ร่าง "ปลายฝน" สาววาดภาพลุงตู่ก่อนผูกคอตายถึงบ้านเกิด ตาโผลูบหน้าผากก่อนปล่อยโฮ

ร่าง "ปลายฝน" สาววาดภาพลุงตู่ก่อนผูกคอตายถึงบ้านเกิด ตาโผลูบหน้าผากก่อนปล่อยโฮ

ร่าง "ปลายฝน" สาววาดภาพลุงตู่ก่อนผูกคอตายถึงบ้านเกิด ตาโผลูบหน้าผากก่อนปล่อยโฮ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศพสาววาดภาพเหมือนนายกฯ ก่อนผูกคอตาย มาถึงวัดที่บ้านเกิดแล้ว ผู้เป็นตาโผเข้าลูบหน้าผาก ก่อนปล่อยโฮ รำพันถาม "ทำไมหนูถึงตัดสินใจเด็ดเดี่ยวนัก"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (29 เม.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่วัดแสนภูดาษ พื้นที่ ม.2 ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่อาสาสมัครจากมูลนิธิการกุศล ได้ทำการเคลื่อนย้ายร่างของ น.ส.ปลายฝน อายุ 20 ปี รปภ.สาว ที่แขวนคอตายในห้องพัก หลังจากได้ทำการวาดภาพของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก่อนเขียนระบายถึงความอัดอั้นตันใจ

ท่ามกลางการเตรียมสถานที่จัดงานสวดพระอภิธรรมศพของบรรดาญาติ ที่เข้ามาเตรียมจัดงานไว้รองรับ โดยมี นางเรวดี ตันเสถียร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐหน่วยงานแรก ที่เดินทางมารอรับตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา

ทันทีที่เจ้าหน้าที่เปิดโลงบรรจุศพ เพื่อเตรียมนำร่างของผู้เสียชีวิต ออกมาตั้งเพื่อรอทำพิธีรดน้ำศพ นายพร อายุ 69 ปี ผู้เป็นตาและเป็นผู้เลี้ยงดูผู้เสียชีวิตมาตั้งแต่เด็ก ได้ตรงเข้าไปเปิดผ้าคลุมศพ เพื่อลูบใบหน้าและร้องถามว่า "ทำไมหนูถึงตัดสินใจเด็ดเดี่ยวนักลูก" ก่อนที่จะมีญาติมาดึงพาออกไป

นายพร อายุ 69 ปี ผู้เป็นตาของ น.ส.ปลายฝน ผู้เสียชีวิตนายพร อายุ 69 ปี ผู้เป็นตาของ น.ส.ปลายฝน ผู้เสียชีวิต

นายพร กล่าวว่า เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาหลานสาวเคยโทรศัพท์มาบอกกับตนว่าไม่ให้รับเงินสงเคราะห์คนชรา จำนวน 2,000 จากรัฐบาล ทั้งยังบอกว่าเพราะเดี๋ยวรัฐบาลจะได้ผลงานและจะอยู่ต่อไปอีก ส่วนด้านการประกอบอาชีพนั้นเดิมหลานสาวเป็นคนตระเวนส่งนมอยู่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา 

แต่เนื่องจากมีโรคประจำตัวเป็นภูมิแพ้ จึงมีอาการแพ้แดดและเป็นลมจากความเหนื่อยล้าอยู่บ่อยครั้ง จึงได้เดินทางไปเป็น รปภ. ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านบางแค ตามการชักชวนของแฟนหนุ่มที่เพิ่งคบหากันได้ประมาณ 4-5 เดือน แต่หลังจากไปทำงานได้เพียงประมาณ 3 เดือน มีรายได้สัปดาห์ละ 2,000-2500 บาท แต่ก็ยังถูกหักค่าชุดครั้งละ 1 พันกว่าบาท และยังถูกหักค่าหยุดงานอีก

และเนื่องจากมักจะหยุดงานบ่อยเพราะปัญหาสุขภาพ ทำให้มีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย จึงมีการเบิกค่ากินค่าใช้จ่ายล่วงหน้า วันละ 100-200 บาท หากเงินออกแล้ว เมื่อหักค่าเบิกล่วงหน้าเหลือ จึงจะส่งเงินกลับมาให้

พอมาระยะหลังได้ยินบ่นว่าอยากจะย้ายกลับมาอยู่ที่บ้าน แต่เกรงว่าจะกลับมาหางานทำไม่ได้ แล้วจะไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกิน ตนจึงได้บอกให้อดทนทำไปก่อน เพราะเชื่อว่าในวันข้างหน้าจะดีเอง ประกอบกับได้เกิดสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 พอดี จึงยังกลับมาไม่ได้ และไม่ได้คิดถึงว่าเขาจะคิดถึงขั้นทำในตรงนี้

ส่วนหลานชายวัยเพียง 8 เดือน บุตรของหลานสาวนั้น อยู่ในความดูแลของตน เนื่องจากตนเองนั้นได้เป็นผู้ที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เกิด เนื่องจากพ่อแม่ของหลานสาวนั้นได้แยกทางกัน ตนจึงเลี้ยงมาทั้งแม่เด็ก และเลี้ยงหลานต่ออีกทอดหนึ่ง

ทั้งนี้ ร่างของ น.ส.ปลายฝน จะมีการตั้งสวดพระอภิธรรมศพ บำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 4 คืน ในเวลา 18.00 น. ของทุกวัน เนื่องจากเกรงว่าจะติดปัญหาช่วงเวลาเคอร์ฟิว ก่อนจะทำการฌาปนกิจศพต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook