พ่อตาไม่เชื่อลูกเขยแอบกดเงิน 3,000 ของผู้ป่วยไต พ้อหวังดีช่วยแต่ถูกปรักปรำ

พ่อตาไม่เชื่อลูกเขยแอบกดเงิน 3,000 ของผู้ป่วยไต พ้อหวังดีช่วยแต่ถูกปรักปรำ

พ่อตาไม่เชื่อลูกเขยแอบกดเงิน 3,000 ของผู้ป่วยไต พ้อหวังดีช่วยแต่ถูกปรักปรำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พ่อตาไม่เชื่อลูกเขยจะแอบกดเงินเยียวยาของผู้ป่วยไต ไป 3,000 บาท เพราะไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน มีงานทำมั่นคง และเป็นคนดีชอบทำบุญ พ้อหวังดีช่วยไปกดดูยอดแต่กลับถูกปรักปรำ อีก 1-2 วัน กลับจากส่งของต่างจังหวัด จะไปพบตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์

จากกรณีที่นางสุทาทิพย์ ชาว อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีชายคนหนึ่งอายุประมาณ 30 กว่าปี ซึ่งเป็นญาติที่มาเฝ้าไข้ผู้ป่วยในโรงพยาบาลนางรอง ได้กดถอนเงินเยียวยา 5,000 บาท ของนายณรงค์ศักดิ์ พี่ชาย ที่วานไปช่วยกดเช็คยอดเงินให้ ขณะมานอนรักษาอาการป่วยโรคไตอยู่ที่โรงพยาบาลเดียวกันหายไป 3,000 บาท

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (28 เม.ย.) นายจักร์กฤษ ร่วมกูล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านหนองโพธ์ ตำบลชุมแสง อำเภอนางรอง ซึ่งเป็นบ้านของครอบครัวคนที่ถูกกล่าวหาแต่ก็ไม่พบตัวของ นายสมปอง (ขอสงวนนามสกุล) ลูกเขยของบ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากไปขับรถส่งของที่ต่างจังหวัด อีกประมาณ 1-2 วันจะเดินทางกลับมา แล้วจึงจะเดินทางเข้าไปพบพนักงานสอบสวน สภ.นางรอง เพื่อให้ข้อมูลและแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้กดถอนเงินไป

จากการสอบถาม นายดาว (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี พ่อตาของนายสมปอง บอกว่า ช่วงที่ไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลลูกเขยก็จะไปคอยดูแลเฝ้าไข้ และซื้อของให้ตลอด ซึ่งวันเกิดเหตุลูกเขยจะออกไปซื้อของข้างนอก ผู้ป่วยที่อยู่เตียงติดกันก็ได้ไหว้วานให้ลูกเขยไปช่วยนำบัตร ATM ไปกดดูยอดเงินในบัญชีให้ โดยให้บัตรไป 2 ใบ บอกว่าให้ดูยอดเงินเยียวยา 5,000 บาท กับเงินสวัสดิการคนจนให้

พอลูกเขยกลับมาก็บอกว่าบัตรที่ให้ตรวจสอบยอดเงินเยียวยา 5,000 บาท มีเงินในบัญชี 2,000 บาท ซึ่งลูกเขยก็ยังเล่าให้ตนเองฟังว่าทำไมมี 2,000 บาท ส่วนที่ลูกเขยถูกกล่าวหาว่าน่าจะเป็นคนถอนเงินไป 3,000 บาทนั้น ก็รู้สึกเสียใจทั้งที่หวังดีไปช่วยเช็คให้ แต่กลับมาถูกกล่าวหาว่าถอนเงินไป ยืนยันว่าครอบครัวตนเองไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินทอง

ส่วนลูกเขยก็มีงานทำมั่นคง และเป็นคนใจบุญชอบทำบุญ เชื่อว่าลูกเขยไม่ได้กดถอนเงินของผู้ป่วยคนดังกล่าวอย่างแน่นอน และลูกเขยบอกว่าอีก 1–2 วัน กลับจากส่งของ ก็จะไปพบตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ  

ทางด้าน พ.ต.ต.ศิวัฒน์ กังศรานนท์ สารวัตรสืบสวน สภ.นางรอง ก็ได้นำข้อมูลติดต่อกลับ ทางธนาคารเจ้าของบัญชี เพื่อตรวจสอบที่มาของบัญชีและตรวจสอบกล้องวงจรปิดว่าใครเป็นผู้นำบัตรของผู้เสียหายไปกดถอนเงินหรือไม่อย่างไร คาดว่าจะทราบข้อเท็จจริงเร็วๆ นี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook