ติดเคอร์ฟิวช่วยไม่ทัน! หนุ่มไลฟ์สดผูกคอตัวเอง แม่ช็อกเห็นลูกชายค่อยๆ ตายผ่านจอ

ติดเคอร์ฟิวช่วยไม่ทัน! หนุ่มไลฟ์สดผูกคอตัวเอง แม่ช็อกเห็นลูกชายค่อยๆ ตายผ่านจอ

ติดเคอร์ฟิวช่วยไม่ทัน! หนุ่มไลฟ์สดผูกคอตัวเอง แม่ช็อกเห็นลูกชายค่อยๆ ตายผ่านจอ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(25 เม.ย.63)  ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม  อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กตอนที่ตัวเองกำลังจะผูกคอตายภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. คืนวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ต่างพยายามโทรศัพท์และส่งข้อความผ่านเฟซบุ๊กเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าต่อต่อตาญาติและเพื่อนๆ  

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผู้เสียชีวิต  ก็พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่าง นายเอก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ชายหนุ่มที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด  ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะ นางเอียด อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้าแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกลกัน

ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี แต่พักคนละที่ก็เห็นไลฟ์สด  และพยายามโทรไปปลอบใจแต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว

สอบถาม นางเอียด แม่ผู้ตาย เล่าว่า ตนมีลูกทั้งหมด 3 คน เอกเป็นคนที่ 2 ส่วนคนโตสุดแยกย้ายไปทำงาน และคนเล็กกำลังจะบวชพระ ก่อนเกิดเหตุได้มีญาติพี่น้องนำโทรศัพท์มาบอกให้แม่ดูว่านายเอก กำลังจะผูกคอตาย ก็ตกใจมากจึงได้โทรศัพท์ไปประสานให้ญาติที่ทำงานอยู่ใกล้ ให้รีบไปช่วยแต่ก็ไม่ทัน พบว่านายเอกพงษ์ ได้ใช้เชือกไนล่อนผูกคอตัวเองเสียชีวิต สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้เป็นแม่  ญาติพี่น้อง  และเพื่อนที่เห็นภาพในไลฟ์สดต่อหน้าต่อตา   

นางเอียด ยังบอกอีกว่า เมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ลูกชายเพิ่งพาภรรยาและลูกน้อยมาไว้ที่บ้าน เพราะกลัวจะติดโควิด ทั้งช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีงานเนื่องจากสถานการณ์โควิด จากนั้นลูกชายก็กลับไปทำงานที่ปทุมธานีคนเดียว  จึงคิดว่าลูกชายอาจจะเครียดกับสถานการณ์โควิดรายได้ไม่พอใช้จ่าย

ขณะที่ น.ส.ศศิภา อายุ 21 ปี ภรรยาของนายเอกพงษ์ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 3 ทุ่มเศษ เห็นแฟนไลฟ์สดกำลังจะฆ่าตัวตายด้วยการใช้เชือกผูกคอตัวเองกับขื่อในห้องพัก ก็ตกใจมากทำอะไรไม่ถูก  พยายามปลอบใจแล้วแต่ไม่เป็นผล ส่วนสาเหตุก็คิดว่าน่าจะเครียดเรื่องงานที่ไม่สามารถทำงานได้ปกติเหมือนเดิม ทำให้รายได้ไม่เพียงพอ จนสามีต้องพาตนเองและลูกกลับมาส่งไว้ที่บ้านแล้วกลับไปทำงานคนเดียว

ด้านนายพรพจน์ อายุ 23 ปี  หลานผู้ตาย เล่าว่า นายเอกเป็นคนร่าเริง เวลาโกรธใคร มักจะเก็บไว้คนเดียว ก่อนหน้านี่ไม่มีทีท่าว่าจะเครียดเรื่องอะไร หลังจากมีการพูดคุยเรื่องงานในโทรศัพท์และปลอบใจ อยู่ๆ ก็ไลฟ์เฟซบุ๊กจะผูกคอตาย แต่ไม่รู้ว่าเครียดเรื่องอะไร  เพราะผู้ตายเป็นคนไม่ค่อยระบายอะไรให้ใครฟัง  ซึ่งตนก็พยายามปลอบใจแล้วแต่ก็ไม่เป็นผล ช็อกมากที่เห็นภาพผูกคอตายต่อหน้าต่อตา

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook