ป้าขอโทษเจ้าหน้าที่เวรเปล หลังธนาคารรับ ระบบขัดข้องทำเงินหาย เมียร่ำไห้ผัวพ้นมลทิน

ป้าขอโทษเจ้าหน้าที่เวรเปล หลังธนาคารรับ ระบบขัดข้องทำเงินหาย เมียร่ำไห้ผัวพ้นมลทิน

ป้าขอโทษเจ้าหน้าที่เวรเปล หลังธนาคารรับ ระบบขัดข้องทำเงินหาย เมียร่ำไห้ผัวพ้นมลทิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.สุนันท์  อายุ 54 ปี ชาว ต.ศรีภูมิ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์  ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์  ว่าถูกขโมยกดเงินที่ลูกสาวส่งมาให้หายไป 5,000 บาท  เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากไปฟอกไตที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เนื่องจากป้าสุนันท์ เดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็นคนพิการ  ส่วนสามีก็กดเงินไม่เป็น จึงวานให้เจ้าหน้าที่เปลของโรงพยาบาลช่วยไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ที่ตั้งอยู่หน้าโรงพยาบาลให้ แต่เจ้าหน้าที่เปลคนดังกล่าวกลับเดินมาบอกว่า เงินในบัญชีมีแค่ 1,000 บาท  ทั้งที่ลูกสาวยืนยันว่าโอนมาให้ 5,800 บาท  บวกกับเงินที่เหลือในบัญชีอีก 287 บาท ก็น่าจะมีเงินในบัญชี 6,087 บาท จึงอยากให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง 

ล่าสุดวันนี้ทางธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ทำการตรวจสอบระบบตู้เอทีเอ็มของธนาคาร พบว่าระบบมีปัญหาขัดข้องในช่วงเวลาที่ลูกค้ากดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ทำให้ถูกตัดเงินในบัญชีอัตโนมัติ และทางธนาคารได้โอนเงินจำนวน 5,000 บาทคืนให้กับป้าเรียบร้อยแล้ว

หลังทราบเรื่อง นายธนิต หรือต้น (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี หนุ่มพนักงานเปลที่ถูกกล่าวหา พร้อม น.ส.สุวลักษณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ภรรยา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ในโรงพยาบาลเดียวกัน ก็ได้เดินทางไปยังบ้านของป้าสุนันท์ ที่อำเภอกระสัง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งป้าสุนันท์ ก็ยืนยันว่าทางธนาคารไทยพาณิชย์ได้ติดต่อแจ้งมาทางโทรศัพท์ว่า เงินที่หายไป 5,000 บาทเกิดจากระบบของตู้เอทีเอ็ม ขัดข้องจริง และทางธนาคารก็ได้โอนเงินเข้าบัญชีคืนให้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งป้าสุนันท์ พร้อมสามีก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษนายธนิต หนุ่มพนักงานเปล ที่เข้าใจผิดว่าเป็นคนกดถอนเงิน 5,000 บาทไป เพราะนายธนิต เป็นคนสุดท้ายที่ไปกดให้ และหากได้รับเอกสารยืนยันจากธนาคารแล้วก็จะนำไปประกอบหลักฐานในการถอนแจ้งความที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ทั้งนี้ป้าสุนันท์ ยังขอบคุณและชื่นชมนายธนิต พนักงานเปล ที่คอยดูแลช่วยเหลือเวลาไปฟอกไตที่โรงพยาบาล ทั้งยังมีน้ำใจไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ให้ ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาจะกล่าวหาให้เสียหาย

ด้าน นายธนิต หรือต้น หนุ่มพนักงานเปล บอกว่า หลังข้อเท็จจริงปรากฏแล้วว่ากรณีที่เกิดขึ้นเกิดจากระบบ ตู้เอทีเอ็ม ขัดข้อง ก็รู้สึกดีใจที่พ้นมลทินและได้ความบริสุทธิ์คืน จากที่ก่อนหน้าถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเครียด ที่ถูกกล่าวหาทั้งยังถูกสังคมประณามให้เสียหาย แต่พอความจริงปรากฏ และป้าก็ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตนก็ยกโทษให้ไม่ได้ติดใจอะไร และยืนยันว่าจะยังคงทำความดีและให้บริการผู้ป่วยแบบนี้ต่อไปเพราะยังเชื่อมั่นว่าทำดีต้องได้ดี

ขณะที่ น.ส.สุวลักษณ์ ภรรยาของหนุ่มพนักงานเปล ก็ถึงกับร้องไห้โผเข้ากอดเพื่อนร่วมงาน ด้วยความดีใจที่สามีพ้นมลทินและข้อกล่าวหา จากที่ก่อนหน้านี้กินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเครียดมาก แต่ก็เชื่อว่าความดีย่อมทำให้ผ่านพ้นปัญหาอุปสรรคต่างๆ ไปได้ และยืนยันว่าตนและสามีจะยังทำความดีช่วยเหลือคนอื่นโดยเฉพาะผู้ป่วยที่มาใช้บริการที่โรงพยาบาลแบบนี้ต่อไป ถึงแม้จะถูกสังคมโซเชียลประณามกล่าวหารุนแรงจนไม่กล้าอ่านคอมเมนท์เลย แต่ก็ขอบคุณเพื่อนร่วมงานและโซเซียลหลายคนที่เข้ามาให้กำลังใจ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็อยากเรียกร้องให้ทางธนาคารออกมาแสดงความรับผิดชอบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook