เทียบไทม์ไลน์ คาดแรงงานต่างด้าว 42 คน ติดโควิด-19 จากเจ้าหน้าที่ ตม. ด่านสะเดา

เทียบไทม์ไลน์ คาดแรงงานต่างด้าว 42 คน ติดโควิด-19 จากเจ้าหน้าที่ ตม. ด่านสะเดา

เทียบไทม์ไลน์ คาดแรงงานต่างด้าว 42 คน ติดโควิด-19 จากเจ้าหน้าที่ ตม. ด่านสะเดา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรณีกลุ่มคนต่างด้าวที่ถูกกักตัวอยู่ที่ศูนย์กักตัวผู้ต้องกักตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 42 คน จากทั้งหมด 115 คน ล่าสุดจากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้คนต่างด้าวติดเชื้อโควิด19 มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะได้รับการแพร่เชื้อมาจาก 2 กรณี กรณีแรกคือรับเชื้อมาจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสะเดาที่ติดเชื้อโควิด-19 เป็นคนแรกซึ่งไปเข้าเวรที่ศูนย์กักแห่งนี้เมื่อวันที่ 4 เมษายนและในวันนั้นได้มีการส่งตัวคนต่างด้าวจำนวน10 คนจากสภ.หาดใหญ่ไปยังศูนย์กักแห่งนี้และมีการตรวจค้นร่างกายก่อนเข้าห้องกัก

>> ตายเพิ่ม 1 ราย! ไทยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 53 คน ส่วนใหญ่จากแรงงานต่างด้าว ยอดสะสม 2,907

ส่วนอีกกรณีอาจมาจากหญิงชาวมาเลเซียชื่อ น.ส.มาลินดา อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาในคดีขับรถเก๋งชนคนงานหมวดการทางกำแพงเพชรเสียชีวิต 6 ศพ เมื่อวันที่13 สิงหาคมปีที่แล้วซึ่งถูกส่งมากักตัวที่ศูนย์กักเมื่อวันที่ 15 เมษายน ต่อมาวันที่17 เมษายน ได้ออกจากห้องกักมาโทรศัพท์คุยกับญาติที่มาเลเซีย และวันที่18 เมษายน มีอาการปวดหัวขอยาจากเจ้าหน้าที่ และถูกผลักดันกลับประเทศเมื่อวันที่ 20 เมษายน และป่วยโควิดมีอาการทรุดหนักถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 21 เมษายน

แต่เมื่อเทียบช่วงเวลาและพฤติกรรมเสี่ยงแล้วต้นเหตุของการแพร่เชื้อที่ทำให้คนต่างด้าวติดเชื้อ 42 คน น่าจะมาจากเจ้าหน้าที่ตม.สะเดาคนแรกที่ติดเชื้อโควิด-19 เพราะเจ้าหน้าที่ตม.ที่เข้าเวรร่วมกับตม.คนนี้ 5 คนติดเชื้อทั้งหมดและยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่น่าจะมีสาเหตุมาจากหญิงชาวมาเลเซีย เพราะนับตั้งแต่เกิดคดีขับรถชนคนตาย 6 ศพเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม และได้รับการประกันตัวออกมาก็ยังไม่ได้กลับประเทศมาเลเซีย พักอยู่ที่บ้านของนายประกันที่ อ.หาดใหญ่ สงขลา มาตลอดและผู้คนใกล้ชิดโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตม.ที่ไปรับตัวจากบ้านนายประกันมากักตัวที่ศูนย์กักแห่งนี้ผลตรวจก็เป็นลบไม่พบเชื้อรวมทั้งผู้ใกล้ชิดที่บ้านนายประกันคนอื่นๆทุกคนก็ยังปรกติ

ส่วนคนต่างด้าวที่ติดเชื้อแยกเป็นชาวเมียนมา 34 คน เวียดนาม 3 คน, มาเลเซีย 2 คน, เยเมน 1 คน, กัมพูชา 1 คน และอินเดีย 1 คน ซึ่งอยู่ระหว่างรอส่งกลับประเทศต้นทาง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook