5 ข้อควรรู้เกี่ยวกับเซ็กส์และ “ไวรัสโคโรนา”

เป็นที่ทราบกันดีว่าเชื้อไวรัสโคโรนาที่ระบาดอยู่ทั่วโลก ณ เวลานี้ ไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของคนเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงระบบเศรษฐกิจและสังคมในระดับโลก รวมถึงชีวิตประจำวันและความสัมพันธ์ของผู้คนด้วย เมื่อโรคระบาดก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงและผลกระทบในชีวิตคนหลายด้าน หนึ่งในประเด็นที่หลายคนนึกถึง คือผลกระทบของเชื้อไวรัสที่มีต่อ “เซ็กส์” ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจากสาขาต่างๆ ก็ได้ทำการศึกษาวิจัยในประเด็นดังกล่าว และกลายเป็น 5 ข้อสรุปที่ทุกคนควรรู้เกี่ยวกับเซ็กส์และไวรัสโคโรนา ที่รวบรวมโดยสำนักข่าว The Independent ดังนี้

“ช่วยตัวเอง” เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กรมสุขภาพของนิวยอร์กได้ออกแนวทางสำหรับประชาชนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกาย และสิ่งที่ประชาชนควรรู้เกี่ยวกับการอาศัยอยู่ในเมืองอย่างปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโคโรนา หนึ่งในแนวทางดังกล่าวระบุว่า “การช่วยตัวเองจะไม่แพร่เชื้อ COVID-19 ไปสู่ผู้อื่น โดยเฉพาะหากคุณล้างมือ (และทำความสะอาดเซ็กส์ทอย) ด้วยสบู่และน้ำอย่างน้อย 20 วินาที ทั้งก่อนและหลังการปฏิบัติกิจกรรมดังกล่าว”

นอกจากนี้ งานวิจัยหลายชิ้นยังระบุว่า การช่วยตัวเองยังช่วยคลายความเครียด ลดความดันโลหิต เพิ่มความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง และลดความเจ็บปวดได้ด้วย

ยอดขาย “เซ็กส์ทอย” พุ่งสูงขึ้นในช่วงการระบาดใหญ่

เมื่อการช่วยตัวเองเป็นวิธีการที่ปลอดภัย และผู้คนหลายล้านคนต้องกักตัวอยู่ในบ้านเนื่องจากโรค COVID-19 ระบาด ยอดขายเซ็กส์ทอยจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยในนิวซีแลนด์ ยอดขายเซ็กส์ทอยเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า หลังจากการประกาศล็อกดาวน์ ในขณะที่ Los Angeles Times รายงานว่ายอดขายเซ็กส์ทอยเพิ่มขึ้นระหว่าง 30 – 100% ทีเดียว

เซียรา เดย์แซช เจ้าของร้านเซ็กส์ช็อปเฟมินิสต์ ให้สัมภาษณ์กับ Chicago Tribune ว่าเนื่องจากผู้คนจำนวนมากต้องกักตัวอยู่ในบ้าน และต้องการระบายความเครียด รวมทั้งมีความสุขทางเพศ การใช้เซ็กส์ทอยนั้น ผู้ใช้สามารถใช้ได้ด้วยตัวคนเดียว และน่าจะเป็นสิ่งที่เพิ่มสีสันให้กับกิจกรรมทางเพศได้

เชื้อไวรัสโคโรนาไม่ได้ติดต่อทางเพศสัมพันธ์

จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Fertility and Sterility ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ตัวอย่างอสุจิของผู้ชาย 34 คน ในประเทศจีน ภายในระยะเวลาเฉลี่ย 1 เดือน หลังจากที่ผลตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นบวก ผลการวิจัยสรุปว่าไม่ปรากฏเชื้อไวรัสในอัณฑะหรืออสุจิของชายกลุ่มนี้ เพราะฉะนั้น ความเป็นไปได้ที่จะมีการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาทางเพศสัมพันธ์จึงมีน้อยมาก อย่างไรก็ตาม นักวิจัยระบุว่า ผู้ป่วยโรค COVID-19 ที่มีอาการหนักก็มีความเป็นไปได้ที่จะแพร่เชื้อทางเพศสัมพันธ์ เนื่องจากมีค่าจำนวนเชื้อไวรัสที่สูง

คุณสามารถติดเชื้อไวรัสโคโรนาจากการ “จูบ” ได้

แม้โรค COVID-19 จะไม่ได้ติดต่อผ่านเพศสัมพันธ์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความสัมพันธ์ทางกายอื่นๆ จะปลอดภัย เพราะ “การจูบ” ก็มีแนวโน้มที่จะแพร่เชื้อไวรัสที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจได้

“ไวรัสโคโรนาเป็นเชื้อไวรัสที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจ สามารถแพร่กระจายได้ผ่านน้ำลายและการสัมผัสใกล้ชิด แต่ไม่ได้แพร่เชื้อทางอวัยวะเพศโดยตรง” นพ.มาร์ก เซอร์เรย์ ศาสตราจารย์คลินิกจากภาควิชาสูตินรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียกล่าว

แนวทางปฏิบัติของกรมสุขภาพนิวยอร์กระบุว่า ควรหลีกเลี่ยงการจูบผู้ที่ไม่ได้เป็นบุคคลใกล้ชิด และนอกจากการช่วยตัวเองแล้ว การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยรองลงมาคือการมีเพศสัมพันธ์กับคู่ของตัวเอง

COVID-19 อาจนำไปสู่จำนวนผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เพิ่มมากขึ้น

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการรักษาระยะห่างทางสังคมและการต่อสู้กับเชื้อไวรัสโคโรนา กรมสุขภาพกลับกังวลเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่อาจจะพุ่งสูงขึ้นในสถานการณ์เช่นนี้ และหนึ่งในประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ คลินิกและหน่วยงานด้านสาธารณสุขที่ตรวจรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ปิดทำการ และเจ้าหน้าที่ประจำแผนกถูกเรียกตัวไปช่วยรับมือกับผู้ป่วย COVID-19 แทน

แม้ว่าการมีเพศสัมพันธ์จะไม่ทำให้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา แต่ผู้เชี่ยวชาญก็เตือนว่าควรมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยในสถานการณ์โรคระบาดใหญ่จะดีที่สุด

ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ COVID-19 ได้ที่นี่