ปาฏิหาริย์ศาลเจ้าแม่ทองคำ อายุกว่า 100 ปี ไฟไหม้ทุ่งนาวอด ศาลไม่มีแม้แต่รอย

ชาวบ้านเชื่อปาฏิหาริย์ "ศาลเจ้าแม่ทองคำ" อายุกว่า 100 ปี หลังไฟไหม้ทุ่งนาวอดหลายสิบไร่ แต่ศาลกลางทุ่งนาไม่มีแม้แต่รอย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (29 เม.ย.) หลังได้ยินคำเล่าลือของปาฏิหาริย์ ศาลเจ้าแม่ทองคำ หรือ เจ้าแม่ทุ่งหนองทอง ซึ่งตั้งบริเวณกลางทุ่งนาหมู่ 4 ตำบลแสวงหา อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้นาข้าวหลายสิบไร่ล้อมรอบศาลเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

แต่ปรากฏว่าหลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลแสวงหาเข้าไปดับเพลิงจนสงบ ก็ต้องประหลาดใจเมื่อศาลเจ้าแม่ทองคำ หรือ ศาลเจ้าแม่ทุ่งหนองทองไม่มีร่องรอยถูกเพลิงไหม้เลยแม้แต่นิดเดียว มีเพียงปลัดขิกที่ชาวบ้านนำมาแก้บนและวางอยู่โดยรอบถูกไฟไหม้บางส่วนเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าไปตรวจสอบพบว่าศาลเจ้าแม่ทุ่งหนองทองหรือที่ขาวบ้านรู้จักกันในชื่อของ ศาลเจ้าแม่ทองคำ ตั้งอยู่กลางทุ่งนากว่า 100 ไร่ บริเวณโดยรอบมีร่องรอยไฟไหม้นาข้าวจนดำไปทั่วบริเวณ แต่น่าประหลาดใจก็คือบริเวณโดยรอบของตัวศาลประมาณ 1 เมตร กลับไม่ถูกเพลิงไหม้เลย มีเพียงต้นโพธิ์ที่อยู่ด้านหลังถูกเพลิงไหม้จนล้มลง นอกจากนี้ยังมีปลัดขิกไม้จำนวนมากถูกไฟไหม้เสียหาย

จากการสอบถาม นางสาวปรางค์ทิพย์ อายุ 32 ปี ชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้น บอกว่า ได้ยินชื่อเสียงความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่ทองคำที่ชาวบ้านรู้จักกันดี โดยมีคนเล่าให้ฟังว่าเคยมีคนเดินหลงเข้าไปในศาลและหายไปก่อนกลับมาอีกครั้งโดยบอกว่าเข้าไปยังเมืองที่แปลกตาจนขนานนามกันว่าเป็นประตูเจ้าเมืองลับแล ส่วนตนไม่เคยเข้าไปที่ศาลเพราะอยู่กลางทุ่งได้แต่ขับรถผ่านไปมาแต่ก็เชื่อถึงความศักดิสิทธิ์

ขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นางทองหล่อ อายุ 83 ปี ซึ่งเป็นผู้บูรณะศาลเจ้าแม่เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา บอกว่า ตั้งแต่เกิดมาก็เห็นมีศาลตั้งอยู่ที่นี่อยู่แล้ว โดยทราบว่าที่ศาลมีเจ้าแม่อยู่ 3 พี่น้อง แต่ตนทราบเพียงเจ้าแม่ทองคำซึ่งเป็นองค์โต

ซึ่งเจ้าแม่ทองคำเคยมาเข้าฝันบ่อยๆ จนตนเองได้ไปบูรณะศาลให้ และกราบไหว้อยู่เป็นประจำทำให้ครอบครัวทำมาหากินขึ้น ส่วนคนที่ไม่เชื่อคนที่หลบหลู่ก็มีเกิดอุบัติเหตุกันมานักต่อนักแล้ว คนแถวนี้เขาทราบกันดี เมื่อคืนทราบว่าถูกเพลิงไหม้แต่ก็รู้ดีว่าศาลเจ้าแม่ต้องไม่เป็นอะไรเพราะศักดิ์สิทธิ์มาก ไม่เชื่อก็อย่าหลบหลู่เพราะชาวบ้านให้ความนับถือ