เสียชีวิตอีก 1! ไทยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 15 ราย รวมป่วยสะสม 2,826 ราย

เสียชีวิตอีก 1! ไทยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 15 ราย รวมป่วยสะสม 2,826 ราย

เสียชีวิตอีก 1! ไทยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 15 ราย รวมป่วยสะสม 2,826 ราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้ (22 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แถลงถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ณ ทำเนียบรัฐบาล ว่า

ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 15 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 2,826 ราย หายป่วยเพิ่ม 244 คน รวมรักษาหายแล้ว 2,352 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 425 ราย และ เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเสียชีวิต 49 ราย

รายละเอียดผู้เสียชีวิตรายที่ 49 ของไทย - ผู้เสียชีวิตเป็นหญิงไทยอายุ 58 ปี อาชีพแม่บ้าน มีโรคเบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง และมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดลูกสาวที่เป็นผู้ป่วยยืนยัน เข้ารักษา 22 มี.ค. จากนั้น 28 มี.ค.ยืนยันพบเชื้อโควิด-19 จากนั้นอาการแย่ลงและเสียชีวิต

รายละเอียดผู้ป่วยรายใหม่ 15 ราย จำแนกเป็นกลุ่มได้ดังนี้

  • สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ 10 ราย
  • คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 1 ราย
  • ไปสถานที่ชุมนุมชน เช่น ห้างสรรพสินค้า, ตลาดนัด, สถานที่ท่องเที่ยว 1 ราย
  • อาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานในสถานที่แออัด หรือทำงานใกล้ชิดสัมผัสชาวต่างชาติ เป็นต้น 3 ราย (พนักงานขาย, ขนส่งสินค้า, ทำงานกับนักท่องเที่ยว)
    ราย)

สำหรับจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโรนา 2019 รายใหม่ ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา (ข้อมูลวันที่ 22 เม.ย.) เพิ่มอีก 1 จังหวัด คือ นครราชสีมา รวมเป็น 37จังหวัด ได้แก่ เชียงราย, เพชรบุรี, เพชรบูรณ์, แพร่, แม่ฮ่องสอน, กาญจนบุรี, กาฬสินธุ์, จันทบุรี, ตาก, นครนายก, บุรีรัมย์, มหาสารคาม, มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, ราชบุรี, ลพบุรี, ลำพูน, ศรีสะเกษ, สมุทรสงคราม, สระบุรี, สุโขทัย, สุพรรณบุรี, หนองคาย, หนองบัวลำภู, อำนาจเจริญ, อุดรธานี, อุตรดิตถ์, อุทัยธานี, ระยอง, ตาก, ประจวบคีรีขันธ์, สกลนคร, สุรินทร์, สระแก้ว และอุบลราชธานี

จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อน 9 + 1 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี อ่างทอง น่าน บึงกาฬ และสตูล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook