หญิงตั้งครรภ์ ติดหวัดรักษาที่ รพ.จุฬา เสียชีวิตแล้ว
"มานิต" แจ้งหญิงตั้งครรภ์ชาวราชบุรี มารักษาตัวที่ รพ.จุฬา เสียชีวิตแล้ว หมอใหญ่เผยหญิงวัย 16 ปีแท้งลูกที่โคราชไม่ได้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ หญิงตั้งครรภ์ผวาติดหวัดแห่ตรวจสุขภาพ
เมื่อเวลา 19.20 น.วันที่ 31 ก.ค.นายมานิต นพอมรบดี รมช.สธ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากนายจินดา เปียถนอม อายุ 36 ปีสามีผู้ติดเชื้อไข้หวัด 2009 ซึ่งเป็นหญิงตั้งครรภ์ผ่าคลอดและทารกติดเชื้อจากแม่ ได้เสียชีวิตแล้วที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ โดยนายจินดาได้รับแจ้งการเสียชีวิตจากรพ.จุฬาลงกรณ์ และไม่อนุญาตให้ผ่าศพพิสูจน์อีกครั้งเนื่องสงสารภรรยา
ด้านศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผอ.รพ.จุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า หญิงที่คลอดลูกวัย 26 ปีที่ติดเชื้อไข้หวัด 2009 ซึ่งถูกส่งตัวมาจากรพ.ราชบุรีเข้ามารักษาตัวที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ เสียชีวิตแล้วเมื่อเวลา 16.00 น. ด้วยภาวะปอดถูกทำลาย หลังจากส่งเข้ามารับการรักษาที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ ได้ 1 สัปดาห์ ขณะนี้คณะแพทย์ จุฬาฯ ได้พยายามเจรจากับญาติผู้เสียชีวิต เพื่อขอผ่าพิสูจน์ศึกษารอยโรคเป็นวิทยาทานให้แก่วงการแพทย์ไทย
นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีหญิงอายุ 16 ปีตั้งครรภ์ได้ 6 เดือนและแท้งหลังมีไข้ ที่กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา ว่า ได้รับรายงานผลการตรวจยืนยันเชื้อทางห้องปฏิบัติการด้วยวิธีพีซีอาร์ 2 ครั้ง พบไม่ได้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หญิงรายดังกล่าว มาด้วยอาการไข้ ไอ หอบ ส่งตัวมาจากโรงพยาบาลด่านขุนทด จ.นครราชสีมาเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2552 ถึงโรงพยาบาลมหาราช แพทย์ตรวจพบปอดอักเสบทั้ง 2 ข้าง ใส่เครื่องช่วยหายใจ รับตัวไว้รักษาในห้องไอซียู เริ่มให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์และยาปฏิชีวนะในวันเดียวกัน ต่อมาวันที่ 28 กรกฎาคม 2552 เวลาประมาณ 06.00 น. ได้แท้งลูก อาการล่าสุดวันนี้ยังมีไข้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นปอดอักเสบ ซึ่งมีสาเหตุได้ทั้งจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส
นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวต่อว่า ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้สถานพยาบาลทั่วประเทศปรับยุทธศาสตร์ในการดูแลหญิงตั้งครรภ์ โดยให้ อสม.และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในสถานีอนามัย ออกเยี่ยมหญิงตั้งครรภ์ที่บ้าน พร้อมให้การดูแลและคำแนะนำการปฏิบัติตัว โดยขอให้หลีกเลี่ยงการไปเยี่ยมผู้ป่วยอื่น ๆ ในโรงพยาบาล หากมีผู้ป่วยไข้หวัดอยู่ในบ้าน ขอให้ใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วย และหากมีอาการป่วยอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้คือ มีไข้ ไอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อยร่างกาย ท้องเสีย อาเจียน ขอให้รีบไปโรงพยาบาลทันที ไม่ต้องรอดูอาการหรือซื้อยากินเอง เพราะการพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาและรับยาต้านไวรัสเร็ว จะเป็นผลดีต่อทั้งแม่และเด็ก โดยผลการศึกษาทั่วโลก ยืนยันตรงกันว่ายาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์มีความปลอดภัย ไม่มีผลเสียต่อเด็กในครรภ์ และทำให้การตั้งครรภ์ดำเนินต่อไปได้จนถึงคลอด
หญิงตั้งครรภ์ผวาติดหวัดแห่ตรวจสุขภาพ
ที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นคราชสีมา พบว่า หญิงตั้งครรภ์ต่างพากันมาตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงตั้งใจที่จะเข้ามาตรวจเพื่อความสบายใจ
นางวิภารัตน์ สุวรรณไตร อายุ 26 ปี ประชาชนในเขตเทศบาลนครนคราชสีมา หนึ่งในหญิงตั้งครรภ์ที่เดินทางมาตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาลค่ายสุรนารี กล่าวว่า ข่าวหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ในจังหวัดนคราชสีมา ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และมีอาการหนักจนถึงขั้นที่ต้องแท้งลูก ทำให้หวาดกลัว จึงต้องเดินทางมาตรวจสุขภาพ เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์
ขณะเดียวกันความตื่นตะหนกเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ยังทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในส่วนของบุคคลกลุ่มเสี่ยง เด็ก คนชรา ผู้ที่มีโรคประจำตัว จนถึงหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งล่าสุดในวันนี้ ( 31 ก.ค.52 ) โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา ซึ่งเป็นโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัดนครราชสีมา เปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 นายทอง วิริยะจารุ ผู้อำนวยการโรงเรียน ต้องประกาศหยุดการเรียนการสอนเป็นเวลา 1 อาทิตย์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.5ไปจนถึงวันที่ 6 ส.ค. เพื่อทำความสะอาดตัวอาคารและสถานที่ต่างๆทั่วบริเวณโรงเรียน
หลังจากที่พบว่ามีนักเรียนมีอาการป่วยเป็นไข้หวัด และต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่างๆทั่วเขตเทศบาลนครนคราชสีมา จำนวนเกือบ 20 ราย ซึ่งล่าสุดทางผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายทอง วิริยะจารุ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลนครนครราชสีมา และได้รับคำตอบว่าการปิดเรียนครั้งนี้เป็นการป้องกันการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่อาจจะเกิดขึ้นภายในโรงเรียน ซึ่งเป็นศูนย์รวมเด็กเล็กที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย และยอมรับว่ามีนักเรียนของโรงเรียนมีอาการป่วยเป็นไข้หวัดกว่า 10 ราย และขณะนี้นักเรียนกลุ่มดังกล่าวได้กระจายไปรักษาตัวอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆทั่วเขตเทศบาลนครนคราชสีมา แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการรายงานว่ามีเด็กนักเรียนของโรงเรียนป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่อย่างใด
โวยรพ.ปิดข้อมูลลูกตายสงสัยติดหวัด
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีผู้ป่วยต้องสงสัยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เข้ารับการรักษาตัวที่ห้องแยกโรงพยาบาลตรัง เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ได้เสียชีวิตลงแล้ว และทางญาติได้นำศพกลับมาจัดการตามประเพณีที่บ้านเลขที่ 206/1 ถ.พาดรถไฟสายตรัง-กันตัง ซ.6 เขตเทศบาลนครตรัง หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงก็พบว่า ทางญาติของผู้เสียชีวิตได้นำศพของผู้เสียชีวิตซึ่งมีรูปร่างอ้วนน้ำหนักมากถึง 135 กก.มาอาบน้ำศพจัดการตามหลักประเพณีของศาสนาอิสลาม โดยมีเพียงญาติพี่น้องที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาร่วม ประมาณ 20 คน ท่ามกลางความคลางแคลงใจสงสัยของบรรดาญาติพี่น้องและชาวบ้านในละแวกดังกล่าวถึงสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ตาย
ทั้งนี้จากการสอบถาม นายสหัส เวชกุล บิดาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิต คือ น.ส.อริยา เวชกุล อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของตนเอง โดยก่อนหน้านี้เมื่อเย็นวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้ตายได้ขับขี่ รถจยย.จนเกิดอุบัติเหตุล้มจนได้รับบาดเจ็บ และเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชน โดยแพทย์ได้ทำการตรวจรักษาแล้วพบว่ามีอาการบาดเจ็บไม่มาก แต่ขณะเดียวกันก็ตรวจพบว่า ลูกสาวตนมีอาการไอและเจ็บคอ จึงได้ให้ยาแก้ไอกลับมารับประทานที่บ้าน พร้อมกับแนะนำให้ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลตรัง
ต่อมาตนก็ได้นำลูกสาวไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลตรัง โดยแพทย์ได้ทำการตรวจเบื้องต้นแล้ว ก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไร และอนุญาตให้กลับบ้าน แต่เมื่อพอกลับมาถึงบ้านลูกสาวก็มีอาการไอเป็นเลือดและมีเสลด รุ่งเช้าจึงพาลุกสาวกลับไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใหม่อีกครั้ง ซึ่งแพทย์ได้ตรวจอาการแล้วบอกว่า เป็นอาการของเส้นเลือดฝอยในคอแตก ก็ได้ให้ยามารับประทาน และอนุญาตให้กลับบ้านได้
กระทั่งลูกสาวมีอาการไอ และหอบ ทางตนกับภรรยาก็ไม่กล้าพากลับไปหาแพทย์ที่ รพ.อีกรอบ เพราะกลัวจะถูกดุ จึงได้ไปหาซื้อยาแก้หอบมาฉีดพ่นให้ลุกสาวแทน แต่อาการกลับทรุดลงอย่างหนักลูกสาวมีอาการไอมากเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ทางตนจึงตัดสินใจนำลูกสาวส่ง รพ.เมื่อไปถึงแพทย์ก็ได้ให้นอนพักดูอาการที่ห้องรวม และเห็นมีอาการไอมาก ก็แยกห้องพาเข้ารักษาตัวที่ห้องแยก ซึ่งอยู่ชั้น 4 ของตึกอุบัติเหตุ
หลังจากนั้นอาการก็ยังไม่ดีขึ้น แพทย์เลยตัดสินใจพาเข้าห้องไอซียู และทำการรักษาโดยไม่ได้ให้ญาติมีส่วนร่วมตัดสินใจในการรักษา อีกทั้งเมื่อทางญาติขอดูฟิลม์เอ๊กซเรย์ก็ไม่ให้ดู กระทั่งต่อมาลูกสาวตนหยุดหายใจ ทางทีมแพทย์ก็ได้ออกมาบอกว่า ไม่สามารถปั๊มหัวใจช่วยชีวิตลูกสาวตนไว้ได้ หลังจากนั้นก็อนุญาตให้ญาติที่มาเยี่ยมเข้าไปดูลูกสาวได้ แต่ให้ทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัยด้วย
บิดาของ น.ส.อริยา กล่าวว่า หลังจากลูกสาวตนเสียชีวิตแล้ว ดูเหมือนว่าทางแพทย์พยายามจะปกปิดข้อมูล โดยมี นพ.คนหนึ่งได้บอกกับตนว่า ผลการตรวจของลูกสาวตนไม่ได้เสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ แต่เป็นเพราะอาการป่วยจากโรคเกล็ดเลือดต่ำที่ผู้ตายเข้าออกรักษาตัวที่ รพ.ตรังมานาน จึงทำให้ขณะนี้ทั้งตน ญาติและเพื่อนบ้าน มีความรู้สึกคลางแคลงใจ และเชื่อว่าทางทีมแพทย์ต้องปกปิดข้อมูลที่แท้จริง ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ทางทีมแพทย์ รพ.ตรัง และผู้เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงของลูกสาว เพราะถ้าหากลูกสาวป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่จริง ทางครอบครัวและเพื่อนบ้านจะได้สามารถหาทางระวังป้องกันได้อย่างทันท่วงที สำหรับลูกสาวนั้นที่ผ่านมา ป่วยเป็นโรคเกล็ดเลือดต่ำต้องเข้าออก รพ.ตรัง เป็นประจำ แต่ไม่มีโรคประจำ เช่น เบาหวานหรือหัวใจแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เพื่อนบ้านที่อยู่ในละแวกเดียวกับครอบครัวของ น.ส.อริยา ก็ได้สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันตัวเองแล้ว เพราะเกรงการระบาด และต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุการตายของ น.ส.อริยาอย่างกว้างขวาง
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ปชป.ให้สัมภาษณ์ที่บ้านพัก จ.ตรัง กล่าวว่า ในส่วนของ จ.ตรัง ตนยังไม่ทราบข้อมูลว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 แต่ที่ผ่านมาก็ได้มีการพูดคุยถึงนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ที่หน่วยงานที่เกี่ยวดำเนินการอยู่ดีอยู่แล้ว แต่ขณะเดียวกำชับเรื่องการให้ความรู้กับประชาชนอย่างทั่วถึง เพราะไม่มีทางเป็นไปได้ว่าหมอจะไปตรวจคนทั้ง 64 ล้านคนได้หมด
เพราะฉะนั้นภูมิคุ้มกันและยาที่ดีที่สุด ก็คือ การให้ความรู้ในการป้องกันตัว เพราะฉะนั้นแนวทางที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินตามนโยบายของกระทรวงทำถูกต้องดีอยู่แล้ว เพียงแต่ยังมีประชาชนอีกส่วนที่ไม่มีเวลาติดตามข้อมูลข่าวสารทางสื่อได้ตลอด ดังนั้นตนได้ฝากไปถึง รมต.สาธารณสุขอย่าเบื่อที่จะเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารทุกวัน จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ส่วนใน จ.ตรัง ที่ผ่านมายังไม่มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคดังกล่าวก็ตาม แต่ก็ได้กำชับไปยัง นายสมพงษ์ อนุยุทธพงศ์ ผวจ.ตรัง ถึงมาตรการป้องกันการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ โดยในช่วงที่มีการระบาดให้รีบเร่งทำความสะอาดสถานที่ต่างๆ อย่ารอให้มีผู้เสียชีวิตก่อนถึงจะทำความสะอาด เป็นการป้องกันการระบาดได้อีกทางหนึ่ง ประกอบกับในช่วงระหว่างวันที่ 9-19 ก.ย.จ.ตรัง จะเป็นเจ้าภาพในการจัดแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 38 ตรังเกมส์ จะต้องสร้างความมั่นใจให้ทุกฝ่าย
แต่อย่างไรก็ตามยังฝากถึงประชาชนอย่าตื่นตระหนกตกใจกับข่าวโรคไข้หวัดใหญ่มากนัก เพราะไม่ได้เป็นโรคที่ตายในทันที แต่ขณะเดียวก็อย่าประมาท และเมื่อมีวิธีป้องกันแล้ว พยายามเอาใจใส่ดูตัวเองให้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยเรื้อรัง ที่ร่างกายมีภูมิคุ้มกันไม่ดี ส่วนใหญ่จะเสียชีวิตด้วยโรคแทรกซ้อน
ส่วนกรณีของ น.ส.อริยา ที่ทางญาติสงสัยว่าโรงพยาบาลจะปกปิดสาเหตุการเสียชีวิต นั้น ตนเชื่อว่า ทางโรงพยาบาลคงไม่มีเหตุผลอื่นใดที่จะปกปิดข้อมูล เพราะถ้าปิดข้อมูลจริงทางโรงพยาบาลก็จะมีปัญหาในภายหลังเอง ดังนั้นทางญาติพี่น้องควรจะให้เวลากับทางแพทย์ได้ตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตให้นัดอีกครั้งหนึ่ง อย่าเพิ่งรีบด่วนสรุป เพราะจะเกิดปัญหาในภายหลัง
เมื่อถามว่าเป็นห่วงการจัดแข่งขันกีฬาแห่งชาติหรือไม่ ว่าจะส่งผลกระทบให้เพิ่มยอดผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น นายชวน กล่าวว่า ตนคิดว่า ในแต่ละจังหวัดคงมีการตรวจสุขภาพร่างกายของนักกีฬามาอย่างดีและมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่น่าเป็นห่วงมากนัก ในส่วนของการเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคไข้หวัดใหญ่ใน จ.ตรัง นั้น ไม่น่าเป็นห่วง เพราะยังมีเวลารณรงค์ทำความสะอาดสถานที่ราชการได้ทัน ซึ่งจะทำให้การระบาดลดน้อยลง
ส่วนการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งนี้ จะเลื่อนหรือไม่นั้น แล้วแต่ทางจังหวัด ตนคงไปตอบแทนไม่ได้ แต่สำหรับตนคิดว่าคงจะไม่เลื่อน เพราะเชือว่าหากเลื่อนก็อาจกระทบหลายอย่าง อีกทั้งทางจังหวัดมีการเตรียมความพร้อมทุกอย่างไว้แล้ว รวมทั้งมาตรการป้องกันที่เข้มงวด ดังนั้นยังเหลือเวลาไม่มากใกล้จะถึงการแข่งขัน แต่ตนก็มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้