ศาลตัดสินจำคุกยกครอบครัว "เภสัชกรเดียร์" แก๊งยาลดความอ้วนมรณะ คนละ 34 ปี 33 เดือน
ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ตัดสินแก๊งยาลดความอ้วนมรณะ จำคุก เภสัชกรเดียร์, แม่, สามีใหม่แม่ และน้องชาย คนละ 34 ปี 33 เดือน ปรับคน 2,550,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (29 เม.ย.) ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ1857/2562 และคดีหมายเลขแดงที่ อ798/2563 ซึ่งโจทก์ พนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ ยื่นฟ้อง นางสาววสภัสสร หรือ ต้อย จำเลยที่ 1 นายกฤชกร จำเลยที่ 2 นายธนกร จำเลยที่ 3 และ นางสาวจิณณะ หรือ เภสัชกรเดียร์ จำเลยที่ 4 เรื่องความผิดต่อพระราชบัญญัติโรงงาน,ความผิดต่อพระราชบัญญัติยา,ความผิดต่อพระราชบัญญัติอาหาร,ความผิดต่อพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
โดยศาลพิพากษาว่า จำเลยทั้ง 4 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 มาตรา 12 วรรคหนึ่ง,64 วรรคหนึ่ง,101,111 พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 มาตรา 25 (1)(2),58,59 พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2559 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง, 20 วรรคหนึ่ง 27(1),115 วรรคสอง,116,120,131วรรคสอง ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83
ทั้งนี้ การกระทำของจำเลยทั้ง 4 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานร่วมกันผลิตยาแผนปัจจุบันโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายกับฐานร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายเป็นการกระทำกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 แต่ละบทมีระวางโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานร่วมกันผลิตยาแผนปัจจุบันโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำคุกคนละ 5 ปี, ฐานร่วมกันขายยาแผนโบราณโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำคุกคนละ 3 ปี, ฐานร่วมกันจำหน่ายอาหารปลอมโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำคุกคนละ 5 ปี
ฐานร่วมกันผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย กับฐานร่วมกันจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายเป็นการกระทำกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 แต่ละบทมีระวางโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานร่วมกันผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายจำคุกคนละ 2 ปี, ฐานร่วมกันผลิตไซบูทรามีนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย กับฐานร่วมกันขายไซบูทรามีนโดยฝ่าฝืนกฎหมาย เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันผลิตไซบูทรามีนโดยฝ่าผืนต่อกฎหมาย ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักสุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุกคนละ 20 ปี และปรับคนละ 2,000,000 บาท, ฐานร่วมกันขายไดอาซีแพมโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำคุกคนละ 6 ปี และปรับคนละ 600,000 บาท, ฐานร่วมกันขายวัตถุออกฤทธิ์ปลอมโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายจำคุกคนละ 8 ปี ปรับคนละ 800,000 บาท
อย่างไรก็ตาม คำให้การในชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 1-3 และทางนำสืบของจำเลยทั้ง 4 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ให้กระทงละ 1 ใน 4 โดยโทษเหลือจำคุกคนละ 34 ปี 33 เดือน และปรับคนละ 2,550,000 บาท ยกฟ้องฐานร่วมกันตั้งโรงงานจำพวกที่ 3 และฐานร่วมกันประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 3 แต่ให้ริบไซบูทรามีน ไดอาซีแพม Blister, Blister Packing ของกลาง และให้ริบยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ และเครื่องจักรของกลางให้แก่กระทรวงสาธารณสุข
คดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2562 เจ้าหน้าที่บุกทลายโรงงานผลิตและเครือข่ายผู้จำหน่ายยาลดความอ้วนมรณะ ซึ่งมีการลักลอบนำสารไซบูทรามีนใส่เป็นส่วนผสม ที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยโรงงานดังกล่าว มี นางวสภัสสร อายุ 52 ปี เป็นเจ้าของ และเป็นแม่ของ นางสาวจิณณะ หรือ เภสัชกรเดียร์ ซึ่งเป็นเจ้าของคลินิกแห่งหนึ่ง ที่ น.ส.มรกต อายุ 30 ปี ชาว จ.อ่างทอง แม่ลูกอ่อนสั่งยาลดความอ้วนจากคลินิกดังกล่าวมารับประทาน ก่อนจะเสียชีวิต