26 มหาวิทยาลัยรัฐค้านฎีกาช่วย แม้ว ทปอ.ย้ำไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
มติมหาวิทยาลัยรัฐ26แห่งค้านฎีกามีอธิการบดีมธ.-มช-แม่ฟ้าหลวง-บูรพา-นครพนม ทปอ.ย้ำไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เผย4เหตุผลคัดค้านคนเสื้อแดงชี้ขัดกม.-มิได้ร้องทุกข์-ก้าวล่วงพระราชอำนาจ-มุ่งหมายทางการเมืองชัดเจน มท.สั่งผู้ว่าฯตั้งโต๊ะถอนชื่อ"ฎีกา"
มท.สั่งผู้ว่าฯตั้งโต๊ะถอนชื่อ"ฎีกา"
นายวิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงนามคำสั่งด่วนถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ให้ชี้แจงต่อประชาชน กรณีร่วมลงรายชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และหากต้องการถอนรายชื่อ ให้ทุกจังหวัดอำนวยความสะดวก โดยให้ประชาชนมาถอนรายชื่อได้ในแต่ละจังหวัดที่มีการจัดนิทรรศการถวายพระพร นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ตรวจสอบจำนวนผู้ที่ลงชื่อถวายฎีกาแล้วว่า มีจำนวนเท่าไหร่ เพื่อนำข้อมูลคนที่ลงชื่อถอนตัว และตัวเลขคนที่ลงชื่อจริงๆ ไปหักล้างกับตัวเลขที่แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดงประกาศไว้ เพราะเชื่อมีการปั้นตัวเลขคนลงชื่อถวายฎีกามากกว่าความเป็นจริง
"การดำเนินการดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่เป็นการทำหน้าที่ตามนโยบายหลักของกระทรวงในการปกป้องสถาบัน เนื่องจากเห็นว่าการล่ารายชื่อถวายฎีกาเป็นการสร้างความแตกแยกในสังคม" นายวิชัยกล่าว
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ไม่มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในภาคอีสานและภาคเหนือ ไม่ให้ความร่วมมือหรือรู้สึกลำบากใจที่มีคำสั่งให้เปิดโต๊ะรับถอนรายชื่อถวายฎีกา เพราะการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปด้วยความสมัครใจ โดยเท่าที่ได้รับแจ้งจากบรรดา ส.ส.และสมาชิก ภท. ทราบว่าประชาชนส่วนใหญ่ที่ร่วมลงชื่อ ไม่ทราบว่าเป็นการลงชื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ฉะนั้น จึงสั่งการมีการดำเนินการดังกล่าวขึ้น เพื่อให้ความสะดวกกับประชาชน ไม่ได้สั่งให้ไปต่อต้านกลุ่มเสื้อแดงแต่อย่างใด
พ่อเมืองขานรับ-เน้นพื้นที่"สีแดง"
ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ พากันขานรับนโยบาย โดยนายสมชัย หทยตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ได้เรียกนายอำเภอข้าราชการทุกภาคส่วนมาประชุมหารือ และให้ลงพื้นที่ทุกตำบลทุกหมู่บ้าน เพื่อเช็คจำนวนประชาชนกลุ่มเสื้อแดงที่ร่วมลงลายมือชื่อถวายฎีกา จากนั้น สั่งทุกอำเภอและองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทุกแห่งให้ตั้งโต๊ะรับถอดถอนชื่อ โดยเน้นที่ อ.ตะพานหิน ทับคล้อ โพทะเล ดงเจริญ โพธิ์ประทับช้าง สามง่าม และ อ.วชิรบารมี ซึ่งเป็นพื้นที่ของคนกลุ่มเสื้อแดง โดยต้องตั้งโต๊ะติดป้ายหน้าอำเภอ
นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตั้งโต๊ะอำนวยความสะดวกกับประชาชนที่ต้องการถอนชื่อถวายฎีกา รวมทั้งตั้งโต๊ะลงชื่อถวายพระพรควบคู่ไปด้วยที่ศาลากลางจังหวัด และออกคำสั่งพร้อมประสานงานให้ที่ว่าการอำเภอ 16 อำเภอ รวมถึงที่ทำการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เทศบาล อบต. ทั้งจังหวัด 158 แห่ง ขอความร่วมมือส่วนราชการทุกแห่งในจังหวัดร่วมกันตั้งโต๊ะให้บริการประชาชน หากต้องการถอนรายชื่อถวายฎีกา
ที่ว่าการอำเภอเมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี มีการตั้งโต๊ะถอดถอนชื่อเพื่อถวายฎีกา ปรากฏว่า มีประชาชน 4-5 คน มาแสดงเจตจำนงขอถอนชื่อ นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผู้ว่าฯปราจีนบุรี กล่าวว่า ได้สั่งการทุกอำเภอตั้งโต๊ะบริการประชาชนถอนชื่อถวายฎีกาที่กลุ่มเสื้อแดงจัดให้ร่วมลงชื่อก่อนหน้านี้
อบจ.เชียงใหม่ขวางชี้นำปชช.
นายแก่นเพชร ช่วงรังษี ผู้ว่าฯตราด กล่าวว่า จังหวัดยังไม่มีการสั่งการให้อำเภอและส่วนราชการใดๆ ดำเนินการ เพราะยังไม่ได้รับคำสั่งอย่างเป็นทางการจากกระทรวงมหาดไทย เพียงแต่ทราบข่าวทางสื่อมวลชนเท่านั้น หากได้รับหนังสือสั่งการมาก็พร้อมดำเนินการตามนโยบาย
ส่วนที่บริเวณห้องโถงศาลากลางจังหวัดขอนแก่น มีการตั้งโต๊ะเพื่อเปิดให้ประชาชนลงชื่อถอดถอนรายชื่อการถวายฎีกาแล้ว โดยมีประชาชนส่วนหนึ่งมาขอลงชื่อ แต่เจ้าหน้าที่สอบถามพบว่ายังไม่เคยลงชื่อถวายฎีกา ต่อมานายปราโมทย์ สัจจรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น สั่งการให้มาเก็บโต๊ะถอดถอนชื่อดังกล่าวไว้ก่อน เพราะยังไม่ได้รับคำสั่งให้ตั้งโต๊ะรับรายชื่อผู้ต้องการถอนชื่ออย่างเป็นทางการและเป็นลายลักษณ์อักษร
นายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รองผู้ว่าฯเชียงใหม่ กล่าวว่า ขอหารือกับผู้ว่าฯเชียงใหม่ก่อน โดยให้ผู้ว่าฯเป็นผู้ตัดสินใจ แต่ทราบว่า อปท. สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จะตั้งโต๊ะถอนชื่อถวายฎีกากันเอง ซึ่งเป็นสิทธิแต่ละองค์กรจะไม่เข้าไปชี้นำหรือยุ่งเกี่ยว
นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ กล่าวว่า ถ้ามีคำสั่งก็พร้อมปฏิบัติ แต่การล่ารายชื่อสนับสนุนหรือคัดค้านเป็นปลายเหตุ ถ้าประชาชนสามารถพึ่งกระบวนการยุติธรรมได้ คงไม่มีใครล่ารายชื่อเพื่อถวายฎีกาให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท อยากให้ทุกอย่างเดินไปตามกระบวนการด้วยตัวมันเอง ไม่ควรแทรกแซงหรือชี้นำประชาชน
มติมหาวิทยาลัยรัฐ26แห่งค้านฎีกา
นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ทปอ.วันเดียวกันนี้ ที่มีอธิการบดีมหาวิทยาลัยรัฐ 26 แห่ง เข้าร่วม มีมติคัดค้านการเข้าชื่อถวายฎีกา โดยมีผู้ร่วมลงชื่อแล้ว อาทิ 1.นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2.นายวันชัย ศิริชนะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 3.นายสุชาติ อุปถัมภ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา 4.นายสุวิทย์ เลาหศิริวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม 5.นายจงรัก พลาศัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ 6.นายสมเกียรติ สายธนู อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ 7.นายพงษ์ศักดิ์ อังกสิทธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 8.นายไทย ทิพย์สุวรรณกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ร่วมกันลงชื่อคัดค้านการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ โดยมอบหมายให้ ทปอ.รวบรวมรายชื่ออธิการบดี และจัดทำหนังสือส่งถึงราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง ขอให้ยับยั้งการนำฎีกาขึ้นถวาย ทั้งนี้ ทปอ.จะประสานไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) และมหาวิทยาลัยเอกชนกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ ที่มีความเห็นสอดคล้องกับทปอ. ได้ร่วมลงชื่อคัดค้านด้วย
"การดำเนินการของ ทปอ.เพราะมองว่า มหาวิทยาลัยควรออกมามีบทบาทช่วยชี้นำสังคม และเสนอแนะทางออกโดยใช้หลักวิชาการเป็นตัวกลาง ไม่ใส่ความรู้สึก ที่สำคัญไม่ได้โจมตีกลุ่มบุคคลใด และขอย้ำว่า ทปอ.ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือต้องการให้ใครแพ้ชนะ แต่สิ่งที่ทำล้วนมีเหตุผลทางวิชาการรองรับ" นพ.ภิรมย์กล่าว
เผย4เหตุผลคัดค้านคนเสื้อแดง
นพ.ภิรมย์กล่าวต่อว่า หนังสือที่ ทปอ.จะส่งถึงราชเลขาธิการ มีเนื้อหาคัดค้านการถวายฎีกาของกลุ่มเสื้อแดงดังนี้ 1.ฎีกาดังกล่าว มิใช่ฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 259-267 และขัดต่อพระธรรมนูญศาลยุติธรรมมาตรา 23 และ 2.ฎีกาดังกล่าว มิใช่ฎีการ้องทุกข์เพื่อขอความเป็นธรรม แต่เป็นการถวายฎีกาที่มีความมุ่งหมายให้พระราชทานอภัยโทษแก่ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งมิใช่ผู้ขอถวายฎีกา 3.ฎีกาดังกล่าวมุ่งประสงค์ทำให้พระมหากษัตริย์ใช้พระราชอำนาจก้าวล่วงองค์กรผู้ใช้อำนาจอธิปไตย โดยขอให้พระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งศาลฎีกามีคำสั่งเด็ดขาดแล้วให้จำคุก และยังคงมีคดีค้างอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาอีกหลายคดี 4.ฎีกาดังกล่าว เป็นเรื่องที่มีจุดมุ่งหมายทางการเมืองชัดเจน และการนำเอาข้อขัดแย้งในทางการเมืองที่มีผู้เห็นแตกต่างกันอยู่หลายฝ่าย ขึ้นกราบบังคับทูลต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ทรงมีพระราชวินิจฉัย เป็นเรื่องไม่บังควรเป็นอย่างยิ่ง และเป็นการดึงสถาบันพระมหากษัตริย์มาสู่ความขัดแย้งเป็นการฝักฝ่ายทางการเมืองโดยตรง และ 5.กรณีที่ผู้ร่างและชักชวนให้ประชาชนมาร่วมลงชื่อ อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกในหมู่ประชาชนทั่วไป และกับสถาบันสูงสุดของชาติทำให้คับข้องใจอันนำไปสู่ความแตกแยกในหมู่ประชาชน และเกิดความเสียหายรุนแรงที่สุดต่อประเทศชาติ และต่อระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้
ชทพ.จี้"แม้ว"ส่งสัญญาณสั่งระงับ
นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) แถลงว่า พรรคห่วงใยและวิตกกังวลเรื่องการยื่นถวายฎีกาอย่างมากว่า มีความเหมาะสมมากน้อยแค่ไหน และเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทหรือไม่ เพราะการถวายฎีกาไม่เข้าหลักเกณฑ์ทางกฎหมาย และธรรมเนียมที่เคยปฏิบัติ จึงขอประกาศจุดยืน สนับสนุนท่าทีนายกรัฐมนตรี ที่จะอธิบายให้ประชาชนทราบถึงขั้นตอนและข้อเท็จจริงทางกฎหมาย ว่ากรณีดังกล่าวไม่เข้าเกณฑ์อย่างไรบ้าง แต่ขอเรียกร้องให้นายกฯและผู้เกี่ยวข้องอธิบายด้วยความอดทน อดกลั้นไม่ยั่วยุ และปราศจากอคติใดๆ อีกทั้งขอเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณส่งสัญญาณชัดเจนผู้รวบรวมรายชื่อถวายฎีกาเพื่อให้ยุติ หรือชะลอการถวายฎีกาออกไป เพราะจะเป็นการพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เป็นผู้หนึ่งที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน