จับแพนด้าน้อยคลานบนพรม
จับแพนด้าน้อยคลานบนพรม เน้นของเล่นสีสันทดสอบสายตา
เมื่อวันที่ 30 ก.ค.2552 นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย นางหูไห่ผิง ผู้เชี่ยวชาญจีน พร้อมทีมสัตวแพทย์ และนักวิจัยแพนด้า ร่วมกันนำแพนด้าน้อยใส่ล้อเข็นออกมาตรวจสุขภาพบนเตียงภายในคลินิกแพนด้า สวนสัตว์เชียงใหม่ ขณะอายุได้ 64 วัน โดยการตรวจเป็นไปอย่างราบรื่นใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศที่ยังให้ความสนใจมาทำ ข่าวติดตามพัฒนาการกันอย่างเนืองแน่นหน้าตู้กระจก
การนำตัวแพนด้าน้อยออกมาตรวจสุขภาพในวันนี้อยู่ระหว่างที่แพนด้าน้อยยังนอน หลับอยู่เลยยังดูงัวเงียและตอบสนองช้า ผลการตรวจสุขภาพในช่วงที่อายุพ้น 2 เดือนพบว่าแพนด้าน้อยมีพัฒนาการการเติบโตที่เร็วมาก วันนี้ชั่งน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างพุ่งพรวดเป็น 3,840 กรัมคือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 112 กรัมแล้ว จากช่วงแรกคลอดที่เพิ่มเฉลี่ยวันละเพียง 30-50 กรัม
นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวว่า ช่วงนี้เจ้าหน้าที่จะหาของเล่นเพื่อเสริมทักษะด้านมาให้เพิ่ม ส่วนของเล่นม้านั่งโยกที่นำมาทดลองให้เล่นเมื่อวานอาจจะยังไม่เหมาะกับวัยคง ต้องรออีก 1 เดือนถึงจะขึ้นควบเล่นได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องสรรหาของเล่นอย่างอื่นเข้ามาเสริมเบื้องต้นเตรียมใช้ กระดิ่งเพื่อกระตุ้นการได้ยินรวมถึงวัตถุอื่นๆ ที่มีรูปร่างและสีสันต่างๆ ที่หลากหลาย ด้านการทรงตัวนั้นพบว่าแพนด้าน้อยพยุงตัวได้ดีขึ้นแต่ขาหลังยังไม่แข็งแรง มากนัก
ส.พญ.กรรณิการ์ นิ่มตระกูล สัตวแพทย์ประจำตัวแพนด้า กล่าวว่า ภาพรวมหลังจากที่แพนด้าน้อยอายุพ้น 2 เดือนไปแล้ว พี่เลี้ยงวางใจได้มากขึ้นเพราะทั้งน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นและพัฒนาการนนั้น ดีขึ้นตามลำดับ ช่วงบ่ายนี้ ทีมวิจัยทดลองนำพรมสักหลาดสีเขียวมาปูที่พื้นคอกกักเพื่อเสริมความหนืดและ เพิ่มความหยาบบนพื้นให้กับแพนด้าน้อยได้หัดคลาน เนื่องจากที่ผ่านมาพื้นปูนในคอกกักนั้นลื่นและเย็นทำให้แพนด้าน้อยคลานได้ ไม่ดีนัก แต่จะปูเฉพาะเวลาที่แพนด้าน้อยแยกอยู่กับแม่ เพราะหากปูถาวรแม่อย่างหลินฮุ่ยอาจจะเห็นว่าแปลกปลอมคงไม่ชอบใจนัก นอกจากพื้นคอกกักแล้วจะแบ่งพรมอีกส่วนไปทดลองปูไว้บนเตียงในคลินิกแพนด้า ระหว่างนำแพนด้าน้อยออกไปตรวจสุขภาพด้วยเพื่อดูพัฒนาการ
สำหรับของเล่นที่นำมาเพิ่มหลังจากนี้จะเน้นไปที่การช่วยกระตุ้นการมอง เห็นเช่นรูปทรงต่างๆ ที่มีสีสันที่ปรับเปลี่ยนไปโดยเน้นแม่สีเป็นหลักเพื่อให้แพนด้าน้อยเกิดความ สะดุดตา ซึ่งเราจะศึกษาและเฝ้าเก็บรวบรวมข้อมูลจากการสังเกตการณ์โดยก่อนหน้านี้ยัง ไม่มีงานวิจัยทางด้านนี้ออกมารองรับอย่างแน่ชัดว่าแพนด้านั้นมองเห็นสีอะไร ได้บ้าง ของเล่นที่นำมานั้นมีทั้งเต่าไฟฟ้า ลูกบอลเด้งพลาสติกหลากสี รถลากขนาดเล็ก และตัวเขย่าที่ทำให้เกิดเสียง สำหรับ เต่าไฟฟ้านั้นเวลาเดินไปชนกับสิ่งกีดขวางเต่าของเล่นก็จะเลี้ยวไปจุดอื่น เพื่อสร้างความสนใจให้กับแพนด้าน้อย การนำของเล่นมาจำนวนมานั้นเพื่อจะตรวจสอบว่าแพนด้าน้อยจะสนองตอบอันไหน สำหรับรถลากของเล่นเราไว้สำหรับลากล่อแพนด้าน้อย ของเล่นที่นำมาครั้งนี้น่าจะเป็นส่วนที่ช่วยกระตุ้นแพนด้าน้อยได้เร็วขึ้น แต่คงวัดไม่ได้ว่าการพัฒนาการจะเร็วขึ้นมากน้อยแค่ไหน