กับชุมชนต่างๆ ตั้งราคาไว้ประมาณ 5 หมื่นบาท รวมค่าติดตั้ง และรับประกันให้ 1 ปีเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันมีหลายตู้ที่นำไปจำหน่ายให้กับชุมชนต่างๆ ในเขต กทม.เช่นกัน แต่ไม่ได้รวมอยู่ในโครงการชุมชนพอเพียง เนื่องจากการดำเนินงานของบริษัทจะเป็นการทำงานตามคำสั่งซื้อของชุมชน เมื่อได้รับการติดต่อเข้ามา บริษัทก็จะเข้าไปติดตั้งสินค้าให้
"เท่าที่ทราบบริษัทเอกชนที่ได้รับงานในโครงการชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง จะส่งนายหน้าเข้าไปในชุมชนเพื่อหาลูกค้า แต่เข้าใจว่าคนพวกนี้ น่าได้รับทราบข้อมูลก่อนว่าชุมชนไหนได้รับงบประมาณเท่าไร และมีความประสงค์จะซื้อสินค้าตู้น้ำหยอดเหรียญหรือไม่ ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถขายสินค้าได้จำนวนมากขนาดนี้" พนักงานกล่าว
พนักงานบริษัทดังกล่าว กล่าวว่า สำหรับการตั้งราคาขายตู้น้ำหยอดเหรียญตามหลักการปกติ ทุกบริษัทที่ทำธุรกิจประเภทนี้จะมีการบวกราคากำไรไว้สูงอยู่แล้ว โดยราคาต้นทุนจริงอาจจะอยู่ที่ 3 หมื่นกว่าบาทเท่านั้น แต่หากต้องการกำไรเพิ่ม ก็จะเพิ่มเติมอุปกรณ์เข้าไปให้มากขึ้น เช่น ที่หยอดเหรียญ จาก 1 ช่อง เป็น 2 หรือ 4 ช่อง หรือ ชนิดของเมมเบรน หรืออุปกรณ์ซึ่งทำหน้าที่หลักในการกรองน้ำ เพื่อสกัดสิ่งสกปรก และเชื้อโรคต่างๆ เป็นต้น ซึ่งราคาเครื่องอาจจะเพิ่มไปถึง 6 หมื่นบาทก็ได้ แต่เรื่องนี้ไม่ค่อยมีใครกล้าทำ เพราะการตั้งราคาเครื่องไว้สูง จะทำให้ขายสินค้าได้ยากมาก แต่หากทำแล้ว มีตลาดรองรับที่แน่นอน ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก
ส่วนกรณีการเพิ่มแผงโซลาร์เซลเป็นหนึ่ง ในอุปกรณ์ของตู้น้ำหยอดเหรียญนั้น พนักงานรายนี้กล่าวว่า ต้องดูวัตถุประสงค์ที่แท้จริง เพราะในกระบวนการทำงานของตู้น้ำหยอดเหรียญในปัจจุบัน การทำน้ำ 1 ยูนิต จะเสียค่าน้ำค่าไฟไม่เกิน 50 บาท ซึ่งน้ำ 1 ยูนิต คิดเป็นปริมาณน้ำ 1,000 ลิตร แต่การขายน้ำจากตู้น้ำหยอดเหรียญ ปัจจุบันจะสามารถขายได้เฉลี่ยประมาณ 200 ลิตรต่อวันเท่านั้น ดังนั้นการนำแผงโซลาร์เซลล์มาใช้โดยอ้างว่า จะทำให้ช่วยประหยัดเรื่องค่าไฟ จึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และจะทำให้ราคาตู้น้ำแพงขึ้นไปอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบสเปคตู้น้ำหยอดเหรียญพลังงานแสงอาทิตย์ ที่บริษัทบีเอ็นบี อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กระจายให้กับบริษัทเอกชนกลุ่มหนึ่ง เป็นนายหน้านำแค็ตตาล็อคสินค้าไปเสนอขายให้กับชุมชนต่างๆ ในโครงการชุมชนพอเพียง พบว่าเป็นลักษณะการนำสินค้าหลายยี่ห้อ มาประกอบเข้าด้วยกัน (อ่านรายละเอียดในตาราง) ส่งผลให้ตู้น้ำหยอดเหรียญ ที่ชุมชนต่างๆ ซื้อไป มีราคาสูงกว่าตู้น้ำหยอดเหรียญที่เปิดขายทั่วไปกว่า 5 เท่า
นอกจากนี้ ยังพบความผิดปกติเกี่ยวกับข้อมูลในโบรชัวร์ หรือแผ่นพับโฆษณา ขายตู้น้ำหยอดเหรียญของบริษัทเอกชนที่เข้าไปขายสินค้าให้กับชุมชนต่างๆ ที่มีการระบุข้อมูลว่ามีโปรโมชั่นรับหน้าร้อน หากซื้อตู้น้ำหยอดเหรียญพลังงานแสงอาทิตย์ รุ่น W-50F2 รับเครื่องทำลมเย็น COOLBANK รุ่น s22 ยี่ห้อ MASTERKOOL ฟรี 2 ตัว แต่หากเป็นตู้น้ำหยอดเหรียญพลังงานแสงอาทิตย์ รุ่น W-50F1 รับครื่องทำลมเย็น COOLBANK รุ่น s22 ยี่ห้อ MASTERKOOL ฟรี 1 ตัว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสเปคเครื่องผลิตน้ำดื่ม ทั้ง 2 รุ่นของบริษัทเอกชนที่เข้าไปจำหน่ายสินค้าให้ชุมชนต่างๆ พบว่ามีการระบุราคา เครื่องทำลมเย็น รวมอยู่ในราคาขายตู้น้ำหยอดเหรียญด้วย โดยตู้น้ำหยอดเหรียญพลังงานแสงอาทิตย์ รุ่น W-50F2 ระบุราคา เครื่องทำลมเย็น COOLBANK รุ่น s22 ไว้ตัวละ 40,000 บาท รวม 2 ตัว 80,000 บาท ส่วนตู้น้ำ รุ่นW-50F1 ระบุราคาเครื่องทำลมเย็นไว้ 1 ตัว คือ 40,000 บาท ชี้ให้เห็นว่าการขายสินค้าดังกล่าว ไม่ได้มีการแถมฟรี เครื่องทำลมเย็นแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลราคาตู้ผลิตน้ำดื่ม รุ่น F8 จากบริษัท วอเทอร์ เน็ท จำกัด (มหาชน) ดังกล่าว ตามเบอร์โทรศัพท์ อัตโนมัติ ที่ระบุในโบรชัวร์ขายสินค้าของบริษัทได้รับแจ้งข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ว่าปัจจุบันตู้รุ่น F8 บริษัท ซึ่งตั้งราคาขายไว้ที่ตู้ละ 5 หมื่นกว่าบาท ไม่ได้มีการผลิตอีกแล้ว เนื่องจากได้ขายลิขสิทธิให้กับบริษัทอื่นไป แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ บริษัทได้ผลิตตู้น้ำรุ่น F24 ขึ้นมาทดแทน แต่มีคุณลักษณะเครื่องเหมือนรุ่น F8 ทุกประการ ต่างกันเพียงรูปลักษณ์ภายนอกเล็กน้อยเท่านั้น โดยตั้งราคาขายไว้ที่ 5.3 หมื่นบาท ซึ่งราคานี้สามารถต่อรองได้อีก และหากสนใจให้เข้ามาคุยรายละเอียดได้ที่บริษัท
ขณะที่นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคได้พบข้อมูลทุจริตที่เป็นกระบวนการในสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี คือโครงการเอสเอ็มแอล โดยมีการล็อคสเปคในการจัดซื้อปุ๋ยชีวภาพ โดยให้ข้อมูลกับชาวบ้านว่าเป็นโครงการแก้จนอย่างถาวร แต่จากการตรวจสอบพบว่าราคาปุ๋ยมีราคาสูงกว่าท้องตลาดเกือบเท่าตัว ซึ่งบุคคลที่เกี่ยวข้องได้รับผลประโยชน์กว่า 1 พันล้านบาท ขณะนี้ทางพรรคกำลังรวบรวมหลักฐานและพยานบุคคล หากรวบรวมเสร็จจะยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า บุคคลที่เกี่ยวข้องในการทุจริตโครงการส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ เป็นญาติกับอดีตนายกเทศมนตรี จ.จันทบุรี ทางพรรคได้กำลังรวบรวมข้อมูลจาก 10 จังหวัด 31 ตำบล เพื่อดำเนินการต่อไป