ทัพบกเตือนสื่อ-โซเชียล "เบาๆ ลงหน่อย" ปมวิจารณ์ซื้อ "ยานเกราะ" หากสงสัยให้ถามมา
จากกรณีเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ โครงการจัดหารถยานเกราะสไตรเกอร์จากสหรัฐอเมริกาของกองทัพบก วงเงินกว่า 4,500 ล้านบาท กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์ ร้อนถึงกองทัพบกต้องออกมาชี้แจงว่าโครงการดังกล่าวจำเป็นต้องเดินหน้าต่อ เนื่องจากเป็นโครงการผูกพันงบประมาณ แต่ได้เลื่อนชะลอไปเป็นโครงการของปีงบประมาณ 2564 และ 2565 แล้ว
ขณะที่ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ย้ำว่า การตัดลดงบประมาณของกองทัพบกเป็นเรื่องที่พร้อมและยินดีปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงกลาโหม เพื่อนำไปดูแลประชาชน และแม้การปรับลดงบประมาณจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาอำนาจกำลังรบและกำลังพลของกองทัพบก ทำให้โครงการบางโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับยุทโธปกรณ์ สิ่งอุปกรณ์ต่างๆ อาจต้องชะลอเลื่อนระงับ แต่กองทัพบกมีความเข้าใจในความจำเป็นของประเทศ และยินดีที่จะตัดลดงบประมาณ
โดยกองทัพบกจะบริหารจัดการทรัพยากรที่เหลืออยู่ ให้สามารถดำรงอำนาจกำลังรบในการรักษาอธิปไตยและช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง พร้อมตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการนำเสนอข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อมวลชน และโซเชียลมีเดียในปัจจุบันมีความเปราะบาง หลายความคิดเห็นอยู่บนพื้นฐานของการมีข้อมูลที่จำกัด และไม่ได้ทราบข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน หรือบางครั้งมีการนำเอาความคิดเห็นจากแหล่งข่าวที่ไม่ปรากฏมานำเสนอ ซึ่งประเด็นเหล่านี้อาจสร้างความสับสนให้กับสังคม ยิ่งในขณะนี้อยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และประชาชนมีความยากลำบากในการดำเนินชีวิต
"มีหลายเพจ ที่นำเสนอข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เรื่องภายในกองทัพ ขอให้เบาๆ ลงหน่อย ทบ.เราไม่อยากบังคับใช้กฎหมาย ก็ขอความร่วมมือ ขอให้เบาๆ ลงหน่อย" รองโฆษก ทบ. กล่าว
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า กรณีมีการนำเสนอเอกสารของกรมสรรพาวุธทหารบก เรื่องการจัดซื้อรถเกราะ 50 คันนั้น เป็นการเสนอข่าวที่มีข้อมูลไม่ครบถ้วน และมีการปั่นกระแสในโซเชียล ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด สับสน และวิพากษ์วิจารณ์ไปถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูง กรณีนี้ถ้าอยากรู้ ให้ถามมา และหากมีกำลังพลนายไหน มีข้อติดขัดอะไร กองทัพบกมีสายการบังคับบัญชา รับฟังความคิดเห็น มีสายตรง ผบ.ทบ. อยู่แล้ว โดยยืนยันว่า รถยานเกราะ 50 คัน มูลค่า 4,500 ล้านบาทนั้น ไม่ได้มีแค่ 50 คัน แต่มีมากกว่า 100 คัน เพราะความสัมพันธ์อันดี ระหว่างกองทัพไทยกับสหรัฐฯ จึงแถมเพิ่มให้อีก