เผยภาพ 2 แพทย์จีนผิวเปลี่ยนคล้ำหนัก หลังตับเสียหายหนักเพราะไวรัสโคโรนา

แพทย์ชาวจีน 2 คน คือ นายแพทย์อี้ ฟาน และนายแพทย์หู เว่ย์-เฟิง อายุ 42 ปีเท่ากัน ป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (COVID-19) และสีผิวเปลี่ยนจากผิวสว่างมาเป็นผิวคล้ำออกไปสีน้ำตาลเข้ม หลังจากทีมแพทย์ที่รักษายื้อชีวิตเอาไว้ได้จนอาการค่อยๆ ดีขึ้น

แพทย์เจ้าของไข้เผยว่า ทั้ง 2 คนนี้มีสีผิวหนังที่เปลี่ยนไป น่าจะเกิดจากฮอร์โมนที่ไม่สมดุลนร่างกาย หลังจากตับของทั้งคู่ได้รับความเสียหายจากไวรัส  และอาจเป็นไปได้ว่าอาจเป็นผลข้างเคียงของยาที่ใช้รักษาทั้งคู่เมื่อช่วงแรกๆ ด้วย แต่หลังจากนี้ถ้าหากตับดีขึ้นแล้ว สีผิวก็จะค่อยๆ กลับมาเหมือนเดิม

แพทย์ทั้ง 2 คนนี้ติดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (SARS-CoV-2) ขณะรักษาคนไข้ที่โรงพยาบาลกลางอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ตอนกลางของจีน ทั้งคู่ยังเป็นเพื่อนร่วมงานของนายแพทย์หลี่ เหวิน-เลี่ยง ที่นำเรื่องการระบาดของโรคไปเตือนเจ้าหน้าที่รัฐแต่กลับถูกดำเนินคดี และเสียชีวิตลงจากการติดเชื้อไวรัสนี้เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา

ส่วนนายแพทย์อี้และนายแพทย์หู ได้รับการวินิจฉัยว่าติดโรคนี้เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา จากนั้นก็ถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลปอดอู่ฮั่น ก่อนถูกส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลถงจี้ สาขาจงฟาซินเชิง

นายแพทย์อี้ มีอาการดีขึ้นหลังจากทีมแพทย์ที่รักษาต้องใช้เครื่องพยุงการทำงานของหัวใจและปอด (ECMO) เพื่อยื้อชีวิตเอาไว้นานถึง 39 วัน ซึ่งนายแพทย์รายนี้เผยกับสำนักข่าวซีซีทีวีว่า ตนเคลื่อนไหวได้แล้ว แต่ยังลุกจากเตียงเดินไปเดินมาด้วยตัวเองไม่ได้

เขาพูดต่อไปว่า หลังจากรู้สึกตัว โดยเฉพาะหลังจากทราบอาการของตัวเอง ก็รู้สึกกลัวขึ้นมาทันที แถมยังฝันร้ายบ่อยด้วย แต่ตนก็พยายามเอาชนะภาวะทางจิตนี้ไปให้ได้ ซึ่งแพทย์คนอื่นๆ ก็แวะมาคุยด้วยบ่อยๆ เพื่อให้กำลังใจและไม่ให้ตนฟุ้งซ่าน

ขณะเดียวกัน นายแพทย์หู ยังคงพูดให้สัมภาษณ์ไม่ได้ เนื่องจากสุขภาพยังถือว่าอ่อนแออยู่ แต่ยื่นมือมาจับแพทย์ที่รักษาได้ เพื่อแสดงความขอบคุณ ซึ่งที่ผ่านมาอาการของนายแพทย์หูถือว่าร้ายแรงกว่ามาก และนอนอยู่บนเตียงนาน 99 วันแล้ว