ปาหินใส่รถบรรทุกก่อนปล้นทรัพย์4หมื่น
3 โจ๋แก๊งปาหินอาละวาดขว้างหินใส่รถบรรทุกปลากลางดึก ก่อนลงมือปล้นทรัพย์เจ้าของรถได้เงินสดไปกว่า 40,000 บาท
(29ก.ค.) เวลา 01.00 น. พ.ต.ท.สมเกียรติ จาคีไพบูลย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกคนร้ายใช้หินปากระจกหน้ารถยนต์พร้อมทำร้ายร่างกาย แล้วปล้นทรัพย์สินไป เหตุเกิดบริเวณถนนเลียบคลองชลประทานสายทัพยายท้าว-หนองกระโดน หมู่ 2 ต.หนองงูเหลือม อ.เมือง จ.นครปฐม จึงแจ้งผู้บังคับ บัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.พ.ต.ท.ปรีดา อิ่มเจริญ รอง ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.ท.ปรีชา ทิมหอม สว.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.ท.ชัยรัตน์ บัวขม รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.จรัญ ยวงนุ่น สว.สส.สภ.เมืองนครปฐม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจำนวนหนึ่ง
เมื่อไป ถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบนายสมมาตร หรือปุ๋ย โคธา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 207/19 ซ.ประชาอุทิศ แยก 3-2 ถ.ประชาอุทิศ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. ยืนรอเจ้าหน้าที่ข้างรถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน สีเขียว เลขทะเบียน ลฐ 8610 กทม. ซึ่งบรรทุกถุงปลาสวยงามอยู่เต็มคัน และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 3 คนโพกผ้าปิดบังใบหน้า ขี่จยย.แบบผู้หญิง 2 คันใช้หินปาหน้ากระจกรถก่อนใช้มีดจี้และปล้นทรัพย์สินเงินสด 4 หมื่นบาทซึ่งเป็นเงินบริษัทที่ตนทำงานอยู่โดยนำมาเพื่อซื้อปลาและโทรศัพท์ มือถือ 2 เครื่องของตนไป เจ้าหน้าที่จึงได้วิทยุแจ้งเจ้าหน้าที่สายตรวจที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ และพื้นที่ใกล้เคียงให้ช่วยตรวจสกัดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้น ทางในการหลบหนี ก่อนนำตัวผู้เสียหายมายัง สภ.เมืองนครปฐม เพื่อทำการสอบสวน
นาย สมมาตร ผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขี่รถคันดังกล่าวกลับจากไปซื้อปลาทอง ปลาเงิน และปลาคร๊าฟ ซึ่งเป็นปลาสวยงาม ในพื้นที่ ต.โพรงมะเดื่อ เพื่อที่จะนำไปส่งออกยังประเทศดูไบ โดยก่อนเกิดเหตุตนขับมาตามเส้นทางเลียบคลองชลประทานเพื่อมุ่งหน้าออกไปยัง ถนนมาลัยแมน ขณะขับรถอยู่นั้น ตนก็ไขกระจกรถยนต์ลงทั้ง 2 ข้างเพื่อสูบบุหรี่ เมื่อมาถึงยังบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นเส้นทางที่มืดและเปลี่ยว ตนสังเกตเห็นชายวัยรุ่น 3 คน โพกผ้าที่ศีรษะคล้ายชาวไร่ ยืนอยู่ข้างจยย.แบบหญิง 2 คันที่จอดอยู่ข้างทางห่างออกไปข้างหน้าที่ตนขับรถยนต์อยู่
เมื่อ ขับรถเข้าใกล้ชายดังกล่าวก็ออกมายืนกลางถนนพร้อมใช้วัตถุคล้ายหินปากระจก หน้ารถทำให้กระจกแตก จึงชะลอรถยนต์เพราะเกรงว่ารถจะเสียหลักหล่นข้างทางเพราะบรรทุกปลามาเต็มคัน เมื่อจอดรถคนร้ายทั้ง 3 คนก็ได้ตามมาแล้วคนร้ายคนหนึ่งในนั้นก็ได้ใช้มีดจี้แล้วเอากระเป๋าที่บรรจุ เงินกว่า 40,000 บาทเศษไป จึงขับรถไปบ้านที่ตนไปซื้อปลามาแล้วขอยืมโทรศัพท์โทร.แจ้งตำรวจทราบดังกล่าว
พ. ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.เมืองนครปฐม กล่าวว่า หลังทราบเหตุตนประสานงานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทุกหน่วยให้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และแจ้งสกัดจับคนร้ายตามเส้นทางดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วมีผู้เสียหายแจ้งมา ทางตำรวจต้องดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนิน คดีให้ได้
พ.ต.ท.ปรีดา อิ่มเจริญ รอง ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม กล่าวว่า เบื้องต้นตนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบร่องรอยชัดเจนเนื่องจาก จุดเกิดเหตุที่ผู้เสียหายบอกนั้นไม่พบว่ามีเศษกระจกหรือก้อนหินตกอยู่ ซึ่งตนได้นำชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุตนได้แยกให้ทีมสืบสวนออกหาข่าวในพื้นที่ละแวกใกล้เคียง เพื่อติดตามตัวคนร้ายแล้ว
พ.ต.ท.สมเกียรติ จาคีไพบูลย์ พนักงานสอบสวน กล่าวว่า ขณะนี้ตนประสานไปยังเจ้าหน้าที่วิทยาการ เพื่อตรวจสถานที่เกิดเหตุและตรวจสภาพรถของผู้เสียหายแล้ว เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นคดีสะเทือนขวัญ ที่มีแก๊งปาหินอาละวาดอยู่ในขณะนี้ ซึ่งทางตำรวจต้องหาหลักฐานให้แน่ชัดว่าเป็นแก๊งปาหินก่อเหตุจริงหรือไม่ จึงต้องรอผลการตรวจจากเจ้าหน้าที่วิทยาการ ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป