"บิ๊กจิ๋ว" สับ "มาร์ค" ไม่ค่อยรู้นโยบายตปท. ชี้จีนไม่สบายใจที่ไปฮ่องกง

"บิ๊กจิ๋ว" สับ "มาร์ค" ไม่ค่อยรู้นโยบายตปท. ชี้จีนไม่สบายใจที่ไปฮ่องกง

"บิ๊กจิ๋ว" สับ "มาร์ค" ไม่ค่อยรู้นโยบายตปท. ชี้จีนไม่สบายใจที่ไปฮ่องกง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"จิ๋ว" สับนโยบายต่างประเทศ นายกฯไม่ค่อยรู้เรื่อง สอนควรเล่นบทตีสองหน้าบ้าง ชี้จีนไม่สบายใจ "มาร์ค" ไปฮ่องกง เตือนระวังท่าทีต่อพม่า หวั่นถูกกล่าวหาแทรกแซงกิจการภายใน ติวพวกทำปฏิวัติ ห้ามทำครึ่งเดียว ไม่งั้นลงเหวตายไปหมด

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาต่อนักศึกษาหลักสูตร "การพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง" (พตส.) รุ่นที่ 1 ประจำปี 2552 จำนวน 85 คน หัวข้อ "พรรคการเมืองกับการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ" ที่ห้องสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมว่า โครงสร้างของประชาชนเป็นรูปสามเหลี่ยม ฐานคนจนเยอะ ข้างบนคนรวยจำนวนน้อย ไม่ว่าหันหน้าไปทางไหน มีแต่ความยากจน ทำไมคนเหล่านี้มีหัวใจให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะพ.ต.ท.ทักษิณให้ต่อคนยากจน แต่การให้ของพ.ต.ท.ทักษิณต่อคนยากจนมีอันตราย ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณรู้ว่ามีอันตราย เพราะการที่เอาเงินวันนี้ไปใช้ล่วงหน้าอันตราย ทำให้ขณะนี้เกิดความพยายามเปลี่ยนประชานิยม ไปสู่ระบบรัฐสวัสดิการ ที่ต้องใช้เงินมหาศาล อีกทั้งการปกครองบ้านเมืองยังไม่ค่อยมีคำว่าการปกครองคือความสำคัญผู้ปกครองกับผู้ใต้ปกครอง

"ผมอ่านสารนิพนธ์ของเหมา เจ๋อ ตุง (อดีตประธานาธิบดีจีน) ท่านบอกว่า ถ้าจะเอาชนะเผด็จการได้ ต้องใช้การเมืองนำการทหาร คือการเมืองนำจริงๆ และการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีหลัก 5 ข้อ คือ 1.อธิปไตยของปวงชน 2.เสรีภาพ 3.ความเสมอภาพ 4.นิติรัฐ 5.รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง วันนี้มีคนพูดเยอะประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย แต่ของเรายังไม่เพื่อประชาชนเสียที" พล.อ.ชวลิต กล่าว

อดีตนายกฯ กล่าวว่า วันนี้โลกเปลี่ยนไป แกนการพัฒนาจะมาอยู่ที่เอเชีย ซึ่งก็มีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมไทยไม่ใกล้ชิดประเทศอื่น เหมือนเมื่อก่อน "กับประเทศจีนนั้น ผมคุยกับจีนมา 5-6 ปี หรือล่าสุดที่นายกฯ จะไปเยือนจีนผมก็ไปก่อน โดยไปหารือว่าการประชุมผู้นำในประเทศไทยในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ขอให้นายเวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีประเทศจีน มาด้วยตนเอง ซึ่งเขาก็รับปาก แต่ปรากฏว่าอีก 2 วัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งไปประเทศจีนแทนที่จะไปปักกิ่งกลับไปที่ฮ่องกงแทน ทำให้เขาไม่สบายใจพอสมควร ซึ่งต้องยอมรับว่านายกฯ ยังไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็ต้องช่วยกัน หรืออย่างนโยบายกับพม่า ก็ขอให้ระวังเอาไว้ เพราะแม้สังคมภายนอกต้องการให้เรากดดันพม่า แต่หากเราทำหนังสือไป เราก็จะถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงกิจการภายในประเทศของเขา ดังนั้นนโยบายการต่างประเทศบางครั้งก็ต้องตีสองหน้า" พล.อ.ชวลิต กล่าว

จากนั้น นักศึกษาได้ซักถาม พล.อ.ชวลิต โดย นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ถามว่า ในวันเกิดเมื่อ 2 ปีก่อน พล.อ.ชวลิต เขียนหนังสือ "ขบวนการล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า" ขณะนี้ได้ติดตามสถานการณ์มาแค่ไหนและยังมีความรุนแรงหรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า "ความจริงเป็นเรื่องจะเกิดขึ้นก็เลยเขียนเตือน แต่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ต้องระวัง"

นายคำนูณ ถามซักว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การเตือน แต่เวลานี้ได้ผ่านไป 2 ปีแล้วขบวนการนี้ได้พัฒนาไปขนาดไหนแล้ว เพราะ พล.อ.ชวลิต เคยบอกว่าต้องช่วยกันปกป้องด้วย พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า "เรื่องนี้พี่น้องมีส่วนดีและไม่ดี อีกทั้งคนมีความรู้สึกว่า มีเชื้อดังกล่าวอยู่เราคงทำอะไรไม่ดีไม่ได้ ดังนั้นเราต้องใช้ความอดทนเข้าชี้แจง ผมว่ามีแนวทางเดียวคือสันติ ที่ทำให้บ้านเมืองอยู่รอดได้"

ขณะที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) นักศึกษาหลักสูตร พตส. ถามว่า ถึงเวลาที่กองทัพควรถอยกลับกรมกองหรือไม่ เพราะการตั้งรัฐบาลชุดนี้ ตั้งในค่ายทหาร พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เคยปราบรัฐประหารมา 2 ครั้ง ช่วงนั้น พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร จปร.รุ่น 7 จะยึดอำนาจรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งเขาต้องการจะแก้ไขเหมือนอย่างที่ พล.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) อยากจะแก้ไขจริงๆ แต่เวลาทำแล้วไม่ได้แก้ ก็ทำให้เป็นปัญหา คนทำการปฏิวัติเขาห้ามว่าอย่าปฏิวัติครึ่งเดียวไม่เช่นนั้นอาจลงเหวไปตายหมด ส่วนมากคนที่ทำอายไม่กล้าทำต่อ หากประธาน คมช.เป็นนายกฯเองก็จบแล้ว แต่เวลาอยากจะเป็นต่อมาก็ไม่ได้เพราะจะยุ่งแล้ว ดังนั้นต้องช่วยการให้การศึกษาให้ดี

จากนั้น พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. ประธาน พตส. รุ่นที่ 1 ชี้แจงว่า ขอให้ไปดูรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับปี 2549 เพราะตามกฎหมายดังกล่าว ตนมีภาระหน้าที่เพียง 14 วัน ที่ต้องทำให้เรียบร้อยเพราะกฎหมายให้อำนาจไว้แค่นั้น

นอกจากนี้ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า "ผมขอติงเรื่องนโยบายการต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องกัมพูชาว่าที่ผ่านมา หากจะทำอะไรกับกัมพูชาเรามักจะใช้ พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบ้านเมืองหรือกระทั่งเรื่องธุรกิจส่วนตัว จนเป็นข้อสังเกตว่า เราใช้ พล.อ.เตีย บันห์ เกินกว่าเหตุ และทำลายเขาหรือไม่ เราน่าจะถนอมเขาไว้บ้าง"

ทั้งนี้ มีผู้ถาม พล.อ.ชวลิต ว่าพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า "ขออนุญาตไม่เป็น ผมไม่หวังเป็นอะไรอีกแล้ว แต่ยังหยุดทำหน้าที่เพื่อแผ่นดินไม่ได้"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook