7 เทคนิค “Work from Home” ช่วง COVID-19 สำหรับพ่อแม่ที่มีลูกอยู่ด้วย

7 เทคนิค “Work from Home” ช่วง COVID-19 สำหรับพ่อแม่ที่มีลูกอยู่ด้วย

7 เทคนิค “Work from Home” ช่วง COVID-19 สำหรับพ่อแม่ที่มีลูกอยู่ด้วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สถานการณ์ COVID-19 และมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นวัยทำงานที่ต้องเปลี่ยนสถานที่ทำงานจากออฟฟิศมาเป็นการทำงานที่บ้าน หรือ Work from home หรือแม้กระทั่งเด็กๆ ที่ต้องหยุดเรียน และหันมาเรียนออนไลน์แทน แต่สำหรับคนเป็นพ่อแม่ การทำงานที่บ้านในขณะที่มีลูกอยู่ด้วยนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะฉะนั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำ 7 เทคนิค Work from home สำหรับพ่อแม่ที่มีลูกอยู่ด้วย ดังนี้

จัดตารางกิจวัตรประจำวัน

ขณะที่อยู่ในบ้านช่วง COVID-19 ทั้งเด็กและผู้ใหญ่จำเป็นต้องมีตารางกิจวัตรประจำวัน เซอร์เก เออร์เบิน บล็อกเกอร์ด้านการเลี้ยงลูกและผู้เขียนหนังสือ “40 Quick, Fun and Easy Activities to do at Home” กล่าวว่า ตารางกิจวัตรไม่จำเป็นต้องมีสาระเสมอไป แค่ให้เด็กๆ ได้มีเวลาเล่นตามใจชอบและอ่านหนังสือ และแม้ว่าจะต้องไม่อยู่ในพื้นที่ชุมชน แต่การใช้เวลานอกบ้านก็จะมีประโยชน์มาก

ด้านหลุยส์ เพนท์แลนด์ วล็อกเกอร์ด้านการเลี้ยงลูก ก็เสริมว่า พ่อแม่ต้องอยู่กับความเป็นจริงในการทำภารกิจต่างๆ ให้สำเร็จในแต่ละวัน โดยเฉพาะในเรื่องการเรียนของลูก เช่น หาข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาที่เหมาะสมในการเรียน ส่วนเอ็มมา คอนเวย์ บล็อกเกอร์ด้านการเลี้ยงลูกและผู้เขียนหนังสือ “Will I Ever Pee Alone Again?” กล่าวว่า พ่อแม่ควรโฟกัสที่ประโยชน์ของครอบครัว และไม่ต้องคอยดูว่าใครทำอะไรในโซเชียลมีเดีย

สื่อสารกับคู่ชีวิต

หากเป็นครอบครัวที่มีผู้ปกครอง 2 คน ก็ควรพูดคุยกันถึงปริมาณงานของแต่ละคน เพื่อให้สามารถหาวิธีการทำงานควบคู่ไปกับการดูแลลูก โดยคอนเวย์แนะนำว่า ในวันแรกของการทำงาน เธอและสามีจะกำหนดเวลาที่จะอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เพื่อประชุมทางไกล และดูว่าอีกคนจะสามารถดูแลลูกได้หรือไม่

ส่วนเออร์เบินก็ระบุว่า การทำงานโดยแบ่งเวลาคนละ 2 ชม. จะช่วยให้พ่อหรือแม่มีเวลาทำงาน ในขณะที่คนที่ดูแลลูกไม่รู้สึกเหนื่อยกับการที่ต้องดูแลลูก

ใช้เวลาที่ลูกหลับให้เกิดประโยชน์

หากลูกของคุณยังต้องนอนกลางวัน เวลาที่ลูกหลับจะเป็นเวลาอิสระของคุณ ซึ่งคุณจะสามารถทำงานได้นาน 2 – 3 ชม. โดยไม่ถูกรบกวน เพนท์แลนด์กล่าวว่า ช่วงที่ลูกหลับจะเป็นช่วงเวลาที่ยืดหยุ่น ดังนั้นจึงควรจัดตารางเวลาทำงานให้ตรงกับช่วงที่ลูกหลับ

ส่วนซาราห์ อ็อคเวลล์-สมิธ คุณแม่ลูกสี่และผู้เขียนหนังสือ “The Gentle Parenting Book” แนะนำว่า ช่วงนอนกลางวันเป็นโอกาสดีที่พ่อแม่จะใช้เวลาดูแลตัวเองเพื่อผ่อนคลายความเครียด แทนที่จะทำงานบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการนั่งสมาธิ ออกไปเดินเล่นนอกบ้าน หรือฟังเพลง

จัดพื้นที่ทำงานให้เหมาะสม

สำหรับบ้านที่มีพื้นที่มากพอ ควรจัดพื้นที่สำหรับทำงานโดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีสมาธิและมีประสิทธิภาพ เพนท์แลนด์แนะนำว่า พื้นที่ทำงานควรมีประตูเปิดปิดได้ เพื่อให้สามารถแยกแยะระหว่างเวลาทำงานกับเวลาพักผ่อนได้ง่ายขึ้น และเพื่อให้รู้สึกว่าบ้านยังเป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อน ในขณะที่อ็อคเวลล์-สมิธระบุว่า เธอไม่ได้มีพื้นที่สำหรับทำงาน แต่นั่งทำงานบนโซฟา ท่ามกลางกองของเล่นที่ลูกรื้อไว้ เพราะฉะนั้น ทำอะไรก็ได้ที่คุณรู้สึกว่าสบายใจ

ใช้เทคโนโลยีช่วย

เมื่อต้องทำงานที่บ้าน ขณะที่มีลูกอยู่ด้วย พ่อแม่ก็มักจะถูกคาดหวังให้เป็นทั้งครู เอนเตอร์เทนเนอร์ และยังต้องทำงานไปด้วย กรณีนี้ เพนท์แลนด์แนะนำให้ใช้เทคโนโลยีต่างๆ มาช่วย ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน เกมส์ หรือรายการต่างๆ ในโทรทัศน์และ Netflix

ด้านแอนนา ไวท์เฮาส์ และแมตต์ ฟาร์กูฮาร์สัน อินฟลูเอนเซอร์ด้านการเลี้ยงลูก กล่าวว่า พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดที่ให้ลูกอยู่หน้าจอ หากทำดีที่สุดแล้ว นอกจากนี้ ความเบื่อของเด็กๆ ก็มีประโยชน์ เพราะเมื่อไรที่เด็กเบื่อ พวกเขาจะคิดเกมใหม่ๆ มาเล่นเอง

ซื่อสัตย์กับที่ทำงาน

ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ ความซื่อสัตย์ต่อตัวเอง เจ้านาย และเพื่อนร่วมงานเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น อย่ากลัวที่จะพูดคุยกับเจ้านายเพื่อหาวิธีการทำงานที่เหมาะสมกับทั้งตัวเองและบริษัท

โฟกัสแต่สิ่งดีๆ

การรักษาสมดุลระหว่างงานและชีวิตเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ชีวิตของคุณมีคุณภาพ และช่วยให้คุณสามารถสนุกกับการเป็นพ่อแม่ได้อย่างเต็มที่ เออร์เบินแนะนำให้หาสมดุลที่เหมาะกับตัวคุณและลูกๆ ไม่ต้องรู้สึกผิดที่ปล่อยให้ลูกดูโทรทัศน์ จำไว้ว่าไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบตั้งแต่วันแรก และสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นพิเศษคือสุขภาพจิต โดยในแต่ละวัน พ่อแม่ควรใช้เวลากับลูกแบบตัวต่อตัว เพื่อไม่ให้ลูกรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง

ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ COVID-19 ได้ที่นี่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook