เบิกตัว "จ่าจำปา" ถูกสั่งขังปมเถียงผู้ว่าฯ กลับบ้านเยี่ยมแม่ป่วยติดเตียง กอดกันน้ำตาไหล

เบิกตัว "จ่าจำปา" ถูกสั่งขังปมเถียงผู้ว่าฯ กลับบ้านเยี่ยมแม่ป่วยติดเตียง กอดกันน้ำตาไหล

เบิกตัว "จ่าจำปา" ถูกสั่งขังปมเถียงผู้ว่าฯ กลับบ้านเยี่ยมแม่ป่วยติดเตียง กอดกันน้ำตาไหล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณี จ.ส.อ.พีรศักดิ์ จำปา หรือ จ่าจำปา พยายามจะฝ่าด่านตรวจ บนถนน หมู่ 9 ต.หนองบัว อ.รัษฎา จ.ตรัง พื้นที่รอยต่อ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งถูกปิดตายสั่งห้ามคนนอกพื้นที่เข้า-ออกเด็ดขาด แต่ถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธไม่ให้ผ่าน ทำให้เกิดความโมโหก่อนจะมีการโต้เถียงกับ นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง โดยภาพหลังจ่าจำปาได้ถูกทางต้นสังกัดลงโทษ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด (20 เม.ย.63) พล.ต.ศานติ ศกุนตนาค ผบ.พล.ร.5 สั่งการให้ พ.อ.อภินันท์ แจ่มแจ้ง เสธ.พล.ร.5 เบิกตัว จ.ส.อ.พีรศักดิ์​ จำปา กำลังพลสังกัด ร้อย.ลว.ไกล.5 พล.ร.5 เพื่อให้เจ้าหน้าที่พาตัวเดินทางไปเยี่ยมแม่ พร้อมทั้ง พ.ท.นพ.เนาวพงษ์ พงษ์เจริญชัย ผบ.พัน.สร.5 และทีมพยาบาลจากโรงพยาบาลค่ายเทพสตรีศรีสุนทร เพื่อทำการตรวจสุขภาพและจัดยาเวชภัณฑ์ พร้อมทั้งพูดคุยให้กำลังใจ ที่บ้านใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง

พล.ต. ปราโมทย์ พรหมอินทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 / โฆษกกองทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่าตามที่ได้เกิดภาพข่าวการลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชา จนเกิดกระแสวิจารณ์ในสื่อโซเชียลอย่างกว้างขวาง นั้น จากกรณีดังกล่าว พล.ท. พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้รับทราบข้อมูลในเบื้องต้นแล้ว พร้อมกับขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันสะท้อนความคิดเห็น และความรู้สึกออกมาอย่างจริงใจ โดยได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบว่า มีการสั่งลงโทษกำลังพลดังกล่าวจริง อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของสังคมส่วนใหญ่ จึงได้กำหนดแนวทางดำเนินการดังนี้

  1. ด้านข้อเท็จจริง: จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นการสั่งลงโทษ เนื่องจากได้กระทำผิดวินัยทหารฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา และพยายามฝ่าฝืนระเบียบและคำสั่งของจังหวัดตรัง โดยอ้างหนังสือรับรองของผู้บังคับบัญชา เพื่อขอผ่านเส้นทางที่ได้มีคำสั่งห้ามบุคคลภายนอกผ่าน เข้า - ออก อย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 4 จะเร่งรัดตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และรับฟังข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการที่เหมาะสมอย่างเร่งด่วนต่อไป
  2. ด้านการดูแลครอบครัว: ได้สั่งการให้กองพลทหารราบที่ 5 ในฐานะหน่วยบังคับบัญชาจัดทีมแพทย์เข้าทำการดูแลมารดาที่มีโรคประจำตัวและต้องการดูแลเป็นพิเศษพร้อมช่วยอำนวยความสะดวกในการรักษาพยาบาลและการดำรงชีวิตอย่างดีที่สุด ให้เป็นไปตามนโยบายของกองทัพภาคที่ 4 ในการดูแลด้านสวัสดิการและคุณภาพชีวิตของกำลังพลและครอบครัวตามที่ได้ดำเนินการมาแล้วอย่างต่อเนื่อง
  3. ด้านวินัยทหาร: ให้ผู้บังคับหน่วยทุกระดับกวดขันกำลังพลให้ธำรงและรักษาไว้ซึ่งวินัยทหาร การแสดงความคิดเห็นให้อยู่บนพื้นฐานความจริง และไม่ก่อให้เกิดความแตกแยกภายในกรมกองพร้อมทั้งให้กำกับดูแลกำลังพลและครอบครัวให้ปฏิบัติตามมาตรการและสนับสนุนส่วนราชการต่างๆ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและกองทัพบกที่ได้กำหนดไว้แล้วอย่างเคร่งครัด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook