ล่า สัปเหร่อ หื่น! ห้องน้ำวัด ข่มขืนดญ.11ครั้ง
พ่อ แม่จูงลูกสาววัย 8 ขวบ เข้าแจ้งความจับ สัปเหร่อวัดนวลจันทร์ ย่านบึงกุ่ม สวมบทไอ้หื่นลวงด.ญ.ไปข่มขืนถึง 11 ครั้ง ให้เงินค่าปิดปากครั้งละ 20 บาท แถมยังขู่ฆ่าไม่ให้นำเรื่องไปบอกใคร สุดท้ายเด็กตัดสินใจโทร.แจ้งตร.ด้วยตัวเอง เรื่องจึงแดงออกมา แม่พาเข้าร้องมูลนิธิปวีณาฯ จัดการทันที แฉบ้านอยู่ใกล้วัด ครอบครัวเหยื่อรู้จักกับไอ้หื่นดีก็ยังทำได้ อีกรายผู้ปกครองด.ญ.วัย 14 โร่แจ้งมูลนิธิปวีณา ตามจี้คดี 3 โจ๋รุมข่มขืนลูกสาว เพราะหลังตร.จับคนร้ายได้ให้ประกันตัวเฉย เลยกลัวจะเป็นมวยล้ม
เมื่อวันที่ 26 ก.ค. นางหญิง (นามสมมติ) ได้พาด.ญ.เป้ (นามสมมติ) ลูกสาว วัย 8 ขวบ เดินทางเข้าพบนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อขอความช่วยเหลือกรณีที่ด.ญ.เป้ ถูกสัปเหร่อวัดนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม ท้องที่สน.โคกคราม ล่อลวงไปข่มขืนกระทำชำเราถึง 11 ครั้ง เรื่องมาแดงเพราะเด็กถูกขู่ฆ่า จึงโทร.แจ้งตำรวจทั้งที่อายุเพียง 8 ขวบเท่า นั้น คนเป็นแม่จึงพาลูกสาวเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ให้ช่วยดำเนินการ เพราะกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม
นางหญิง ให้การว่า บ้านของตนอยู่ใกล้วัด หลังเลิกเรียนลูกสาวมักจะปั่นจักรยานเล่นกับเพื่อนๆ ภายในวัด จนรู้จักมักคุ้นกับสัปเหร่อที่ชื่อนายแสงชัย อินทร์ประดับ อายุ 27 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 51/2 ม.2 ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งที่ผ่านมา นายแสงชัย ได้ตีสนิทลูกสาว หลอกล่อไปข่มขืนภายในห้องน้ำหลังวัดและที่บ้านพักของนายแสงชัยอีกหลายครั้ง โดยจะให้เงินค่าปิดปากครั้งละ 20 บาท ซึ่งที่ผ่านมา ลูกสาวไม่กล้าเล่าความจริงให้ฟัง เพราะกลัวถูกตี จนกระทั่งครั้งนี้ลูกถูกข่มขู่อีกจึงตัดสินใจโทร.แจ้งตำรวจทั้งๆ ที่อายุเพียงแค่ 8 ขวบ เลยทำให้เรื่องแดงออกมา
"ลูกสาวบอกว่าตอนแรก ตำรวจคิดว่าโกหก จึงไม่เชื่อ เลยลองโทร.ใหม่ และยืนยันว่าถูกข่มขืนจริง สักพักก็มีตำรวจสายตรวจมาหาที่ตู้โทรศัพท์ หลังจากนั้นตำรวจก็พาลูกสาวมา พบฉัน และเล่าเหตุการณ์ให้ฟังแล้วจึงพาไปแจ้งความไว้ที่สน.โคกคราม ซึ่งหลังจากแจ้งความแล้ว ท่านเจ้าอาวาสได้เรียกฉันเข้าไปพบ ที่วัด เมื่อเข้าไปก็เจอชายอีกคนอ้างตัวเป็น ทนายความ ยื่นข้อเสนอเงิน ให้เงิน 2 หมื่นบาทเพื่อล้มคดี แต่ฉันไม่เอาด้วย เลยตัดสินใจพาลูกเข้าขอความช่วยเหลือ จากมูลนิธิปวีณา เพื่อเอาคนผิดติดคุก สนิทกันแท้ๆ ไม่น่าทำกันแบบนี้" นางหญิง กล่าว
ภายหลังรับเรื่องนางปวีณา ได้ส่งด.ญ.เป้ไปตรวจร่างกาย พร้อมประสานไปยังพ.ต.อ. มาโนช รัตนะโชติ ผกก.สน.โคกคราม เพื่อ ติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ยังมีกรณีพ่อแม่ด.ญ.นักเรียนชั้นม.3 อายุ 14 ปี ที่ถูกเพื่อนชายล่อลวงไปข่มขืนกระทำชำเราแล้วถ่ายคลิปไว้ประจานเกิดขึ้นอีกราย ซึ่งในกรณีนี้ผู้ปกครองเหยื่อไม่พอใจที่ตำรวจแจ้งข้อหาและจับกุมกลุ่มนักเรียนชายที่ก่อเหตุไปแล้ว แต่กลับให้ประกันตัวออกมา แถมยังถูกอิทธิพลมืดข่มขู่จึงกลัวเป็นมวยล้มทำให้ต้องวิ่งโร่เข้าขอความช่วย เหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ
โดยนายจุกและนางเอี้ยง (นามสมมติ) ชาวบ้านใน จ.พระนครศรีอยุธยา พาด.ญ. แจ๋ว (นามสมมติ) อายุ 14 ปี เรียนชั้น ม.3 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ในเมืองกรุงเก่า เข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา หงสกุล เพื่อให้ช่วยเหลือเรื่องคดีความและการเรียนของเหยื่อสาว เพราะหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหาแล้ว ครอบครัวตนเองถูกข่มขู่มาตลอด
ผู้ปกครองเหยื่อเปิดเผย ว่า ครอบครัวตนรู้สึกเสียใจมาก ที่ทางโรงเรียนบอกว่าลูกสาวให้ท่าหรือสมยอมผู้ต้องหา ทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ลูกสาวเป็นประธานนักเรียน และยังเป็นหัวหน้าทีมเชียร์ลีดเดอร์ของโรงเรียน และยังเข้าประกวดมารยาทงามได้รางวัลชนะเลิศด้วย หลังเกิดเรื่องได้ให้ลูกสาวลาออกจากโรงเรียนแล้ว และทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน พร้อมให้เหตุผลว่าผู้ต้องหาไม่น่าจะหลบหนี จึงทำให้พวกตนไม่สบาย ใจ เนื่องจากลูกสาวบอกว่าถูกคู่กรณีข่มขู่ว่า จะนำคลิปมือถือที่แอบถ่ายไว้ไปประจาน อีกทั้ง ยังเกรงว่าจะมีการวิ่งเต้นช่วยเหลือเด็กเหล่านี้ เนื่องจากผู้ปกครองของเด็กผู้ต้องหาบางคนอ้างว่าเป็นลูกน้องของนักการเมืองท้องถิ่น จึงเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากทางมูลนิธิปวีณา หงสกุลฯ เนื่องจากครอบครัวตนไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องคดีความ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังรับทราบข้อมูลนางปวีณา ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดีดังกล่าว เพื่อให้ติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด และจะประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ภาค 1 เพื่อตรวจสอบเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เนื่องจากครอบครัวของเหยื่อเกรงว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรม และกลัวว่าจะได้รับอันตราย ส่วนในเรื่องการเรียนของเหยื่อสาวจะได้ประสานกับโรงเรียนในย่านใกล้เคียง เพื่อให้เหยื่อสาวได้ศึกษาต่อให้จบภาคเรียนก่อน