ราคาน้ำมันดิบติดลบคืออะไร เพราะเหตุใด "ทองคำสีดำ" ถึงตกต่ำยิ่งกว่าคำว่า "ไร้ค่า"
![ราคาน้ำมันดิบติดลบคืออะไร เพราะเหตุใด "ทองคำสีดำ" ถึงตกต่ำยิ่งกว่าคำว่า "ไร้ค่า"](http://s.isanook.com/ns/0/ud/1617/8089174/negative-oil-price.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
ราคาน้ำมันดิบในตลาดสัญญาซื้อขายเวสต์เท็กซัส (WTI) ในสหรัฐ ร่วงลงสู่ติดลบ 36.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-9.87 บาทต่อลิตร) ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในประวัติศาสตร์
ตามทฤษฎีแล้ว เมื่อราคาน้ำมันติดลบ ไม่ได้แปลว่าน้ำมันไร้ค่าจริงๆ แต่แปลว่าผู้ค้าน้ำมันจะต้องจ่ายเงินให้กับผู้ซื้อน้ำมันเพื่อระบายน้ำมันออกไปจากมือตน
การตกต่ำนี้ เกิดหลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (SARS-CoV-2) ที่ทำให้ความต้องการน้ำมันทั่วโลกลดลงอย่างหนัก จากการที่เครื่องบิน รถยนต์ เรือขนส่งสินค้า รถบรรทุก ต้องจอดนิ่งกับที่ ส่วนการผลิตสินค้าต่างๆ ก็หยุดชะงักลงทันที ทำให้น้ำมันที่มีอยู่ในมือของผู้ค้ามีปริมาณมากเกินไป
ยังไม่จบเพียงเท่านั้น การระบาดของไวรัสนี้ยังเกิดขึ้นในช่วงที่ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ อย่าง ซาอุดีอาระเบีย และรัสเซีย ทำสงครามราคาน้ำมัน ให้อีกฝ่ายมีรายได้ลดลงจากการราคาที่ตกต่ำ ด้วยการผลิตออกมาปริมาณมาก แม้ภายหลังจะตกลงกันเพื่อลดกำลังผลิตลงได้แล้ว แต่น้ำมันดิบที่ขุดขึ้นมา ก็ล้นตลาดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ปกติน้ำมันจะขายกันผ่านสัญญาซื้อขายล่วงหน้า อย่างเช่น สัญญาที่ซื้อขายในเดือน พ.ค. จะถูกตั้งราคาตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย. แล้ว เพราะฉะนั้นราคาที่ตกลงกันในสัญญาล่วงหน้า (Futures) อาจสูงหรือต่ำกว่าราคาที่ซื้อขายในตลาด ณ ปัจจุบัน (Spot) ก็ได้
ขณะที่สถานการณ์ตอนนี้ ที่ราคาล่วงหน้าสูงกว่าราคาปัจจุบันมีชื่อเรียกว่า "คอนแทงโก" (Contango) หรือแปลว่าอีกอย่างหนึ่งว่า นักลงทุนคิดว่าราคาน้ำมันในอนาคตจะสูงกว่าตอนนี้นั่นเอง เพราะมองว่าความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ส่วนผู้ที่ได้เปรียบในสถานการณ์แบบนี้ ก็คือผู้ซื้อน้ำมันที่มีที่เก็บน้ำมันเหลือเฟือ เพราะสามารถซื้อในราคาถูกไปเก็บไว้ขายให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ ในราคาที่แพงขึ้นในอนาคต แต่ถึงอย่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับการจัดการคลังน้ำมันและค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมถึงเหตุการณ์ในอนาคต ที่จะส่งผลกระทบต่อความต้องการน้ำมันในตลาดด้วย