โอละพ่อ!ปาหินแค่สร้างเรื่องยักยอกเงิน

โอละพ่อ!ปาหินแค่สร้างเรื่องยักยอกเงิน

โอละพ่อ!ปาหินแค่สร้างเรื่องยักยอกเงิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พ่อค้าปลาตู้เจอข้อหาหนัก แจ้งความเท็จสร้างสถานการณ์ อ้างถูกแก๊งปาหินปล้นทรัพย์ สารภาพยักยอกเงินนายจ้าง เพื่อนำเงินไปซื้อมือถือให้กิ๊ก ส่วนเงิน 40,000 บาท ตำรวจพาตัวไปค้นหลังซุกซ่อนไว้ใต้ห้องน้ำในโรงงานที่ กรุงเทพ

(30ก.ค.) เวลา 11.30 น. พล.ต.ต. ยงยุทธ เตียวตระกูล รองผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ศักดิ์ชัย ตันบุญเอก ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ. ภาส กร กลั่นหวาน ผกก.สภ.เมืองนครปฐม ร่วมแถลงข่าว การจับกุมตัวนายสมมาตร โคธา พ่อค้าปลาตู้ในข้อหาแจ้งความเท็จว่าถูกคนร้ายปาหินใส่รถแล้วปล้นทรัพย์

สืบ เนื่องจากนายสมมาตรหรือปุ๋ย โคธา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 207 / 19 ซ.ประชาอุทิศ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพพ่อค้าปลาตู้ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ว่ามีแก๊งคนร้าย 3 คนใช้ก้อนหินขว้างกระจกรถ แล้วใช้อาวุธมีดจี้ปล้นเอาเงินสดไป 40,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ก่อนหลบหนีไปนั้น

ต่อมา พ.ต.ท. ณรงค์ธรรม มาศคีรีวงศ์ เจ้าหน้าที่ตรวจสถานที่เกิดเหตุ สำนักงานวิทยาการเขต 15 นครปฐม ได้เดินทางมาตรวจสอบร่องรอยของรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน สีเขียว หมายเลขทะเบียน ลฐ- 8610 กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นของนายสมมาตร

จากการ ตรวจสอบพบที่กระจกหน้ามีร่องรอยกระจกคล้ายถูกของแข็งทุบเสียหายทั้งบาน แต่ไม่พบเศษหิน หรือร่องรอยกระแทกของก้อนหินแต่อย่างใด ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่า รถคันดังกล่าวจะถูกคนร้ายก่อเหตุจริง จึงได้ประสานให้ พ.ต.ท.สมเกียรติ จาคีไพบูลย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ให้เรียกตัวมาทำการสอบปากคำ และพาไปชี้จุดเกิดเหตุเพื่อสืบหาข้อเท็จจริง

ต่อมาเมื่อคืนที่ ผ่านมา นายสมมาตร โคธา เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ที่สภ.เมืองนครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสอบปากคำ ซึ่งนายสมมาตร ยังให้การเช่นเดิม โดยยืนยันว่าถูกแก๊งปาหินทำการปล้นทรัพย์จริง พนักงานสอบสวน จึงบันทึกคำให้การ ก่อนรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น

หลัง รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พล.ต.ต.ยงยุทธ เตียวตระกูล รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต. ศักดิ์ชัย ตันบุญเอก ผบก.ภ.จว.นครปฐม พร้อมด้วย พ.ต.อ. ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.ได้สั่งให้ พ.ต.ท.ปรีดา อิ่มเจริญ รอง ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.ท.ปรีชา ทิมหอม สว.สส.ภ.จว.นครปฐม,พ.ต.ท.ชัยรัตน์ บัวขม รองผกก.ป.พ.ต.ท.จรัญ ยวงนุ่น สว.สส.และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนระดมกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมนำตัวนายสมมาตรฯ ไปชี้จุดที่ไปซื้อปลาจากบ้านลูกค้าแต่ละแห่ง

ซึ่ง ระหว่างชี้จุดเกิดเหตุบริเวณถนนเลียบคลองชลประทานสายทัพยายท้าว-หนองกระโดน หมู่ 2 ต.หนองงูเหลือม อ.เมือง จ.นครปฐมนั้น เจ้าหน้าที่ก็ได้ซักถามถึงพฤติกรรมคนร้ายและจำนวนคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งนายสมมาตรฯให้การวกไปวนมา และขัดแย้งกับการให้การครั้งแรก ทำให้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่า นายสมมาตรฯสร้างสถานการณ์ขึ้นมาแน่นอน จึงนำตัวนายสมมาตร มาทำการสอบสวนเพิ่มเติมอีก ในที่สุดในนายสมมาตรฯ รับสารภาพว่า เป็นผู้ใช้ก้อนหินขว้างกระจกรถยนต์ตัวเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวนายสมมาตรในฐานะผู้ต้องหาทันที

นาย สมมาตร ให้การรับสารภาพว่า ตนวางแผนสร้างสถานการณ์ขึ้นมา หลังจากที่ออกจากบ้านลูกค้าที่ไปซื้อปลาหลังสุดท้าย ก็ได้ขับรถมาจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งวันนั้นตนได้เบิกเงินจากนายจ้างเพื่อมาซื้อปลาตู้ 80,000 บาท และจ่ายเงินซื้อปลาตู้ไปแล้ว 2 หมื่นบาทเศษ และมีการใช้จ่ายไปบ้างคงเหลือเงินสดอีก 40,000 บาท จึงพับไว้ปึกละ 10,000 บาท 4 ปึก นำใส่ถุงพลาสติกแล้วยัดใส่ไว้ที่กางกางใน ส่วนรถกระบะที่ตนขับได้นำมาจอดไว้ตรงที่เกิดเหตุแล้วนำหินมาขว้างจนแตก แล้วนำก้อนหินโยนทิ้งน้ำไป พร้อมนำโทรศัพท์มือถือตน 2 เครื่องนำซิมการ์ด ออกแล้วโยนลงน้ำในคลองชลฯไป แล้วกำปั้นข้างขวายัดใส่ไปในกระเป๋าเสื้อจนขาดหวิ่น แล้วเอาแก้มข้างขวากระแทกกับกรงเหล็ท้ายรถให้ดูเหมือนถูกคนร้ายชก ก่อนขับรถวิ่งย้อนไปที่บ้านลูกค้าที่ไปซื้อปลารายสุดท้ายโดยแกล้งขอยืม โทรศัพท์แจ้งตำรวจว่าถูกแก๊งปาหินแล้วปล้นเอาทรัพย์สินไป

นาย สมมาตร เล่าต่อว่า หลังจากแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เมื่อนำรถมาจอดที่ สภ.เมืองนครปฐม แล้วตนได้ให้ปากคำไว้เบื้องต้นก่อนจะขอตัวกลับก่อนโดยอ้างว่าจะต้องนำปลาที่ ซื้อมาไปส่ง เพราะเกรงจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยแล้วค้นตัวจะพบเงินที่ซุกซ่อนไว้ ซึ่งเมื่อกลับไปถึงโรงงานตนจึงได้นำเงินสด 40,000 บาทที่ยักยอกไว้ไปซุกซ่อนไว้ใต้พื้นปูนห้องน้ำ

ส่วนสาเหตุที่ตน วางแผนสร้างสถานการณ์เพื่อยักยอกเงินนั้น เนื่องจากตนรู้จักผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งทำสวนอยู่ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร และได้ติดต่อคุยกันมาเป็นเวลานาน แต่ยังไม่เคยเห็นหน้ากัน แต่ตนรู้สึกชอบพอ ซึ่งฝ่ายหญิงโทรศัพท์คุยกับตนว่า อยากได้โทรศัพท์มือถือให้ตนซื้อให้ แต่ตนไม่มีเงิน จึงได้วางแผนนี้ขึ้นมา เพื่อนำเงินไปซื้อโทรศัพท์มือถือดังกล่าว

จากนั้นพ.ต.อ. ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.เมืองนครปฐม พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำนายสมมาตร เดินทางไปบ้านพักที่สำหรับคัดปลา เลขที่ 5 / 9 หมู่ 8 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ โดยนายสมมาตรได้พาไปเอาเงินที่ซุกไว้ อยู่ใต้ห้องน้ำ ซึ่งตรงพื้นมีลักษณะดินทรุดทำให้เกิดช่องว่างระหว่างพื้นปูนกับพื้นดิน นายสมมาตรจึงใช้มือล้วงเข้าไปก่อนนำเงินที่ห่อไว้ออกมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยึดเงินไว้เป็นของกลาง และนำตัวมาคุมตัวที่ สภ.นครปฐม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่าแจ้งความเท็จต่อเจ้าหน้าพนักงาน ส่งตัวดำเนินคดี ส่วนเรื่องคดียักยอกต้องรอนายจ้างผู้เสียหายมาให้ปากคำแจ้งดำเนินคดีอีกข้อ หาหนึ่งภายหลัง

จากนั้นเวลา 11.45 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำนายสมมาตรฯไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดจอดรถและ ใช้หินขว้างใส่กระจก และจุดที่นำโทรศัพท์มือถือไปทิ้ง ซึ่งระหว่างการทำแผนได้มีประชาชนให้ความสนใจมามุงดูเป็นจำนวนมาก

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook